คอลัมน์ “พระบารมีปกเกล้าฯ” เรียนรู้พระบรมราโชวาทและพระราชดำรัส ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ดร.สุทิน ลี้ปิยะชาติ ท่านผู้อ่านที่เคารพครับ ในโอกาสวาระดิถีขึ้นปีใหม่เข้าสู่ปีพุทธศักราช ๒๕๖๐ นี้ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้และเพื่อความเป็นสิริมงคลของปวงชนชาวไทย กระผมขออัญเชิญพระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชพระราชทานในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ มาให้ทุกท่านน้อมนำไปเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ดังนี้ พระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานในวโรกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช ๒๔๙๙ ความตอนหนึ่งว่า “...ขอทุกฝ่ายจงตั้งจิตร่วมใจกัน สร้างความมั่นคงให้แก่ประเทศชาติ ยึดมั่นในอุดมคติที่จะปฎิบัติหน้าที่ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มุ่งต่อประโยชน์ส่วนรวม เพื่อประเทศของเราจะได้เจริญวัฒนาสถาพรสืบไป...” พระราชดำรัสพระราชทานในวโรกาสวันขึ้นปีใหม่ ปีพุทธศักราช ๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ ความตอนหนึ่งว่า “...ความสุขความเจริญนี้แม้เป็นสิ่งที่พึงปรารถนาอย่างยิ่ง แต่ในวิถีชีวิตของคนเรานั้น ย่อมต้องมีทั้งสุขและทุกข์ ทั้งความสมหวังและผิดหวัง เป็นปรกติธรรมดา ทุกคนจึงต้องเตรียมตัว เตรียมใจ และเตรียมการให้พร้อม อย่าประมาท ในปีใหม่นี้ จึงขอให้ท่านทั้งหลายได้รักษาและสร้างเสริมสุขภาพของตนให้สมบูรณ์ ให้มีกำลังกายที่แข็งแรง มีกำลังใจที่เข้มแข็งหนักแน่น และมีสติรู้เท่าทันอยู่เสมอ จักได้สามารถ นำพาตนให้ผ่านพ้นสถานการณ์ต่างๆ อันไม่พึงประสงค์ จนบรรลุถึงความสุข ความเจริญ และความสำเร็จได้ดังที่ตั้งใจปรารถนา...” พระราชดำรัสพระราชทานในวโรกาสวันขึ้นปีใหม่ ปีพุทธศักราช ๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ ความตอนหนึ่งว่า “...ในปีใหม่นี้ ขอให้ประชาชนชาวไทยตั้งใจให้เที่ยงตรงแน่วแน่ ไม่ว่าจะทำการสิ่งใดให้คิดให้ดี ให้รอบคอบและรอบด้าน เพื่อให้การกระทำนั้นบังเกิดผลเป็นความสุข ความเจริญที่แท้จริงและยั่งยืน ทั้งแก่ตนเองและประเทศชาติ...” พระราชดำรัสพระราชทานในวโรกาสวันขึ้นปีใหม่ ปีพุทธศักราช ๒๕๕๗ เมื่อวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๖ ความตอนหนึ่งว่า “...