เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานมอบโล่รางวัลให้กับเด็กและเยาวชนดีเด่นและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ จำนวน 781 คน เนื่องในวันเด็กแห่งชาติปี 2560 พร้อมให้โอวาทกับผู้ปกครอง ครู อาจารย์ ผู้แทนเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ โดยมีนายธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่ากระทรวงศึกษาธิการ และคณะกรรมการ เข้าร่วมงาน นายกฯ กล่าวว่า คำขวัญที่ตนแต่งขึ้นเพื่อมอบให้เด็กและเยาวชน โดยให้คำนึงถึงประเทศชาติ และขอให้ผู้ที่ได้รับรางวัลภาคภูมิใจและเป็นแบบอย่างให้เยาชนและประเทศชาติด้วย และปี 59-60 เป็นเหมือนการหว่านพืชเพื่อหวังผลเก็บเกี่ยว โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่ต้องเรียนรู้พัฒนา และเข้มแข็ง โดยในปี 61 เป็นแผนแม่บทให้รัฐบาลต่อไป ส่วนเด็กๆ ต้องคิดเป็นกระบวนการ พัฒนาตัวเองให้คิดในสิ่งที่ยากๆ ได้ อย่างตนที่วันหนึ่งคิดเกือบร้อยเรื่อง เพราะปัญหาประเทศมีจำนวนมาก และต้องบริหารประเทศเพื่อคน 70 ล้านคนให้มีความสุข อย่างไรก็ตาม ตนไม่ตำหนิว่าระบบการศึกษาของไทยล้มเหลว แต่ต้องมีความชัดเจนในการผลิตคนให้ประสิทธิภาพและตรงตามความต้องการ และอย่ามองแต่เรื่องการเมืองหรือประชาธิปไตยอย่างเดียว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เยาวชนต้องรู้จักแบ่งเวลาและอ่านหนังสือมากๆ เพื่อเกิดกระบวนการทางความคิด ไม่ใช่เชื่อทุกอย่างที่บอก หรือต่อต้านทุกเรื่อง อย่างในโซเชียลมีเดียที่ด่าว่าตน ซึ่งถ้าเป็นการทำเพื่อชาติใครจะด่าจะว่าตนก็ยอม เพราะการเมืองคือการเมือง และขอให้ถามรัฐบาลใหม่ที่เข้ามาว่าถ้าเข้ามาจะทำแบบตนหรือไม่ ซึ่งอาจจะเก่งกว่าตนด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้มีคนคิด พูดและเขียนมาก แต่มีคนทำน้อย และหลายคนต่อต้านยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งตนไม่ได้หมายความว่าแต่ละปีจะเปลี่ยนไม่ได้ แต่เป็นเพียงกรอบกว้างๆ เท่านั้น ยืนยันไม่ใช่ทำเพื่อสืบทอดอำนาจ "ผมสั่งการในที่ประชุม ครม ว่าต่อจากนี้ไปต้องมีข้อสอบในเชิงคุณธรรม จริยธรรมด้วย โดยเริ่มตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปเพื่อเป็นคะแนนเสริมและแทรกบททดสอบความรู้ที่ใช้ในต่างประเทศ เพื่อเท่าทันโลก นอกจากนี้ยังสั่งรวบรวมตำราที่ใช้สอนพิเศษมาใช้ในการสอบปกติ และยังสั่งให้ศูนย์เทคโนโลยีของกระทรวงศึกษา ต้องมีการสร้างเทคโนโลยีขึ้นใหม่โดย เอาครูที่มีชื่อเสียงมาสอนผ่านเทคโนโลยีใหม่และครูต้องปรับวิธีการสอนให้ดีขึ้นรวมทั้งนักเรียนต้องเรียนรู้ไปด้วยกัน เพื่อลดภาระการเรียนพิเศษด้วย นอกจากนี้ยังฝากให้มีการสอบการเขียนประวัติศาสตร์ชาติไทยเพื่อเป็นคะแนนเสริมด้วย ทั้งนี้ขอให้ทุกคนคิดแบบตน ถ้าให้ตนหรือรมว.ศึกษาธิการอย่างเดียวก็ไปไม่ได้ ที่ผ่านมาเปลี่ยนรัฐมนตรีมาหลายใครได้อะไรขึ้นมา ทุกอย่างขึ้นอยู่กับแผนงานและยุทธศาสตร์ หากเขียนส่งเดชก็เป็นแบบเดิม เลือกรัฐมนตรีกี่คนก็ผิดหวังทั้งหมด นอกจากนี้ความรู้ต้องคู่คุณธรรม ไม่ต้องถามว่าคนดีเป็นอย่างไร เพราะทุกคนรู้อยู่แล้วว่าคนดีคือคนที่ทำความดี ส่วนคนเลวคนที่โกง มันยากตรงไหน" นายกรัฐมนตรี กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการให้โอวาท นายกฯ ได้เดินลงจากเวทีเพื่อมาทักทายเด็กและเยาวชน ซึ่งมีนักเรียนขอให้จัดพื้นที่สาธารณะให้เด็กและเยาวชนได้แสดงออก ซึ่งนายกฯ ได้รับเรื่องและส่งต่อให้กระทรวงศึกษาฯ ไปดำเนินการ นอกจากนี้ยังมีเด็กนักเรียนคนหนึ่งมอบรูปถ่ายตัวเองให้นายกฯ และเขียนข้อความด้านหลังว่า สู้ๆ ซึ่งนายกฯ เก็บใส่กระเป๋า และตอบกลับว่า "สู้อยู่แล้ว" จากนั้นนายกฯ ได้ร่วมถ่ายรูปกับเด็กและถือโอกาสได้ถ่ายรูปคู่แสตนดี้ซึ่งเป็นรูปตัวเองขนาดเท่าตัวจริงด้วยมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานสัมมนา เรื่อง “2560 จุดเปลี่ยนประเทศไทย” พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “2560 จุดเปลี่ยนประเทศไทย” ณ ห้องวิภาวดีบอลรูมAB เซ็นทาราแกรนด์เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว