"อธิบดีกรมราชทัณฑ์" ไฟเขียวให้"ทักษิณ"รักษาตัวที่ชั้น14 รพ.ตำรวจต่อได้ เหตุมีความจำเป็นต้องรักษาตัวภายนอกเรือนจำเกิน 120 วัน แจงยิบพิจารณาตามความเห็นแพทย์ระบุเจ็บป่วยหลายประการที่อยู่ระหว่างการรักษาของแพทย์เฉพาะทาง ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด แต่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลผู้ป่วยได้
     
     เมื่อวันที่ 11 ม.ค.67 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานการรักษาตัวนอกเรือนจำเกิน 120 วันของนายทักษิณจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ แต่ทราบจากสื่อว่าอธิบดีกรมราชทัณฑ์จะเสนอมายังตนเองภายในสัปดาห์นี้
     
ส่วนการประชุมหลักเกณฑ์คัดกรองผู้ต้องขังที่เข้าข่ายตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566 วันนี้นั้น ตนยืนยันไม่มีเรื่องนายทักษิณเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เป็นการหารือการออกระเบียบ ไม่ได้เจาะจงกับบุคคล หรือพื้นที่ใด  
     
นายทวี  กล่าวย้ำว่า ใครจะเข้าเกณฑ์ ไม่มีใครรู้ เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการราชทัณฑ์ ซึ่งจะมีทั้งบุคคลจากกระทรวงยุติธรรม และบุคคลภายนอก ที่จะต้องมาพิจารณาร่วมกัน สำหรับการที่กรรมาธิการตำรวจจะไปศึกษาดูงานที่โรงพยาบาลตำรวจในวันที่ 12 ม.ค. เป็นเรื่องของอธิบดีกรมราชทัณฑ์จะพิจารณาอนุญาตหรือไม่ ส่วนที่รพ.ตำรวจอนุญาตให้กรรมาธิการตำรวจเข้าศึกษาดูงานที่ชั้น 6 อาคารศรียานนท์ ในวันพรุ่งนี้นั้น ตนยังไม่ได้รับรายงาน

 วันเดียวกัน กรมราชทัณฑ์ได้ออกเอกสารรายงานสถานการณ์กรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกรักษาตัวภายนอกเรือนจำเกิน 120 วัน  โดยระบุว่า ตามที่กรมราชทัณฑ์ได้ส่งตัว นายทักษิณ ชินวัตร ออกรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลภายนอก ตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.66 โดยพบว่านายทักษิณมีโรคประจำตัวหลายโรคที่อยู่ระหว่างการรักษาติดตามอาการ โดยโรคที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ และเนื่องจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ยังขาดเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพ แพทย์จึงมีความเห็นว่าเพื่อป้องกันความเสี่ยงอันตรายที่อาจจะส่งผลต่อชีวิต เห็นควรส่งตัวไปโรงพยาบาลตำรวจที่มีความพร้อม มีเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพสูงกว่า โดยแนวปฏิบัติกรณีมีผู้ป่วยที่ต้องเฝ้าระวังและยังคงรักษาตัวอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันนั้น 

 กรมราชทัณฑ์ขอเรียนว่า ขณะนี้นายทักษิณได้ออกไปรับการรักษาตัวยังโรงพยาบาลตำรวจเกินระยะเวลา 120 วัน โดยเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการประสานไปยังโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อรับทราบถึงอาการป่วยของนายทักษิณ ซึ่งแพทย์ได้รายงานอาการเจ็บป่วยในหลายประการที่ต้องเฝ้าระวัง โดยแจ้งความเห็นว่าผู้ป่วยอยู่ระหว่างการรักษาของแพทย์เฉพาะทางและต้องดูแลอย่างใกล้ชิดถึงอาการป่วย เพื่อให้พ้นจากสภาวะอันตรายแก่ชีวิต 

 เพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครจึงได้รายงานมายังกรมราชทัณฑ์เพื่อดำเนินการพิจารณา ตามกฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 ที่ระบุไว้ว่ากรณีผู้ต้องขังต้องพักรักษาตัวที่สถานที่รักษาเป็นเวลานานให้ผู้บัญชาเรือนจำดำเนินการดังนี้ กรณีการพักรักษาตัวเกินกว่า 120 วัน ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดีฯ พร้อมกับความเห็นแพทย์ผู้ทำการรักษา และหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และรายงานให้รัฐมนตรีทราบต่อไป 

 อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้พิจารณาจากความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาที่พิจารณาแล้ว มีความเห็นว่ายังต้องดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด ประกอบกับเอกสารหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องซึ่งมีความครบถ้วนตามกฎหมาย จึงพิจารณาเห็นชอบเมื่อวันที่ 8 ม.ค.67 ให้นายทักษิณอยู่รักษาตัวต่อยังโรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากยังคงมีอาการเจ็บป่วยที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดโดยแพทย์ผู้ทำการรักษาเฉพาะทาง และหากเกิดภาวะแทรกซ้อน หรืออาการที่อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตจะได้ดำเนินการรักษาอย่างทันท่วงที 

     โดยกรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการปฏิบัติตามกฎกระทรวงฯ จึงรายงานให้รัฐมนตรีทราบต่อไป ซึ่งเป็นไปตามกฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 โดยกรมราชทัณฑ์ ยังคงยึดหลักการสิทธิขั้นพื้นฐานที่ผู้ต้องขังพึงได้รับตามมาตรฐานสากลรวมถึงเคารพในหลักสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยและตามจรรยาบรรณของแพทย์ ข้อมูลส่วนบุคคลหรือการเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคล จำเป็นต้องได้รับคำยินยอมจากเจ้าของข้อมูลด้วย กรมราชทัณฑ์จึงไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วยออกสู่สาธารณชนได้ ตามพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 ตลอดจนประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 323 และข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกร พ.ศ.2549 ข้อ 27 ซึ่งแพทย์ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด