เช็กที่นี่! ก.แรงงานเปิด 4 แผนดูแลแรงงานจากอิสราเอล "เยียวยา-หางานใหม่-เพิ่มทักษะ- ติดตามสิทธิประโยชน์และค่าจ้างค้างจ่าย"

วันที่ 16 ต.ค.66 นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงานเปิดเผยว่า ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง มีความห่วงใยต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยและพี่น้องแรงงานไทยที่ไปทำงานในอิสราเอล ทั้งที่ได้รับผลกระทบและไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิสราเอล และนายกฯได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งขับเคลื่อน ดูแลและให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยให้เร็วที่สุดนั้น ในเรื่องนี้กระทรวงแรงงานได้เริ่มปฏิบัติการแล้ว และผมได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการมาโดยตลอดอย่างต่อเนื่อง

“กระทรวงแรงงาน โดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ได้ให้ความสำคัญต่อการให้ความช่วยเหลือพี่น้องแรงงานไทยที่ทำงานในอิสราเอลและได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยให้เป็นภารกิจเร่งด่วนที่กระทรวงแรงงานต้องติดตามอย่างใกล้ชิดและให้ความสำคัญเรื่องนี้สูงสุด  ซึ่งกระทรวงแรงงานได้เริ่มปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยแล้ว โดยมีแนวทางช่วยเหลือ ดังนี้

1.“เยียวยา” ให้กับแรงงานไทยที่เป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ และอยู่ในความคุ้มครอง โดยเมื่อกลับมาถึงประเทศไทย กระทรวงแรงงานจ่ายรายละ 15,000 บาททันทีตามสิทธิประโยชน์เงินสงเคราะห์ กรณีประสบปัญหาต้องเดินทางกลับประเทศไทยก่อนครบสัญญาจ้างจากเหตุสงคราม

2.“หางานใหม่ ทั้งในและต่างประเทศ” โดยกระทรวงแรงงานจะเจรจาประสานให้กับแรงงานไทยที่ยังไม่หมดสัญญาและประสงค์จะกลับไปทำงานที่อิสราเอล  เพื่อให้สามารถกลับไปทำงานได้เมื่อเหตุการณ์สงบ รวมทั้งสอบถามความสมัครใจของแรงงานหากไม่ประสงค์กลับไปทำงานที่อิสราเอล สามารถแจ้งความประสงค์มายังกระทรวงแรงงาน เพื่อเดินทางไปทำงานยังประเทศอื่นๆ ในส่วนผู้ที่มีความประสงค์จะทำงานในประเทศไทย ทางกระทรวงแรงงานพร้อมหางานให้ โดยสามารถแจ้งมาได้ที่กรมการจัดหางาน

3.“ฝึกทักษะฝีมือ รองรับอาชีพใหม่” กับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยแรงงานไทย ที่กลับมาจากอิสราเอลและบุคคลในครอบครัว สามารถติดต่อสถาบันและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานที่ตั้งอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เช่น อุบลราชธานี อุดรธานี นครราชสีมา สกลนคร ศรีสะเกษ บึงกาฬ บุรีรัมย์ หนองบัวลำภู เชียงราย พิจิตร อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี จันทบุรี และนราธิวาส เพื่อเข้ารับการฝึกทักษะด้านอาชีพเสริม  และสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงครอบครัวได้ต่อไป

4.“ดูแลสิทธิประโยชน์ และค่าจ้างค้างจ่าย”   ในส่วนนี้ผมได้สั่งการให้ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำประเทศอิสราเอล ประสานนายจ้างเพื่อดำเนินการ จ่ายค่าจ้างส่วนที่ยังค้างจ่าย แล้ว อยู่ระหว่างการเจรจา
 
โดยกระทรวงแรงงานยืนยันเจตนารมณ์ว่าเราให้ความสำคัญสูงสุดกับชีวิตของพี่น้องแรงงานไทยที่ทำงานในอิสราเอลทุกคน  และจะให้การช่วยเหลือ ดูแล ทุกท่านที่เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยให้ได้รับสิทธิประโยชน์ และการคุ้มครองตามกฎหมาย”นายไพโรจน์กล่าว