กลายเป็นวันชาติอันสุดเศร้าในปีนี้ สำหรับ วันชาติสหรัฐอเมริกา ซึ่งจัดขึ้นทุกวันที่ 4 กรกฎาคมของทุกปี
เมื่อเวลา 04.00 น. ก่อนรุ่งสางของวันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา เหล่าบรรดาผู้คนชาวเทศมณฑลเคอร์เคาน์ตี เมืองเคอร์ หรือเคอร์วิลล์ รัฐเทกซัส จำนวนนับหมื่น พร้อมด้วยคณะเด็กนักเรียนหญิงอีกกว่า 750 คน ในค่ายพักแรม หรือแคมป์ “มิสติก” ในเทศมณฑลเคาน์ตีดังกล่าว ต้องผจญชะตากรรมภัยพิบัติทางธรรมชาติ อย่างแทบจะไร้คการ0แจ้งเตือนล่วงหน้ากับภัยน้ำท่วมใหญ่ หรือมหาอุทกภัย จากทางการ
เป็นมหาอุทกภัย ที่น้ำท่วมสูงฉับพลัน ซึ่งเอ่อล้นจากแม่น้ำกัวดาลูเป หลังฝนตกหนักลงมาอย่างต่อเนื่องเมื่อช่วงก่อนหน้า
ตามการเปิดเผยของ ทางการท้องถิ่น ระบุว่า ปริมาณน้ำฝนที่วัดได้จากพระพิรุณที่กระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาครั้งนี้ มีอัตราเฉลี่ยสูงถึง 15 นิ้วด้วยกัน ในพื้นที่เทศมณฑลเคอร์เคาน์ตี ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุทกภัยในครั้งนี้
บรรดานักอุตุนิยมวิทยาในสหรัฐฯ แสดงทรรศนะว่า ปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ยข้างต้น ซึ่งตกเทกระหน่ำลงมาได้ไม่กี่ชั่วโมง ก็เทียบเท่ากับปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ยที่ตกลงมารวมกันเป็นเวลา 4 เดือนเลยทีเดียว สำหรับพื้นที่ย่านนั้น
ด้วยปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ยที่วัดได้ในระดับดังกล่าว ก็ส่งผลระดับในแม่น้ำกัวดาลูเป สูงเกินกว่าระดับน้ำที่เคยท่วมใหญ่ ภายในระยะเวลาเพียง 2 ชั่วโมง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในครั้งนี้นั้นมีปริมาณมากจริงๆ
จากนั้นปริมาณน้ำฝนในระดับข้างต้น ก็แปลงกายไปเป็นมัจจุราชไปในบัดดล พร้อมกับกลืนกินชีวิตของผู้คนที่กำลังหลับใหลในช่วงก่อนเช้าตรู่ของวันที่กำลังจะมีการเฉลิมฉลองวันชาติดังกล่าว
เบื้องต้นในรายงานข่าวหลังเกิดเหตุการณ์ได้ไม่นาน ก็ยังมีผู้เสียชีวิตสิบกว่าราย ก่อนที่จำนวนจะเพิ่มขึ้นโดยลำดับ หลังจากทางการระดมกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยลงพื้นที่
จนล่าสุดตัวเลขผู้เสียชีวิตก็มีจำนวนมากกว่า 82 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเด็กนักเรียนหญิงที่ไปเข้าค่าย 28 รายด้วยกัน ส่วนผู้สูญหายยังมีจำนวนอีกหลายสิบราย ในจำนวนนี้เป็นเด็กนักเรียนหญิงที่มาเข้าค่าย ยังไม่รู้ชะตากรรมอีกกว่า 41 ราย
ทั้งนี้ มีรายงานว่าในระหว่างเกิดเหตุ ในค่ายพักแรมดังกล่าว มีเด็กนักเรียน ซึ่งทั้งหมดเป็นนักเรียนหญิง มาเข้าค่ายจำนวนไม่น้อยกว่า 750 คนด้วยกัน
ภายหลังจากทีมกู้ภัยลงพื้นที่น้ำท่วม ก็สามารถช่วยเหลือทั้งประชาชนคนในพื้นที่ และเด็กนักเรียนหญิงที่มาเข้าค่ายพักแรมในช่วงฤดูร้อน หรือซัมเมอร์ รวมแล้วก็กว่า 850 คน
โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัย เปิดเผยว่า ผู้ประสบภัยบางรายถูกช่วยมาได้จากต้นไม้ เพราะปีนขึ้นไปบนต้นไม้ เพื่อหนีน้ำ
อย่างไรก็ตาม ทางทีมกู้ภัยยังคงออกปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือผู้ที่สูญหาย โดยต้องแข่งกับเวลา ท่ามกลางอุปสรรคจากสายน้ำที่ยังคงท่วมสูงในหลายพื้นที่ และกระแสน้ำยังเชี่ยวกราก นอกจากนี้ ยังต้องฝ่าสิ่งกีดขวางจากซากปรักหักพังทั้งหลายอีกต่างหาก
