กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.,พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พ.ต.อ.สุมรภูมิ  ไทยเขียว รอง ผบก.ปปป., พ.ต.อ.ธณัชชนม์ เก่งกสิกิจ ผกก.3 บก.ปปป. ร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ท. ภายใต้การอำนวยการของ นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. และ นางสาวมนัสนันท์ จรัลจรูญพงษ์ ผอ.ป.ป.ท. เขต 3 และร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ช. ภายใต้อำนวยการของนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และ นายศรัทธา กอบกุลบุญศิริ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกันจับกุม นายนายยุรวัฒ อายุ 65 ปี ผู้ต้องหา ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ที่ จ.1/2567 ลงวันที่ 4 ม.ค.67 

ในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และ เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยจับกุมได้ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.บ้านไทย อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี
               
การจับกุมดังกล่าว เกิดขึ้นจากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) ได้รับเรื่องร้องเรียนผ่านทาง ปปท.เขต 3 กรณีร้องเรียนว่า นายกอบต.แห่งหนึ่ง ใน อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี มีพฤติการณ์เรียกรับเงิน 10 เปอร์เซ็นต์ จากยอดการเบิกจ่ายเงินโบนัสพนักงานข้าราชการของอบต. ประจำปีงบประมาณ 2566 เป็นเงินรวมประมาณ 68,000 บาท (เฉลี่ยคนละ 2,000 บาท) เพื่อแลกกับการอนุมัติเบิกจ่ายค่าตอบแทนพิเศษหรือเงินโบนัสพนักงานข้าราชการ และได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อดำเนินคดีกับนายกอบต. รายดังกล่าว ตามกฎหมาย

จากการสืบสวนทราบว่าในวันที่ 5 มกราคม 2567 เวลา 10.10 น. นายกอบต.คนดังกล่าว จะไปร่วมงานแข่งขันกีฬาภายในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในตำบลบ้านไทย อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้วางกำลังอยู่บริเวณใกล้เคียงสถานที่ดังกล่าว ต่อมาเมื่อนายยุรวัฒ มายังบริเวณภายในโรงเรียน จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ และแสดงหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 แล้ว สอบถามนายยุรวัฒ ยอมรับว่า เป็นบุคคลคนเดียวกันกับหมายจับจริงและไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อนแต่อย่างใด จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิให้ทราบตามกฎหมาย หลังจากนั้นได้แสดงหมายค้นของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 และเชิญตัวนายยุรวัฒ มายังห้องทำงานของนายกอบต. ก่อนการตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้นายยุรวัฒ ดูจนเป็นที่พอใจแล้ว จึงให้นายยุรวัฒ นำตรวจค้นโดยตลอด

ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด หลังจากนั้นจึงได้เชิญตัวนายยุรวัฒ มายัง สภ.เขื่องใน เพื่อจัดทำบันทึกจับกุมและบันทึกตรวจค้น หลังจากนั้นได้อ่านบันทึกจับกุมพร้อมทั้งข้อกล่าวหาและสิทธิให้ทราบตามกฎหมาย และลงบันทึกประจำวันเดินทาง ไปยัง กก.3 บก.ปปป. เพื่อดำเนินการ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สอบถามปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา