โรงเรียนในพื้นที่ 11 จังหวัดเสียหายหนัก สพฐ.เร่งช่วยเหลือ กำชับติดตามสถานการณ์และการเตือนภัยจากกรมอุตุฯ ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)เปิดเผยถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือ ครู นักเรียน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ว่า ขณะนี้สถานการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลให้เกิดปัญหาอุทกภัยเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งตน พร้อมด้วย นางอุษณีย์ ธโนศวรรย์ รองเลขาธิการ กพฐ. นายณรงค์ แผ้วพลสง รองเลขาธิการ กพฐ. นายสนิท แย้มเกสร ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. นายอัมพร พินะสา ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูง ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) โดยได้แบ่งสายลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพร้อมทั้งรับฟังสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่ง สพฐ.จะต้องมีการจัดทำแผนทั้งระยะสั้น ระยะยาว เพื่อรองรับการแก้ปัญหาให้ยั่งยืน และต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งจังหวัดจะต้องมาร่วมกันแก้ไขปัญหา โดยระยะแรกเริ่มจากการเร่งช่วยเหลือในเรื่องอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค และที่สำคัญเรื่องการแก้ไขปัญหาการใช้ไฟฟ้า ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมาก ต่อนักเรียน ประชาชน อุปกรณ์ช่วยชีวิตนักเรียน เสื้อชูชีพ การให้ความรู้เบื้องต้น ต่อ ชุมชน ผู้ปกครอง ครู การซักซ้อมภัยพิบัติ ทั้งก่อนและหลังการเกิดภัยพิบัติ รวมถึงการเยียวยาสภาพจิตใจด้วย สภาพโรงเรียนน้ำท่วมในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช (ภาพจากสพป.นครศรีธรรมราช เขต 2) เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อไปว่า พร้อมกันนี้ตนยังได้สั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทุกแห่งในพื้นที่เกิดอุทกภัยให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้การช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนของเด็ก ผู้ปกครอง ครู และบุคลากรทางการศึกษา และขอให้ติดตามข่าวสาร และการเตือนภัยจากกรมอุตุนิยมวิทยาและขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของนักเรียนและครู หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือรุนแรง ขอให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ชุมชน ตัวแทนกรรมการสถานศึกษา โยธา สำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย อบต. อบจ. และหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อหารือเชิงบูรณาการหาข้อสรุปเพื่อนำเสนอมายัง สพฐ.ดำเนินการเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งขณะนี้ได้รับรายงานว่ามีโรงเรียนในพื้นที่ภาคใต้ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม จำนวนทั้งสิ้น 11 จังหวัด 26 เขตพื้นที่ โรงเรียนเสียหาย 945 โรง จำนวนนักเรียนได้รับผลกระทบ 41,067 ราย