โผล่แล้ว 72คันรถลูกค้าบริษัทประกันเจอน้ำท่วมที่อ.บางสะพาน และอีกหลายอำเภอในประจวบฯ วิริยะฯยังครองแชมป์สูงสุด 47 คัน ขณะที่เด็กเสียชีวิต 1รายที่มารถตู้กับพ่อพบมีประกันประเภท 3ไว้ วิริยะฯจ่ายเบ็ดเสร็จทั้งประกันภาคสมัครใจและพรบ.ฯรวมแล้ว 7 แสน หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์นับตั้งแต่วันที่ 8-10 ม.ค.60 ที่ผ่านมาส่งผลให้น้ำล้นปริงเวย์และสันอ่างเก็บน้ำบ้านคลองลอย, อ่างเก็บน้ำบ้านวังน้ำเขียว และอ่างเก็บน้ำบ้านโป่งสามสิบ อีกทั้งน้ำป่ายังได้ไหลหลากลงมาสมทบ ส่งผลให้น้ำได้ไหลเข้าท่วมในหลายพื้นที่ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ยังคงไม่ว่าจะเป็นอำเภอเมือง อำเภอบางสะพาน อำเภอทับสะแก อำเภอกุยบุรี และอำเภอบางสะพานน้อย โดยเฉพาะอำเภอบางสะพานที่มีน้ำท่วมสูงและหนักอย่างมาก ทำให้บ้านเรือนประชาชน โรงพยาบาล ร้านค้า โรงเรียน วัด ฯลฯ ถูกน้ำท่วมสูงตั้งแต่ 1-2 เมตรขึ้นไป โดยมีเด็กเสียชีวิตลงแล้ว 1 ราย รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบการธุรกิจประกันภัย(คปภ.)ได้รวบรวมตัวเลขความเสียหายของรถยนต์ที่ได้ทำประกันภาคสมัครใจและพ.ร.บ.ผู้ประสบภัยจากรถล่าสุดถึงณ วันที่ 11 มกราคม 2560 ปรากฎว่า มีรถยนต์ที่ทำประกันไว้กับบริษัทประกันต่างๆเสียหายจากน้ำท่วม 72 คันด้วยกัน โดยแบ่งเป็นรถลูกค้าบริษัทวิริยะประกันภัย 47 คัน บริษัทMSIGประกันภัย 7 คัน บริษัทสินมั่นคงประกันภัยอีก 14 คัน บริษัทสามัคคีประกันภัย 3 คัน และบริษัทแอกซ่าประกันภัย 1 คัน โดยขณะนี้พนักงานสำรวจภัยหรือเซอเวเยอร์ของแต่ละบริษัทประกันฯกำลังอยู่ระหว่างเดินทางลงพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายกันอยู่ เนื่องจากน้ำเพิ่งจะลดลง ทั้งนี้ในส่วนเด็กที่เสียชีวิตรายหนึ่งที่มากับรถตู้พร้อมกับบิดาและกลุ่มญาติจากเหตุน้ำท่วมหนักที่อ.บางสะพานช่วงกลางดึกช่วงตี 1ถึงตี 3 ขอวันที่ 9 มกราคม 2560นั้น ล่าสุดตรวจสอบพบว่า รถตู้คันดังกล่าวได้เอาประกันภัยประเภท 3 ไว้กับบริษัทวิริยะฯ ซึ่งทางบริษัทได้แจ้งวงเงินค่าสินไหมเบื้องต้นที่ทายาทของเด็กผู้เสียชีวิตจะได้รับมาจาก 2 ส่วนคือพ.ร.บ.ผู้ประสบภัยจากรถในวงเงินคุ้มครองเสียชีวิต 3 แสนบาท และประกันภาคสมัครใจในส่วนความรับผิดชอบบุคคลภายนอกของกรมธรรม์ประกันภาคสมัครใจที่บริษัทจะต้องจ่ายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาท ด้านนายบุญสม อินทรประสิทธิ์ ผู้จัดการศูนย์ประจวบคีรีขันธ์ บริษัทวิริยะประกันภัย จำกัด เปิดเผยว่า เบื้องต้นรถลูกค้าวิริยะฯที่เสียหายเพิ่มเติมเข้ามาอีก 1 คัน หลังจากได้แจ้งยอดรถที่เสียหายไปยังคปภ.ประจวบฯแล้วช่วงเช้า 46 คัน โดยประมาณการณ์ความเสียหาย 46 คันน่าจะอยู่ค่าสินไหมเฉลี่ย 11 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่า คงมีรถลูกค้าวิริยะฯที่เสียหายเพิ่มเติมก็ไม่น่าจะเกินอีก 20 คัน โดยแถวบางสะพานยังไม่มีแจ้งเคลมเข้ามาเลย ซึ่งคิดว่า น้ำคงท่วมไม่เท่าไหร่ สำหรับการดำเนินการด้านสินไหมขณะนี้ ในส่วนของเด็กที่เสียชีวิตหลังจากเดินทางมากับพ่อพร้อมรถตู้แล้วเกิดเสียชีวิตนั้น เบื้องต้นได้เช็คความคุ้มครองแล้วปรากฎว่า รถคันดังกล่าวได้จัดทำประกันภัยประเภท 3เอาไว้ ซึ่งผู้ตายจะได้รับความคุ้มครองเป็นค่าสินไหมรวม 7 แสนบาท แยกเป็นพรบ.ฯ 3 แสนบาท ประกันความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกที่อยู่ในกรมธรรม์ภาคสมัครใจอีก 3 แสนบาท และประกันพีเอที่ซื้อไว้แนบท้ายอีก 1 แสนบาท ส่วนรถต่างๆที่เสียหายจากน้ำท่วมนั้น ขณะนี้เราได้นำส่งรถเข้าอู่ซ่อมหรือเข้าศูนย์ซ่อมเพื่อทำการเช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ภายในรถทั้งหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้า เบาะ และอื่นๆ ส่วนถ้าน้ำท่วมรถสูงมิดหลังคา หรือสูงกว่าระดับคอนโซล ในส่วนนั้นก็จะต้องมาพิจารณาและเจรจากับผู้เอาประกันภัยอีกครั้ง ซึ่งจะต้องมีการประเมินรายการความเสียหายกันว่า สมควรจะคืนทุนประกันภัยหรือไม่ แต่ในเบื้องต้นทุกคันจะต้องถูกนำมาเช็ดล้างทำความสะอาดและประกอบอุปกรณ์และชิ้นอะไหล่คืนสภาพเดิมทุกคันก่อน นายบุญสม กล่าวว่า ขณะนี้ทางเราก็ได้รับความอนุเคราะห์จากชมรมอู่ในโครงการมาตรฐานของวิริยะฯในพื้นที่ภาค 4 และทางวิริยะฯนครปฐมได้บริจาคอาหารแห้ง มาม่าและอาหารสำเร็จรูป ซึ่งสะดวกแก่ชาวบ้านที่ประสบภัยนำไปรับประทานได้ โดยเราก็จะนำของบริจาคเหล่านี้ไปมอบให้กับตัวแทนนายหน้าของวิริยะฯในพื้นที่ต่ออีกทอดหนึ่ง เพื่อพวกเขาจะได้นำเอาไปกระจายในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยและมีความยากลำบากจริง โดยตัวแทนนายหน้าของเราจะมีความสนิทสนมและคุ้นเคยกับกำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นอย่างดีอยู่แล้ว จึงน่าจะประสานงานให้ความช่วยเหลือถึงตัวชาวบ้านผู้ประสบภัยได้อย่างตรงจุด