ลุ้นไทยจบที่ตรงไหน "กอบศักดิ์" ยกตัวอย่าง Great Deal หลังทรัมป์ปิดดีลอินโดฯ ลดภาษีเหลือ 19% 

วันที่ 16 ก.ค.68 ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ และเลขานุการ ธนาคารกรุงเทพ และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกอบศักดิ์ ภูตระกูล ระบุว่า... 

32% ก็เหลือ 19% ได้ ถ้ามี Great Deal !!!

ดีลนี้ President Trump บอกว่าเป็น Great Deal for US

เช่นเดียวกับตอนที่ประกาศว่า ได้เจรจากับเวียดนามเสร็จแล้ว

โดยสิ่งที่สหรัฐจะได้ …

Complete and Total Access ที่จะเข้าไปตลาดอินโดนีเซียที่มีคน 280 ล้านคน

Tariff and Non Tariff Barrier Free สำหรับสินค้าอเมริกา

บวกกับข้อเสนอเพิ่มเติม ที่จะซื้อสิ่งต่างๆ จากสหรัฐ

- สินค้าพลังงาน 1.5 หมื่นล้านดอลล่าร์

- สินค้าเกษตร 4.5 พันล้านดอลลาร์

- เครื่องบิน Boeing 50 ลำ (ส่วนมาก 777)

สำหรับข้อตกลงด้านภาษี Tariffs ประกอบด้วย

- สินค้าสหรัฐส่งไปที่อินโดนีเซีย 0%

- สินค้าอินโดนีเซียไปสหรัฐ 19%

- สินค้า Transhipment จากประเทศอื่นๆ ก็จะถูกเรียกเก็บภาษีของประเทศนั้นๆ

กรณีของอินโดนีเซีย นับเป็นประเทศที่สองในอาเซียนที่สหรัฐประสบความสำเร็จในการเจรจา ให้ดีล 19% หลังจาก เวียดนาม ได้รับดีล 20% ในช่วงก่อนหน้า

เป็นตัวอย่างของดีลที่เรียบง่าย เข้าใจง่าย - Total and Free Acess สำหรับสินค้าอเมริกา บวกกับ การซื้อสินค้าสหรัฐเพิ่มเติม เพื่อให้ได้รับดีลที่ดีกว่าเวียดนาม

และเป็นตัวอย่างว่า “ได้รับจดหมายแล้ว ก็ยังเปลี่ยนได้ ถ้ามี Great Deal ที่ใช่สำหรับสหรัฐ”

มาลุ้นกันครับว่า ไทยจะจบที่ตรงไหน

จะอยู่ในช่วงที่ห่างจากคู่แข่งทั้งสองนี้ไม่มากหรือไม่

ซึ่งนอกจากสองประเทศนี้แล้ว

ในกลุ่มอาเซียน-5 ที่สำคัญกับไทย

ฟิลิปปินส์ 20%

มาเลเซีย 25% (กำลังเจรจาอยู่ เพื่อให้ได้อย่างน้อย 20%)

สิงคโปร์ 10% (แต่อาจจะถูกปรับขึ้นได้เป็น 15-20% เหมือนกับประเทศอื่นๆ อีกกว่า 100 ประเทศ)

หมายความว่า ตอนนี้เหลือแค่ไทยคนเดียวในกลุ่มนี้ ที่ยังเกิน 30%

ซึ่งจะมีนัยยะในระยะสั้น ระยะยาว กับเศรษฐกิจไทยอย่างยิ่ง !!!!

เป็นกำลังใจให้กับทีมไทยแลนด์ครับ

#มุมมองดรกอบ #Trump #ReciprocalTariffs #Indonesia #IndonesiaDeal #TradeAgreement #ReciprocalTariffs #เศรษฐกิจโลก #การค้าระหว่างประเทศ #ASEAN #สหรัฐอินโดนีเซีย #ภาษีทรัมป์