จากกรณีที่วันนี้ (24 ธ.ค.66) เวลาประมาณ 05.00 น. ได้เกิดเหตุรางนำกระแสไฟฟ้าของรถไฟฟ้าสายสีชมพูหล่นทับรถยนต์เสียหาย และทับเสาไฟฟ้าทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจร โดยเกิดเหตุบริเวณหน้าตลาดกรมชลประทาน-บริเวณจุดกลับรถกรมชลประทาน ถนนติวานนท์ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร โดยเคราะห์ดีที่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตนั้น

ต่อความคืบหน้าเรื่องนี้  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  จากการตรวจสอบโครงการนี้พบว่ามีการจัดทำประกันภัยไว้   โดยมีบริษัทประกันภัย ที่เข้าร่วมรับ ประกันภัย ก่อสร้างในโครงการ รถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองครั้งนี้ โดยมีสัดส่วนการรับประกันภัย ของแต่ละบริษัท (Co-insurance) ได้แก่ บมจ.เมืองไทยประกันภัย รับประกันภัยไว้ในสัดส่วน 60% บมจ.กรุงเทพประกันภัย รับ ประกันภัย ในสัดส่วน 30% และบมจ.นวกิจประกันภัย รับ ประกันภัย ในสัดส่วน 10% โดยทุนเอา ประกันภัย สำหรับโครงการ รถไฟฟ้าสายสีชมพู น่าจะอยู่ที่ประมาณ 45,000 ล้านบาท ขณะที่โครงการ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง เอาประกันในวงเงินน่าจะอยู่ที่ประมาณ 43,000 บาท

อนึ่งสำหรับเงื่อนไขของความความคุ้มครองของกรมธรรม์แบ่งเป็น คุ้มครองความเสียหายต่องานก่อสร้าง และความเสียหายต่อบุคคลภายนอก โดยกรมธรรม์มีระยะเวลาความคุ้มครองจะสิ้นสุดความคุ้มครองในเดือนธันวาคม2566นี้พอดิบพอดี  ซึ่งมาเกิดเหตุพอดี

ทั้งนี้มีกระแสข่าวสะพัดว่า  ในต้นปีหน้าจะมีการปรับโฉมการทำประกันใหม่ในรูปแบบประกันภัยทรัพย์สิน(IAR)  หลังจากสิ้นสุดกรมธรรม์ประกันภัยระหว่างก่อสร้างแล้ว  โดยจะมีบริษัทประกันร่วมกันรับประกัน2แห่งคือ  บมจ.เมืองไทยประกันภัยและบมจ.ทิพยประกันภัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ขณะนี้บริษัทประกันที่ร่วมกันรับได้ว่าจ้างเซอร์เวเยอรฆรืสำรวจภัยเข้าไปสำรวจความเสียหายในครั้งนี้แล้ว  โดยพร้อมจะดูแลรับผิดชอบความเสียหายทุกประการ  เนื่องจากได้มีการทำประกันภัยต่อโครงการนี้ไว้ยังบริษัทรับประกันภัยต่อต่างประเทศ(รีอินชัวเรอร์ตปท.)อีกด้วย