จากกรณีการพบศพนายชูเชียง เฉิน อายุ 48 ปี ชาวไต้หวัน สภาพปากถูกพันด้วยสก็อตเทปใสหลายรอบ มือ 2 ข้างถูกมัดไพล่หลังด้วยเชือกฟางและสก็อตเทปใสคาดด้วยเข็มขัดมัดรอบตัว หน้าแข้งถูกรัดด้วยเข็มขัด ข้อเท้าถูกมัดด้วยสก็อตเทปใสหลายรอบ เหนือคิ้วขวาถูกตีด้วยของแข็งมีบาดแผลฉกรรจ์ ผ้าปูที่นอนเปื้อนเลือด และมีผ้าขนหนูเปื้อนเลือดที่พื้นอีก 2 ผืน ในห้องเกิดเหตุพบตู้เซฟขนาดย่อม 2 ตู้ วางอยู่บนพื้น กระเป๋าเดินทาง 2 ใบ เหตุเกิดภายห้องพักในโรงแรมฯ แห่งหนึ่ง ในซอยอุดมสุข 17 แขวงและเขตบางนา กรุงเทพฯ พื้นที่ สน.บางนา ตามที่สื่อมวลชนได้เสนอข่าวไปแล้ว นั้น  
วันที่ 18 พ.ย.66 ที่ บก.ตม.1 พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1 กล่าวว่า ทันทีที่ทราบเหตุดังกล่าวในวันที่ 16 พ.ย.2566  พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. ได้สั่งการเร่งด่วนให้ บก.ตม.1 ระดมทีมนักสืบเข้าร่วมสืบสวนกับทีมสืบสวนนครบาล จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รอง ผบก.ตม.1 , พ.ต.อ.กาจภณ ปฐมัง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 และทีมสืบสวน บก.ตม.1 จำนวนหลายนาย ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวทันที โดยใช้เวลาเพียงสองวันสามารถระบุตัวผู้ร่วมก่อเหตุได้ทั้งหมดและสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้สองราย ได้แก่จับกุมตัว นาย แซวอ ลิง แปร่ หรือเจนซี่ (ZWE LIN PYAE) อายุ 21 ปี ชาวเมียนมา ตามหมายจับของศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.696/2566 ลงวันที่ 17 พ.ย.66 และ นายจอห์น แอบอน อายุ 40 ปี (John Agbor) ชาวแคเมอรูน ตามหมายจับของศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.697/2566 ลงวันที่ 17 พ.ย.66 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยทั้งสองราย จับกุมได้ที่บริเวณถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตบางนา กรุงเทพฯ ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุอีก 2 รายคือชายผิวขาวชาววานูอาตู  ซึ่งปรากฏตามภาพวงจรปิด และหญิงสาวชาวไทย ซึ่งเป็นบุคคลที่ผู้ต้องหาชาวเมียนมา ให้การซัดทอด อ้างว่าเป็นผู้จ้างวานให้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว ได้มีการประกาศตามจับตัวตามหมายจับไปแล้ว อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดีอย่างใกล้ชิด  ​​​​​​​
พล.ต.ต.ประสาธน์  กล่าวอีกว่าสำหรับผู้ต้องหาชาวเมียนมานั้นทีมสืบสวน บก.ตม.1 ได้ร่วมสืบสวนเชิงลึกกับทีมสืบสวนนครบาลโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของทั้งสองหน่วยงาน จนทราบพิกัดที่อยู่และสามารถรวบตัวได้ นำไปสู่การคลี่คลายคดีในประเด็นต่างๆ รวมถึงใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบสวนจนสามารถยืนยันตัวบุคคลผู้ก่อเหตุชาววานูอาตู ได้ และสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ร่วมก่อเหตุคนอื่นได้อย่างรวดเร็ว ​​​​​​​คดีนี้ถือเป็นการบูรณาการทีมนักสืบมากประสบการณ์ จาก ตม.1 , บก.สส.บช.น. , กก.สส.บก.น.5 , ฝ่ายสืบสวน สน.บางนา และ ทีมสืบสวน บก.ทท.1 ทำงานร่วมกันจนนำสู่การคลี่คลายคดีในที่สุด.