กองทัพเดินด้วยท้อง กองทหารเดินด้วยงบประมาณกันโดยแท้ นั่นคือ การบริหารจัดการด้านความมั่นคง สำหรับกองทัพสมัยใหม่ ที่มิใช่ บุคลากรเตรียมสเบียงกรังมาจากบ้าน เฉกเช่นแบบ “เข้าเดือน ออกเดือน” สมัยโบราณ ว่าแล้ว รัฐบาลของเกาหลีใต้ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ก็ได้กด “ไฟเขียว” อนุมัติงบประมาณจำนวน 340 ล้านวอน หรือราว 310,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ จัดสรรไปยังหน่วยทหารที่มีชื่อว่า “กองพันรบพิเศษลอบสังหารคิม จอง-อึน” หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า “หน่วยบั่นคอ” ซึ่ง “คอ” ที่จะบั่นสะบั้นให้หลุดจากบ่าไป ก็มิใช่ใครอื่น ก็คือ นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ จอมห้าวแห่งคาบสมุทรโสม ณ ชั่วโมงนี้ นั่นเอง ที่มาที่ไปของหน่วยทหาร ซึ่งฟังชื่อแล้วชวนสยองหน่วยนี้ ก็เป็นหนึ่งในมาตรการตอบโต้ทางการทหารของทางฝั่งเกาหลีใต้ เจ้าของฉายา “โสมขาว” ภายหลังจาก “เกาหลีเหนือ” สมญานาม “โสมแดง” เพื่อนร่วมชาติสายพันธุ์โสมด้วยกัน ได้ทดลองขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์กันอยู่เนืองๆ จนสร้างความอกสั่นขวัญแขวนให้แก่ชาวโสมขาวกันไปทั่วว่า บรรดาอาวุธมหาประลัยจากทางฟากเกาหลีเหนือนั้น จะ “บอมบ์” ใส่พวกเขาเข้าสักวัน ส่งผลให้ทางทีมงานด้านความมั่นคงของเกาหลีใต้สมัยอดีตประธานาบดีพัก กึน-ฮเย ได้ถวิลหาที่จะสถาปนา หน่วยทหารมากด้วยความสามารถขึ้นมาสักหน่วยหนึ่ง สำหรับเตรียมการไว้ใช้รัรบมือหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน คือ สงครามที่อาจปะทุขึ้นอีกระลอกบนคาบสมุทรเกาหลี และแล้ว เมื่อช่วงต้นปีนี้ ทีมงานทางการทหารฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาลโซลของอดีตประธานาธิบดีพักฯ ก็ได้สถาปนาหน่วยทหารขึ้นมากองหนึ่ง เป็นระดับ “กองพัน” ตั้งชื่อให้ฝ่ายตรงข้ามออกอาการขวัญผวาทันทีที่ได้ยินได้ฟังว่า “หน่วยบั่นคอ” หรือชื่อทางการก็คือ “กองทัพรบพิเศษลอบสังหารคิม จอง-อึน” เป็นหน่วยขึ้นตรง หรือนขต. ของ “หน่วยรบพิเศษ” อีกทีหนึ่ง รูปแบบการฝึกฝน ก็ต้องบอกว่า คือ ทหารที่มีประสิทธิภาพทางการรบเหมือนหน่วยรบพิเศษกันดีๆ นี่เอง ทว่า การฝึกฝนในบางประการอาจจะเข้มข้นกว่า เพื่อให้ทหารในสังกัดประจำหน่วย มีศักยภาพด้านการสังหารกันโดยแท้ ทั้งนี้ ทั้งนั้น ถ้าเป็นไปได้ ทางการเกาหลีใต้ ก็หมายใจไว้ว่า ทหารกำลังพลของหน่วยดังกล่าว มีศักยภาพวัดเทียบเท่าได้กับหน่วยจู่โจม หน่วยกรีนเบเรต์ หน่วยเดลตาฟอร์ซ หรือหน่วยซีลทีม6 หรือทีมซิกซ์ ของกองทัพสหรัฐอเมริกา ได้ยิ่งดี เพื่อให้มีความสามารถด้านการสังหาร เหมือนอย่างที่หน่วยรบพิเศษของสหรัฐฯ พวกนี้ เข้าไปเด็ดชีพนายอุสมะห์ บิน ลาเดน ผู้นำขบวนการอิสลามหัวรุนแรงอัลกออิดะฮ์ แม้จะหลบซ่อนตัวกบดานในปากีสถานกันก็ตามที แต่สำหรับหน่วยบั่นคอของเกาหลีใต้หน่วยนี้ ก็มีหมุดหมายเพื่อจะสังหารนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ที่มีระบบการรักษาความปลอดภัยสุดเข้มงวดเป็นหลัก