วันที่ 15 กรกฎาคม 2568 วลา 13.30 น.ได้เกิดเหตุการณ์ชายหญิงกัมพูชา ด่าทหารไทยที่บริเวณทางขึ้นบันไดปราสาทตาเมือนธม  ซึ่งเป็นจุดที่ชาวกัมพูชาขึ้นมา โดยมีทหารไทยยืนอยู่เพียงนายเดียว  หลังจากที่ชาวชาวกัมพูชาโวยวายเสียงดัง พบว่าทหารกัมพูชา นับสิบนายกรูเข้ามา ที่บริเวณดังกล่าว และชี้ให้ทารไทยกลับขึ้นไป  ทั้งที่จุดนั้นเป็นจุดที่ทหารไทยต้องยืนสังเกตุการณ์เนื่องจากเป็นพื้นที่ปราสาทตาเมือนธมของไทย ขณะที่ผู้บังคับบัญชาทหารไทยยืนอยู่ด้านบน ได้สั่งให้ทหารไทยลงมาช่วยกัน ก่อนทหารกัมพูชาจะเริ่มถอยออก  ระหว่างนั้นทหารไทยก็ได้แจ้งให้ประชาชนชาวไทยรีบออกจากพื้นที่ปราสาท  และฝ่ายปกครองก็เร่งระบายประชาชน พ่อค้าแม่ค้า นักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน บางส่วนให้วิ่งเข้าไปในหลุมหลบภัยรอการอพยพ

ขณะที่ชาวกัมพูชาก็วิ่งลงไปฝ่ายกัมพูชาเช่นกัน  ขณะที่ทหาร และฝ่ายปกครองต่างเร่งระบายอพยพรถของประชาชนออกนอกพื้นที่ และกันพื้นที่ด้านนอกไม่ให้ประชาชนเข้าไปเที่ยว พร้อมปิดการจราจจรไม่ให้เข้า  อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ยังไม่ทราบสถานการณ์ในตัวปราสาทตาเมือนธม และยังไม่ได้ยินเสียงปืนหรือการสู้รบแต่อยางใด ประชาชนตามหมู่บ้านต่างจับกลุ่มกัน รอคำสั่งว่าจะต้องอพยพหรือไม่

ทั้งนี้ต่างฝ่ายต่างไม่มีอาวุธแต่อย่างใดระหว่างเกิดเหตุการณ์ คาดว่าอยู่ระหว่างประสานงานเจรจาระหว่างผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสองประเทศ

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ทางทหาร รายงานเหตุการณ์ต่อผู้บังคับบัญชาว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น เมื่อ 15 ก.ย.68  เวลา 12.50 น.ได้มีนักท่องเที่ยวของกัมพูชา หญิง 1 คน  นั่งเฝ้ามองกำลังพลทหารของฝ่ายไทยบริเวณต้นขี้เหล็กทางทิศใต้ประสาทตาเมือน บริเวณบันไดทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม  จากนั้นได้ตำหนิฝ่ายไทยว่ามายืนในดินแดนของประเทศกัมพูชาทำไม และไล่ทหารไทยให้ขึ้นไปข้างบนตัวปราสาทตาเมือนธม

จากนั้นได้ชี้หน้าทหารไทยและใช้คำพูดที่หยาบคาย จนท . ทหารไทยจึงใช้คำพูดอธิบายให้นักท่องเที่ยวฟังแต่ฝ่ายกัมพูชาไม่ฟัง และได้นำกำลังทหารที่เป็นชุดประสานงาน มารวมตัวที่บริเวณทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม(บันได)

จากนั้นเริ่มมีปากเสียงทะเลาะกันของ จนท.ชุดประสานงาน ทั้ง 2 ฝ่าย จนท.ชุดประสานงานฝ่ายไทยจึงได้รีบให้นักท่องเที่ยวออกจากปราสาท และนำออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุดเพื่อความปลอดภัย

จากนั้นอีก 10 นาทีได้มีการพูดคุยกันของเจ้าหน้าที่ชุดประสานงานทั้ง2ฝ่าย  และตกลงทำความเข้าใจกันได้ ให้กลับสู่สภาวะปกติ โดย ผบ.พัน.ร.21ได้ พบปะเจรจากับ ทกพ.เรียบร้อย สถานการณ์ปกติ ตอนนี้อนุญาตให้ นทท.ฝั่งไทยเข้าเยี่ยมชมปราสาทฯ ได้ตามปกติแล้ว