ตำรวจเตือนนายทุน คิดซื้อหาดสวรรค์บนเกาะไร้โฉนดระวังโทษหนักหลังตรวจพบผู้มีอิทธิพลใช้งบหลวงสร้างถนนผ่าป่าอุทยานฯ ภาพมุมสูงจากกรมตำรวจ แสดงให้เห็นภาพรวมของเกาะหลีเป๊ะ หมู่ที่ 7 ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ว่าปัจจุบันนี้ได้หนาแน่นไปด้วยสิ่งปลูกสร้าง โรงแรม รีสอร์ต อาคาร บ้านเรือน ที่ผุดขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังพล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รรท.รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท รอง ผบช.ภ.9,พ.ต.อ.ชัชพิสิฐ นคราวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.สตูล ได้นำหมายค้นศาลอาญาที่ 562/2560 ลงวันที่ 10 ธ.ค.2560 เพื่อเข้าตรวจสอบที่ดิน สิ่งเพาะปลูกในที่ดิน ในบริเวณที่ตั้งของ บันดาหยา วิลล่า และ บันดาหยา รีสอร์ท หมู่ 7 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เพื่อเก็บตัวอย่างดินและหิน และสิ่งเพาะปลูกมาทำการตรวจวิเคราะห์ทางธรณีวิทยา เป็นหลักฐานประกอบการสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้องนั้น ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบบริเวณเกาะหลีเป๊ะ พบว่ามีความพยายามสร้างเส้นทางถนนคอนกรีตตัดขึ้นจุดชมวิวบนภูเขาบนเกาะหลีเป๊ะ ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จากข้อมูลพบผู้อิทธิพลบุกรุกสร้างขึ้นไปทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมป่าไม้ความยาวในระยะ 3 กิโลเมตร โดยล่าสุดทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตาได้ดำเนินทางกฎหมายอยู่ในขณะนี้ เพื่อนำผู้บุกรุกมาดำเนินคดีทางด้านกฎหมายต่อไปแล้วนั้น พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รรท.รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า บนภูเขาบนเกาะหลีเป๊ะเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอย่างมากมองเห็นเกาะราวี เกาะอาดัง และทางฝั่งนี้ยังเป็นจุดดำน้ำปะการัง 7 สี ที่สวยงามที่สุดในระดับโลก และปรากฏว่าบริเวณจุดชมวิวตรงนี้กำลังจะถูกทำลาย ด้วยการมีผู้อิทธิพลนำถนนมาตัดบนพื้นที่จุดชมวิวที่เป็นป่าไม้อันบริสุทธิ์ และมีข้อมูลเชิงลึกว่ามีกลุ่มอิทธิพลจัดสรรที่ดินขายของอุทยานฯ 2 ฝั่งฟากถนนที่ขึ้นมา ตรงนี้ยังเป็นพื้นที่เหลือที่บริสุทธิ์เพราะไม่มีบ้านคนเลย และยังพบว่าผู้อิทธิพลใช้งบประมาณของหลวงมาก่อสร้างถนนคอนกรีตตัดขึ้นมาและขายที่ดิน 2 ฝั่งให้กับนายทุนอื่นๆ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รรท.รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่อยากให้ทุกคนช่วยกัน หวงแหนและสงวนไว้ต่อไป เพื่อให้เกาะหลีเป๊ะทรงคุณค่าความเป็นธรรมชาติต่อไป โดยเมื่อครั้งพล.ต.อ.อรรทพล แช่มสุวรรณวงศ์ อดีต รอง ผบ.ตร. ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าตำรวจจังหวัดสตูล เมื่อ ปี พ.ศ. 2525 ซึ่งนับเป็นนายตำรวจผู้บุกเบิกพัฒนาเกาะหลีเป๊ะ อีกทั้งท่านเคยมายังเกาะหลีเป๊ะและพบว่าสมัยนั้นยังเป็นป่าไม้อุดมสมบูรณ์อย่างมาก บ้านเรือนยังไม่มี แต่ผ่านมาหลายปีพบว่าความเจริญรุกล้ำทำลายความสมบูรณ์ไป พร้อมกับยังมีอีกหนึ่งท่านคือนายอรรถพล เพชรชู อดีต จนท.พิทักษ์ป่า กรมวนอุทยาน ได้เล่าว่า แต่เดิมตนมีชื่อว่า นายหนูอัด เพชรชู ในช่วงปี พ.ศ.2524-2525 ตนปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาป่าไม้อยู่บนเกาะหลีเป๊ะ ซึ่งมักจะมีนายทุนว่าจ้างให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ลักลอบตัดไม้ไปแปรรูปขาย มีเจ้าหน้าที่รัฐถูกลอบยิงเสียชีวิตหลายราย วันหนึ่งตนได้เกิดการปะทะกับกลุ่มโจรบนเกาะหลีเป๊ะ และถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ได้วิทยุขอความช่วยเหลือไปยังตำรวจ ภ.จว.สตูล และท่าน พ.ต.อ.อรรทพล (ยศในขณะนั้น) และเล่าให้ฟังว่าความอุดมสมบูรณ์ป่าไม้บนเกาะหลีเป๊ะเขียวขจีมิใช้เหมือนปัจจุบันมันคือป่าปูนคอนกรีต พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รรท.รอง ผบ.ตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากจะบอกว่าใครก็ตามที่ซื้อที่บนเกาะหลีเป๊ะถ้าไม่มีเอกสารที่เป็นโฉนด ถือว่าเป็นผู้บุกรุกทั้งหมด โดยผู้ซื้อและผู้ปลูกจะมีความผิด ฐาน บุกรุกวนอุทยานซึ่งมีอัตราโทษจำคุกสูง โดยเร่งให้ทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตาเร่งสืบเสาะตามคดีต่อไป เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้ป่าอาจถูกทำลายมากกว่านี้