โดยงบประมาณจำนวนข้างต้น ซึ่งได้รับการอนุมัติอย่างไฟเขียวกันพร้อมหน้า หลังการทดลองยิงขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปของเกาหลีเหนือครั้งล่าสุด เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานี้เอง และถือเป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งเท่านั้น เพราะจะมีการระดมงบประมาณอีกหลายชอตตามมาอีกไม่ต่ำกว่า 23 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อจัดสรรมาใช้ทั้งในด้านการฝึกฝนกำลังพล แล้ว ก็ยังเพื่อมาจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ สำหรับมาใช้การสังหารผู้นำสูงสุดของโสมแดงรายนี้ขึ้นมาโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินแบบไร้คนขับ หรือโดรน ติดระเบิดมาเต็มลำ ให้มาพุ่งชนโจมตีนายคิมน้อย แบบโดรนถ้าจะพังก็ให้พังไปเลย นอกจากนี้ก็ยังเครื่องยิงลูกระเบิด รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการตรวจการณ์และสอดแนมหาข่าวต่างๆ พลันที่เกาหลีใต้ ประกาศสถาปนาจัดตั้งหน่วยพิฆาตระดับมหากาฬข้างต้น ก็ทำเอา “ทางการเปียงยาง” ของ “นายคิม จอง-อึน” ออกมาเต้นผาง ด้วยความเกรี้ยวกราด ก่อนส่งเสียงก่นประณามต่อเพื่อนบ้านทางใต้ตามมาว่า ไม่ผิดอะไรกับการประกาศสงครามของชาติที่ได้ชื่อว่าเป็นหุ่นเชิดของสหรัฐฯ คู่ปรปักษ์กันเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม เมื่อกล่าวถึงการจัดตั้งหน่วยรบพิเศษเฉพาะกิจทำนองนี้ของเกาหลีใต้ เพื่อมาปฏิบัติการในเกาหลีเหนือ ก็มิใช่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยเคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อย้อนกลับไปร่วมกึ่งศตวรรษก่อน คือ ช่วงคริสต์ทศวรรษ1960 ที่รัฐบาลโซล ได้จัดตั้ง “หน่วยบั่นคอ” ลักษณะนี้ขึ้นมา เพื่อหวังเด็ดหัว ปลิดชีพ “นายคิม อิล-ซ็อง” อดีตผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ และเป็นปู่ของนายคิม จอง-อึน โดยผลปฏิบัติการของหน่วยดังกล่าว ไม่ประสบความสำเร็จ คือ นายคิม อิล-ซ็อง ไม่ได้เสียชีวิตเพราะน้ำมือของหน่วยรบพิเศษที่ว่า แต่มาสิ้นชีพเพราะโรคประจำตัว คือ โรคหัวใจ ของเขาเอง สำหรับ การเผชิญหน้าระหว่างหน่วยบั่นคอของเกาหลีใต้ กับคิมน้อย หลานนายคิม อิล-ซ็อง ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือยุคนี้ ก็ยังไม่รู้หมู่รู้จ่า ว่าสุดท้ายแล้ว ใครกันแน่ที่จะถูกบั่นคอ ทว่า นายคิม จอง-อึน ไม่ได้ผจญกับหน่วยบั่นคอของเกาหลีใต้ ซึ่งมีจำนวนราว 1,000 นาย เท่านั้นหรอก แต่ยังมีสารพัดหน่วยรบพิเศษจากกองทัพสหรัฐฯ ก็หมายมั่น สนใจว่า จะสะบั้นเศียรของ “คิมน้อย” จอมห้าวรายนี้ด้วยเช่นกัน ใช่แต่เท่านั้น แม้บรรดาแกนนำระดับสูงในรัฐบาลเปียงยาง หลายคนก็ตกเป็นเป้าการลงมือของหน่วยสังหาร มือเพชฌฆาตระดับมหากาฬทั้งจากสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ดังกล่าวนั้นด้วย