วันที่ 18 ธ.ค. 66 ที่ สภ.ระเบาะไผ่พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐ์พงษ์ รอง ผบช.ภ.2 , พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 , พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุต ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี , พ.ต.อ.วราวุธ เจริญชนม์ รอง ผบก.สส.ภ.2 , พ.ต.อ.กฤตยา เลาประสพวัฒนา รอง ผบก.สส.ภ.2 , พ.ต.อ.คงศักดิ์ บุญสื่อสุวรรณ รอง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี , พ.ต.อ.สุพร เทพเสน ผกก.สภ.ระเบาะไผ่ พร้อมชุดสืบสวน สภ.ระเบาะไผ่ , กก.สส.ภ.จว.ปราจีนบุรี , ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.2 และเจ้าหน้าที่ ศพฐ.2  ได้ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายเกียรติชายหรือบู๊ บุญพาล อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาซึ่งใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นเสียชีวิต 

สืบเนื่องจากกรณี เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2566 เวลาประมาณ 20.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ระเบาะไผ่ ได้รับแจ้งเหตุ รถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแม็ค 4 ประตู หมายเลขทะเบียน กน 5508 ปราจีนบุรี ตกข้างถนน จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ส.อ.เอกรัตน์ เสืออ่ำ ทหารสังกัดกองกำลังบูรพา จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นผู้ขับขี่ และ น.ส.มนธิชา ปุงปอพาน เป็นผู้โดยสารที่นั่งข้างกันมาและเกี่ยวข้องเป็นแฟนสาวของผู้ขับขี่ โดย    ส.อ.เอกรัตน์ฯ ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่หัวไหล่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา 

จากการสอบสวน แฟนสาวของผู้ตายได้ให้การว่า ตามวันเวลาเกิดเหตุ ตนเองได้โดยสารมากับรถผู้ตาย เพื่อเดินทางกลับที่พักในจังหวัดสระแก้ว เมื่อมาถึงบริเวณถนนหมายเลข 359 ขณะกำลังมุ่งหน้าไปทางจังหวัดสระแก้ว ขณะที่ผู้ตายขับรถอยู่ในช่องทางเดินรถด้านขวา ได้มีรถยนต์กระบะ สีเทา ของคนร้าย ซึ่งอยู่ด้านหลังขับรถแซงขึ้นมาทางด้านซ้ายมือในลักษณะกระชั้นชิดและได้ปาดหน้ารถยนต์ของตน ซึ่งผู้ตายได้พยายามขับรถแซง จึงได้เกิดปัญหากัน และถูกรถของคนร้ายไล่ติดตามเป็นระยะทางมากกว่า 10 กิโลเมตร ในจังหวะที่คนร้ายได้ขับรถมาตีคู่และกำลังจะขับแซง คนร้ายได้ลดกระจกลง จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่บริเวณกระจกฝั่งข้างคนขับ ถูกแฟนของตนเสียชีวิต และรถยนต์ของตนเสียหลักพุ่งข้ามร่องน้ำเกาะกลางถนน ซึ่งจากเหตุดังกล่าวตนจดจำได้แต่เพียงว่า ผู้ก่อเหตุเป็นชายที่เป็นผู้ขับขี่ ไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด ไม่สามารถจดจำรายละเอียดรถได้ และตนเองกับผู้ตายไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ใดมาก่อน ซึ่งผลการตรวจหัวกระสุนปืนที่ฝังอยู่กับตัวผู้ตาย จากเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 2 ทำให้ทราบว่าเป็นกระสุนปืนขนาด .38 สเปเชียล และสันนิษฐานว่าเป็นอาวุธปืนที่ประดิษฐ์ขึ้นเอง (ไทยประดิษฐ์) 

 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.2 , เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ปราจีนบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ระเบาะไผ่ ได้ร่วมกันออกสืบสวนติดตามตัวผู้ก่อเหตุ โดยตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุและบริเวณโดยรอบ ทั้งก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ ตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้ในการหลบหนี รวมถึงสืบสวนหาข่าวในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จนทำให้แน่ใจว่า รถยนต์ที่คนร้ายใช้ คือ รถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแม็ค แบบแค๊ป สีเทา หมายเลขทะเบียน บย 4657 ปราจีนบุรี และมีผู้ขับขี่คือ นายเกียรติชายหรือบู๊ บุญพาล อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาในคดีนี้ ซึ่งเป็นคนที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ และภายหลังก่อเหตุได้ใช้เส้นทางซึ่งทราบเฉพาะคนในพื้นที่เท่านั้น ทำการหลบหนีไป โดยในวันที่ก่อเหตุยังมีพยานอื่นนั่งโดยสารมากับรถคนร้ายอีกด้วย (ขอสงวนชื่อและข้อมูลส่วนตัว) 


 ต่อมา เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้นพร้อมกัน จำนวน 3 เป้าหมาย จากศาลจังหวัดปราจีนบุรี จำนวน 2 หมาย และจากศาลจังหวัดพัทยา จำนวน 1 หมาย ดำเนินการเข้าค้นเพื่อหาพยานหลักฐาน พร้อมพยานบุคคลอื่นที่ใช้ยืนยันตัวผู้ก่อเหตุ จากการตรวจค้น ได้พบตัว   นายเกียรติชายหรือบู๊ฯ ผู้ต้องหา ที่บ้านพักใน ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมด้วยของกลางปืนพกไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก,กระสุนปืนขนาด .38 สเปเชียล จำนวน 2 นัด , กระสุนปืนขนาด .38 ซุปเปอร์  จำนวน 2 นัด , กระสุนปืนขนาด 9 มม. รูเกอร์ จำนวน 2 นัด และปลอกกระสุนปืน 9 มม. รูเกอร์ จำนวน 1 ปลอก,รถยนต์กระบะบรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ค แบบแค๊ป สีเทา หมายเลขทะเบียน บย 4657 ปราจีนบุรี 
,เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่ นายเกียรติชายหรือบู๊ฯ ผู้ต้องหา สวมใส่ในวันเกิดเหตุ 

จากการสอบสวนนายเกียรติชาย หรือบู๊  ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าในวันก่อเหตุ ตนเองได้เป็นผู้ขับขี่รถยนต์กระบะคันของกลางจริง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ พบเจอกับรถของผู้ตาย ซึ่งได้มีปัญหากันในการใช้ทาง จึงขับขี่ปาดหน้ากันไปมา บีบแตรใส่และไล่ติดตาม ตนได้เกิดความไม่พอใจและด้วยอารมณ์โกรธ จึงใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ซึ่งพกติดตัวอยู่ ยิงใส่ทำให้ผู้ตายเเสียชีวิตในเวลาต่อมา และรถยนต์เสียหลัก ตกข้างทาง จากการกระทำความผิดดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว นายเกียรติชายหรือบู๊ พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ระเบาะไผ่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือชุมชน , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควรหรือจำเป็นเร่งด่วน” โดยความผิดดังกล่าวมีอัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี 

จากการตรวจค้นในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบนายชัยชนะหรือเอ็ม สายทอง อายุ 29 ปี เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปราจีนบุรี ที่ จ.134/2566 ลงวันที่ 3 พ.ย. 2566 ในข้อหาลักทรัพย์ จึงจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายอีกด้วย 

เหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 2 ขอแสดงความเสียใจแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต โดยหวังว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเป็นอุทาหรณ์ให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน ในการขับขี่และใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาทในการใช้รถใช้ทาง มีน้ำใจให้กันบนท้องถนน และอย่าใช้อารมณ์เพียงชั่ววูบในการแก้ไขปัญหา