ความปรารถนาของทุกๆคน คงไม่แตกต่างกันนัก คือต้องการให้ตนเองมีความสุข ความเจริญ และให้บ้านเมือง มีความสงบ ร่มเย็น ในปีใหม่นี้ ขอให้ท่านทั้งหลายรักษาสุขภาพกาย สุขภาพจิตให้สมบูรณ์แข็งแรง เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เต็มกำลัง ข้อสำคัญ จะคิดทำสิ่งใด ให้นึกถึงส่วนรวม และความเป็นไทยไว้เสมอ งานของตนและงานของชาติ จะได้ดำเนินก้าวหน้าไปโดยถูกต้อง เที่ยงตรง ไม่ติดขัด และบรรลุถึงประโยชน์ เป็นความสุข ความเจริญและความสงบร่มเย็น ดังที่ทุกคนตั้งใจปรารถนา...” พระราชดำรัสพระราชทานในวโรกาสวันขึ้นปีใหม่ ปีพุทธศักราช ๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๖ ความตอนหนึ่งว่า “...ในปีใหม่นี้ ข้าพเจ้าจึงปรารถนาอย่างยิ่ง ที่จะเห็นคนไทยเราได้ตั้งจิตตั้งใจให้มั่นคงอยู่ในความเมตตาและหวังดีต่อกัน ดูแลเอาใจใส่กัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ให้กำลังใจแก่กันและกัน ผูกพันกันไว้อย่างญาติ และฉันมิตร ทุกคน ทุกฝ่าย จะได้ร่วมมือ ร่วมจิตซึ่งกัน สร้างสรรค์ความสุข ความเจริญ มั่นคง ให้แก่ตน แก่ชาติได้ ดังที่ตั้งใจปรารถนา ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงคุ้มครองรักษาท่านทุกคน ให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากโรคภัย ให้มีความสุขกาย สุขใจ ตลอดศกหน้านี้ โดยทั่วกัน...” พระราชดำรัสพระราชทานในวโรกาสวันขึ้นปีใหม่ ปีพุทธศักราช ๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ ความตอนหนึ่งว่า “...ข้าพเจ้าได้กล่าวไว้หลายครั้งแล้วว่า วิถีชีวิตของคนเรานั้น จะต้องมีทุกข์ มีภัย มีอุปสรรค ผ่านเข้ามาเนืองๆ ไม่มีผู้ใดจะอยู่เป็นปกติสุขอย่างเดียวได้ ทุกคนจึงต้องเตรียมกาย เตรียมใจ และเตรียมการไว้ ให้พร้อมเสมอ เพื่อเผชิญ และป้องกัน แก้ไขความไม่ปกติเดือดร้อนต่างๆ ด้วยความไม่ประมาท ด้วยเหตุผล ด้วยหลักวิชา และด้วยสามัคคีธรรม ในปีใหม่นี้ จึงขอให้ประชาชนชาวไทยได้ตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท โดยมีสติรู้ตัว และปัญญา รู้คิด กำกับอยู่ตลอดเวลา ผู้ใดมีภาระหน้าที่อันใด ก็เร่งกระทำ ให้สำเร็จลุล่วงไป ให้ทันการณ์ ทันเวลา...” พระราชดำรัสพระราชทานในวโรกาสวันขึ้นปีใหม่ ปีพุทธศักราช ๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ ความตอนหนึ่งว่า “...ความปรารถนาของทุกคนคงไม่แตกต่างกันนัก คือ ต้องการให้ตนเองมีความสุขความเจริญ และให้บ้านเมืองมีความสงบร่มเย็น ในปีใหม่นี้ ข้าพเจ้าจึงปรารถนาอย่างยิ่งที่จะเห็นคนไทยมีความสุขถ้วนหน้ากัน ด้วยการให้ คือ ให้ความรักความเมตตากัน ให้น้ำใจไมตรีกัน ให้อภัยกัน ให้การสงเคราะห์อนุเคราะห์กัน โดยมุ่งดีมุ่งเจริญต่อกัน ด้วยความบริสุทธิ์และจริงใจ ทุกคนทุกฝ่าย จะได้สามารถร่วมมือ ร่วมความคิดอ่านกัน สร้างสรรค์ความสุข ความเจริญมั่นคง ให้แก่ตนและประเทศชาติ อันเป็นสิ่งที่แต่ละคนต้องการให้สำเร็จผลได้ ดังที่ตั้งใจปรารถนา ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จงคุ้มครองรักษาท่านทุกคน ให้มีความสุข ไม่มีทุกข์ ไม่มีภัย ตลอดศกหน้านี้โดยทั่วกัน...” พระราชดำรัสพระราชทานในวโรกาสวันขึ้นปีใหม่ ปีพุทธศักราช ๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๒ ความตอนหนึ่งว่า “...