“ม็อบค้านกม.สิ่งแวดล้อม” แยกย้ายกลับบ้าน หลัง “แกนนำ” ประกาศยุติชุมนุม ลั่นอีก 1 เดือนล่า 1 หมื่นรายชื่อกลับมาใหม่ พร้อมเสนอร่างกฎหมายสิ่งแวดล้อมฉบับปชช. ให้ สนช. พิจารณา เน้นสิทธิชุมชน-การมีส่วนร่วมปชช. 7 ธ.ค. 60 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ฝั่งก.พ.) เครือข่ายประชาชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ประกอบด้วย กลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ กลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา กลุ่มคัดค้านเหมืองแร่ ยังคงปักหลักชุมนุมบนฟุตบาทหน้าสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)ฝั่งตรงข้ามทำเนียบรัฐบาลเป็นวันที่ 2 เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการผลักดันพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. …ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทั้งนี้ ในเวลา 08.30 น.ที่ชั้น 2 ศูนย์บริการประชาชนตัวแทนกลุ่มได้หารือกับพล.อ.จิระศักดิ์ ชมประสพ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี โดยผลการหารือได้ข้อสรุปว่าจะนำข้อเรียกร้องของกลุ่มไปเสนอต่อคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวของสนช. จากนั้นตัวแทนกลุ่มได้ไปยื่นข้อเรียกร้องต่อคณะกรรมาธิการฯที่สภาฯ ด้านนายประสิทธิชัย หนูนวล ผู้ประสานงานเครือข่ายฯ กล่าวว่า ข้อเสนอของทางกลุ่มฯคือ ขอหลักประกันของการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) ว่าผู้ประเมินต้องไม่ใช่ลูกจ้างของเจ้าของโครงการ เพื่อความเป็นกลาง และอยากให้หน่วยงานกลาง เช่น มหาวิทยาลัย ทำการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และก่อนการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม เราอยากให้ประเมินความเหมาะสมของพื้นที่ อย่างไรก็ตามเมื่อกฎหมายอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสนช.แล้ว เราคงทำได้เพียงเท่านี้ จากนี้จะให้ประชาชนรับประทานอาหารกลางวัน ก่อนเดินทางกลับภูมิลำเนา แต่การต่อสู้ระยะยาวเราจะยกร่างกฎหมายสิ่งแวดล้อมฉบับประชาชนเสนอให้รัฐบาลพิจารณาอีกครั้ง จากนั้นเวลา 13.25 น. นายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ได้ประกาศแจ้งผู้ชุมนุมที่ปักหลักรอให้ยุติการชุมนุมและเก็บข้าวของกลับบ้าน เนื่องจากบรรลุข้อตกลงรัฐบาล โดยนายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า จะกลับไปล่ารายชื่อ 10,000 รายชื่อ ภายใน 1 เดือน พร้อมกลับไปร่าง พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมฉบับประชาชนเพื่อเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาควบคู่กับร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวและจะกลับมาที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่ใช่ความรุนแรงและสลายการชุมนุมกับกลุ่มผู้ชุมนุม