ทางด้านปฏิกริยาจากฝ่ายต่างๆ ปรากฏว่า ทางประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ พร้อมด้วยนางเมลาเนีย ทรัมป์ ภริยา ในฐานะสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ ได้ใช้โซเชียลมีเดีย เป็นช่องทางสื่อสารแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้สูญเสีย และให้กำลังใจแก่ผู้ประสบภัย ตลอดจนทีมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยทั้งหลาย พร้อมทั้งยกย่องความกล้าหาญของทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัย
นอกจากนี้ ในช่วงเริ่มแรกที่เกิดเหตุ ทางประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวว่า ตนรู้สึกตกใจกับอุทกภัยที่เกิดขึ้นอย่างน่ากลัว โดยรัฐบาลของตนกำลังทำงานร่วมกับผู้ว่าการรัฐเทกซัส เพื่อดูแลผู้ประสบภัย
ทางด้าน นางคริสตี โนม รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ กล่าวว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ พร้อมตอบรับคำขอของผู้ว่าการรัฐเทกซัส ที่ต้องการให้ประกาศภัยพิบัติ ในพื้นที่ประสบเหตุ เพื่อเปิดทางนำไปสู่การจัดสรรความช่วยเหลือเป็นประการต่างๆ จากรัฐบาลกลางไปยังรัฐเทกซัส
ด้านนายเกร็ก แอบบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเทกซัส แถลงว่า ปฏิบัติการค้นหาและการกู้ภัย ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยทางการรัฐเทกซัส ได้ทุ่มเททรัพยากรต่างๆ ไปในปฏิบัติการดังกล่าว อย่างไม่มีขีดจำกัด
เมื่อเกิดภัยพิบัติจากอุทกภัยจนไปนำไปสู่การสูญเสีย และการกู้ภัยก็ยังคงดำเนินไปอยู่นั้น ก็ส่งผลให้การเฉลิมฉลองเนื่องในเทศกาลวันชาติที่จะมีขึ้นตั้งแต่วันศุกร์ ไปจนตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในรัฐเทกซัส ก็มีอันต้องถูกยกเลิกไปโดยปริยาย
ขณะเดียวกันทางด้านบรรดานักอุตุนิยมวิทยา และนักสมุทรศาสตร์ในสหรัฐฯ ต่างออกมาแสดงทรรศนะด้วยการชี้นิ้วปักโทษไปที่นโยบายปรับลดงบประมาณรายจ่าย จนนำไปสู่การเลิกจ้างบุคลากร เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอุตุนิยมวิทยาและสมุทรศาสตร์ไปจำนวนมิใช่น้อย พร้อมกับทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงตามไปด้วย เช่น องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือโนอา (NOAA) ซึ่งเจ้าหน้าที่บุคคลของหน่วยงานถูกเลิกจ้างไปเป็นจำนวนมาก ทำให้ปฏิบัติการพยากรณ์และการเตือนภัยเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศและน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ ลดลงไปด้วย
ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายริค สปินแรด อดีตผู้อำนวยการองค์การโนอา ก็ยังออกมาวิพากษ์วิจารณ์เชิงตำหนิ เกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังเกิดเหตุอุทกภัยขึ้น
โดยทางคริสตี โนม รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ ก็ออกมายอมรับว่า การพยากรณ์สภาพอากาศต่างๆ ดูจะไม่แม่นยำ แต่ทางรัฐบาลก็กำลังพิจารณาปรับปรุง
นอกจากนี้ ก็ยังมีเรื่องสถานที่ตั้งของค่ายหรือแคมป์พักแรมว่า ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำมากเกินไป เมื่อเกิดเหตุขึ้น จึงหนีไม่ทัน ก็คงต้องพิจารณาทบทวน แบบล้อมคอก กันใหม่