ความสุขสวัสดีนี้ เป็นสิ่งที่พึงปรารถนาอย่างยิ่งของคนเรา แต่จะสำเร็จผลเป็นจริงได้มากน้อยเพียงใด ย่อมขึ้นอยู่กับความสามารถ และสติปัญญา ในการประพฤติตัว ปฏิบัติงานของแต่ละบุคคล ในปีใหม่นี้ จึงขอให้ชาวไทยทุกคนได้ตั้งจิต ตั้งใจให้เที่ยงตรง แน่วแน่ที่จะประพฤติตัว ปฏิบัติงาน ให้เต็มกำลังความสามารถ โดยมีสติรู้ตัว และปัญญารู้คิด กำกับอยู่ตลอดเวลา กล่าวคือ จะคิด จะทำสิ่งใด ต้องคิดหน้า คิดหลังให้ดี ให้รอบคอบ ทำให้ดี ให้ถูกต้อง ข้อสำคัญ จะต้องระลึกรู้ โดยตระหนักว่า ประโยชน์ส่วนรวมนั้น เป็นประโยชน์ที่แต่ละคน พึงยึดถือ เป็นเป้าหมายหลัก ในการประพฤติตัว และปฏิบัติงาน เพราะเป็นประโยชน์ที่ยั่งยืน แท้จริง ซึ่งทุกคนมีส่วนได้รับ ทั่วถึงกัน ความสุข ความสวัสดี จักได้เกิดมีขึ้น ทั้งแก่บุคคล ทั้งแก่ชาติบ้านเมืองไทย ดังที่ทุกคน ทุกฝ่าย ตั้งใจปรารถนา...” พระราชดำรัสพระราชทานในวโรกาสวันขึ้นปีใหม่ ปีพุทธศักราช ๒๕๕๒ เมื่อวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๑ ความตอนหนึ่งว่า “...ขอให้ประชาชนชาวไทย ได้ตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท จะคิด จะทำสิ่งใด ให้คิดหน้าคิดหลังให้ดี ให้รอบคอบ ทำให้ดี ให้ถูกต้อง ผลของการคิดดี ทำดีนั้น จะได้ส่งเสริมให้แต่ละคน ประสบแต่ความสุข ความเจริญ และทำให้ชาติบ้านเมือง มีความเรียบร้อยและอยู่เย็นเป็นสุข ดังที่ทุกคน ทุกฝ่าย ตั้งใจปรารถนา ในปีใหม่นี้ ข้าพเจ้าจึงขอให้ท่านทั้งหลาย พยายามทำความคิดจิตใจให้สงบแจ่มใส ทำความเข้าใจอันดีในกันและกันให้เกิดขึ้น ผู้ที่ทำประโยชน์เกื้อกูลกัน ก็ควรแสดงไมตรีตอบขอบใจกัน ด้วยความรักความหวังดี ทุกคน ทุกฝ่าย จะได้สามารถร่วมมือ ร่วมความคิดกัน ปฏิบัติงานของตน ของชาติ ให้ดำเนินก้าวหน้าไปโดยราบรื่น และมั่นคงบรรลุถึงจุดประสงค์ตามที่มุ่งหมาย...” ท่านผู้อ่านที่เคารพครับ กระผมขอเชิญชวนทุกท่านเรียนรู้พระราชดำรัสพระราชทานในวันขึ้นปีใหม่และที่พระราชทานในวโรกาสต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตเพื่อผลแห่งการคิดดี ทำดี แจ่มใส อันจะนำมาซึ่งความสำเร็จ สุขกาย สบายใจ ในวาระดิถีวันปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ กระผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยปกป้องคุ้มครองทุกท่านประสบแต่ความสุข และมีสุขภาพที่แข็งแรงตลอดไปครับ