ตามนโยบายการปราบปรามยาเสพติดของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เน้นการใช้ทุกมาตรการทางกฎหมายเพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติด และยึดทรัพย์ที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ประกอบกับนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา, พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี, พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. มุ่งเน้นในการเร่งรัดดำเนินการป้องกันปราบปรามยาเสพติดในทุกมิติ เนื่องจากปัญหายาเสพติดอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและเป็นภัยสังคม  

วันที่21 ธ.ค.66  ที่ บช.ปส.. พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3, พ.ต.อ.กฤษดา ศรีอิสาณ รอง ผบก.ปส.3, ตำรวจกก.2 บก.ปส.3  และหน่วยงานที่ร่วมบูรราการกำลัง ร่วมแถลงข่าว บริเวณลานดินภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในหมู่ 20 ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย  หลังกำลังตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเพื่อจับกุมเครือข่ายนักบินกลุ่มลำเลียงยาเสพติดชายแดนภาคเหนือรายสำคัญ 10 จุด ในพื้นที่ บ้านอาดี่ ต.แม่ยาว อ.เมือง, อ.เวียงแก่น, อ.เชียงของ จ.เชียงราย และ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งเป็นระดับสั่งการ 1 ราย คือ นายธวัชชัยฯ และ ทีมลำเลียงอีก 2 ราย รวม 3 ราย และตรวจยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 5,000,000 บาท

พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ กล่าวว่าสืบเนื่องจาก คดีแรก เมื่อวันที่ 19 ก.ย.66 เวลา 21.30 น. ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามพฤติกรรมเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดยาเสพติด พื้นที่ชายแดนจากพื้นที่ จว.เชียงราย ซึ่งใช้รถยนต์อเนกประสงค์ ยี่ห้อฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียน จฉ 93XX เชียงใหม่ ลำเลียงยาเสพติด ไอซ์ จำนวน 1,000 กก. จากพื้นที่พักคอย ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จว.เชียงราย เข้าสู่พื้นที่ตอนใน และได้มีการสกัดจับกุมตรวจยึดได้ในพื้นที่ อ.เวียงชัย จว.เชียงราย สำหรับเครือข่ายนี้ได้ก่อเหตุยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเป็นเหตุให้ ด.ต.วีระวัฒน์ คำดี ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 เสียชีวิตทันที ต่อมาสามารถสืบสวนขยายผลทราบถึงเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดดังกล่าว ทั้งในส่วนกลุ่มรับจ้างลำเลียง และกลุ่มเครือข่ายทำหน้าที่เก็บรักษายาเสพติดไว้ในพื้นที่พักคอย และนำส่งมอบให้กับกลุ่มลำเลียงดังกล่าว จึงได้ทำการขออนุมัติหมายจับ จำนวน 7 ราย คือ นายจะสอฯ พร้อมพวก

คดีที่ 2 ต่อมาเมื่อวันที่ 1 ต.ค.66 เวลา 22.00 น. ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ร่วมกันจับกุม นายสุทธิศักดิ์ฯ กับพวก 4 คน พร้อมของกลางยาเสพติด ไอซ์ จำนวน 591 กก. ซุกซ่อนภายในรถยนต์กระบะ ทะเบียน ผต 64XX เชียงราย ในพื้นที่ อ.เทิง จว.เชียงราย ซึ่งยาเสพติดดังกล่าวถูกลำเลียงจากพื้นที่ชายแดนนำเข้ามาเก็บไว้ในพื้นที่ อ.เชียงของ จว.เชียงราย ก่อนที่จะถูกส่งมอบให้กับเครือข่ายลำเลียง
จนถูกตรวจค้นจับกุมดังกล่าว ชุดจับกุมทำการสืบสวนขยายผลถึงผู้สั่งการและบุคคลในเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดดังกล่าวและทำการขออนุมัติหมายจับ จำนวน 2 ราย คือ นายอุดมศักดิ์ฯ พร้อมพวก

 คดีที่ 3 เมื่อวันที่ 26 พ.ย.66 บช.ปส. โดย กก.2 บก.ปส.3 และ บก.ขส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามยาเสพติด หน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามพฤติกรรมเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือ พบว่าจะใช้รถกระบะลักษณะตีคอก ก 13XX (ป้ายแดง) กำแพงเพชร และ รถกระบะอีซูซุ ยX 81XX เชียงใหม่ ลำเลียงยาเสพติดจาก จว.เชียงใหม่ ไปยังพื้นที่ จว.พระนครศรีอยุธยา โดยอำพรางด้วยพืชผลทางการเกษตร เป็นยาบ้า 10 ล้านเม็ด พร้อมผู้ต้องหา 5 คน ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตรวจยึด สามารถสืบสวนขยายผลทราบว่าผู้สั่งการเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดดังกล่าว คือ นายธวัชชัยฯ จึงได้ทำการขออนุมัติหมายจับ เพื่อทำการสืบสวนจับกุมขยายผล 

คดีที่ 4 เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.66 . ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ร่วมกันเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารหน่วยปราบปรามยาเสพติด หน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก และ กองกำลังผาเมือง ทำการสืบสวนเครือข่าย นายจะแจฯ ใช้รถยนต์กระบะทะเบียน ยต 19XX เชียงใหม่ ซึ่งลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนด้าน อ.แม่อาย จว.เชียงใหม่ เข้ามาพักคอยไว้ในพื้นที่ ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จว.เชียงราย ได้ทำการตรวจยึด ยาบ้า จำนวน 1,118,000 เม็ด ขณะเตรียมนำส่งมอบให้กับเครือข่ายเพื่อลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนใน เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจยึดได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งดำเนินคดี และขยายผลการจับกุมตรวจยึด และตรวจค้นในพื้นที่พักคอยยาเสพติด ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จว.เชียงราย 

 พล.ต.ท.คีรีศักดิ์  กล่าวว่า ภายใต้แผนปฏิบัติการ “กวาดล้างเครือข่ายนักบินกลุ่มลำเลียงยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ” มุ่งเป้าเพื่อดำเนินคดีและยึดทรัพย์ผู้สั่งการเครือข่ายยาเสพติดและ  ปิดล้อมตรวจค้นจับกุมขยายผลบุคคลเครือข่ายในพื้นที่พักคอย และดำเนินการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ชายแดนอย่างจริงจัง โดยจะร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้มาตรการปราบปราม ทางกฎหมาย โดยเฉพาะในพื้นที่เร่งด่วนตามมาตรา 5 (10) ของประมวลกฎหมายยาเสพติด ซึ่งกำหนดสถานะของพื้นที่ชายแดนที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ในพื้นที่ชายแดน 15 อำเภอ 3 จังหวัด ได้แก่ 6 อำเภอของ จว.เชียงราย, 5 อำเภอของ จว.เชียงใหม่ และ 4 อำเภอของ จว.นครพนม   โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาภายในประเทศ ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการสกัดกั้นตามแนวชายแดน