"พล.ต.ท.ดร.สุวิระ" นำกำลังบุกตรวจค้นโรงงานหลอมทองคำและเครื่องเพชร แหล่งรับซื้อของโจรกรรมย่านบางพลัด หลังแก๊งแขกขาวโคลัมเบียก่อเหตุลักทรัพย์บ้านผู้พิพากษา จ.นครปฐม นำทองมาหลอมและจำหน่าย แจ้งข้อหา 2 ผัวเมียเจ้าของโรงงานรับซื้อของโจร พร้อมอายัดทรัพย์ นำตัวสอบขยายผล เชื่อทำเป็นขบวนการ เมื่อเวลา 08.30น. วันที่ 7 ม.ค.60 พล.ต.ท.ดร.สุวิระ ทรงเมตตา รักษาราชการแทนที่ปรึกษา สบ.10 มือปราบ one stop service พร้อมกำลังตำรวจนครบาล 7 ตำรวจภูธรภาค 7 สภ.โพธิ์แก้ว สน.บางพลัด ตำรวจกองปราบปราม นำหมายศาลจังหวัดตลิ่งชันเข้าตรวจค้น บ้านเลขที่ 18/545 ซอย 4 ถนนบรมราชินีนาถ เขตบางพลัด แขวงบำหรุ กรุงเทพมหานคร หลังขยายผลการสอบปากคำ ผู้ต้องหาชาวโคลัมเบีย 4 คน ที่ก่อเหตุลักทรัพย์ตู้เซฟในบ้านผู้พิพากษา จ.นครปฐม เมื่อวันที่15 ธ.ค.59 ที่ผ่านมา ทราบว่า ผู้ต้องหาได้นำทรัพย์สินซึ่งส่วนใหญ่เป็นทองคำรูปพรรณ มาหล่อที่บ้านพักแห่งนี้ ก่อนนำไปจำหน่าย ซึ่งจากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวเจ้าของบ้านทราบชื่อต่อมา คือ น.ส.กาญจนา ประสงค์เสรีนนท์ และนายชัชวาล เหล้าวรรณะ เพื่อสอบปากคำ รวมถึงตรวจสอบใบอนุญาตในการประกอบกิจการ โดยนำหนึ่งในผู้ต้องหา คือ นายฌอน ปิแอร์ แอนเดรส ชาวตุรกี มาร่วมยืนยันการนำทรัพย์สินมาขายที่บ้านหลังนี้ รักษาราชการแทนที่ปรึกษา สบ.10 เปิดเผยว่า จากการตรวจค้นบ้านเจ้าหน้าที่พบของกลาง ซึ่งเป็นสร้อยข้อเท้า และเเหวนแต่งงานรูปแปดเหลี่ยม โดยผู้เสียหายซึ่งเป็นภรรยาของผู้พิพากษา ยืนยันว่า เป็นของตัวเอง เจ้าหน้าที่จึงทำการควบคุมตัวเจ้าของบ้านไว้ดำเนินคดีในข้อหารับซื้อของโจร พร้อมเตรียมอายัดทรัพย์สินทั้งหมด รวมถึงเตรียมประสานเจ้าหน้าที่สัมพากร เข้าตรวจสอบ ส่วนประชาชนท่านใด สงสัยว่าเป็นของที่ถูกแก๊งโคลัมเบียโจรกรรมมา ก็สามารถติดต่อตำรวจให้พื้นที่เพื่อที่จะมาตรวจสอบของกลางได้ สำหรับโรงงานแห่งนี้ไม่มีเอกสารใบอนุญาตในการประกอบกิจการ ไม่มีใบอนุญาตประกอบโรงงาน ขณะที่ใบการติดซื้อขาย ก็มีการเผาเพื่อทำลายหลักฐานด้วย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เตรียมขยายผลผู้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยเชื่อว่ามีการก่อเหตุลักษณะเป็นกระบวนการ โดยจะเชิญสมาคมเพชรพลอย สมาคมค้าทอง มาร่วมตรวจสอบของที่พบภายในบ้านหลังนี้และทำการค้นอย่างละเอียดเพื่มเติม รายการข่าวแจ้งว่า ลูกจ้างภายในร้านยังเห็นว่านำกรอบพระเหลี่ยมทองและกรอบล้อมเพชรมาขาย และมีการรับซื้ออีกมากกว่า 10 กรอบ เนื่องจากผู้รับซื้อไม่สันทัดการดูพระจึงรับซื้อไว้แค่กรอบ โดยทรัพย์สินที่นำมาขายยังที่แห่งนี้ได้เงินไปประมาณ 3 แสนบาท สำหรับผู้ต้องหา ทั้งหมด 4 คน ประกอบ นายฌอน ปิแอร์ แอนเดรส ชาวตุรกี 2.นายเอนริเก้ ออตเตก้า ชาวตุรกี 3.นายเบญจามิน อีเซล โมโกยอน โลเปซ ชาวตุรกี และ4.นายเช็ค มูหามัต สาลีม ราธพุธ ชาวปากีสถาน นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ต้องหาบางส่วนเพิ่งได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนกลับมาก่อเหตุซ้ำ โดยส่วนใหญ่เป็นคดีทุบรถลักทรัพย์สิน และโจรกรรมภายในบ้านพัก