ฟันดาบสอง! ศรีสุวรรณ บุกยื่น ป.ป.ช.เอาผิดจริยธรรมร้ายแรง ศักดิ์สยาม ด้าน สว.สมชายเตือน ราชทัณฑ์ ระวังติดคุกแทน ปมอุ้มเอื้อ ทักษิณ เข้าเกณฑ์พักโทษพิเศษ ขณะที่ รัฐบาล ยันรับฟังทุกคำแนะนำ ปม ดิจิทัลวอลเล็ต พร้อมย้ำดำเนินการตามความตั้งใจ และเป็นไปตามกฎหมาย มุ่งช่วยเหลือประชาชน 
 

เมื่อวันที่ 18 ม.ค.67 นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เปิดเผยว่า ตามที่มีสมาชิก สภาฯ 54 คน ยื่นคำร้องต่อประธานสภาฯว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น โดยภายหลังศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติโดยเสียงข้างมาก (7 ต่อ 1) เมื่อวันที่ 17 ม.ค.67 ที่ผ่านมาโดยวินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสอง คือ วันที่ 3 มีนาคม 2566 แล้ว เนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้นเป็นเด็ดขาด มีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ ตามรัฐธรรมนูญ ม.211 วรรคสี่ ประกอบ ม.5 ดังนั้น การกระทำของนายศักดิ์สยามดังกล่าว ซึ่งกระทำในขณะที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงอาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงฯตามที่รัฐธรรมนูญ ม.219 บัญญัติไว้ด้วย จึงเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่จะต้องดำเนินการนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมาไต่สวนและยื่นศาลฎีกาให้ลงโทษตามครรลองของกฎหมายต่อไป ดังนั้นองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงจะนำความไปแจ้งให้ ป.ป.ช.ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่โดยด่วน ในวันศุกร์ที่ 19 ม.ค.67 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานใหญ่ ป.ป.ช. นนทบุรี
    
 ด้าน นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์กรณีแถลงการณ์กรมราชทัณฑ์ เกี่ยวกับเกณฑ์พักโทษพิเศษของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯว่า กรมราชทัณฑ์ต้องดูว่านักโทษเด็ดขาดผู้ใดที่มีความประพฤติดี มีการช่วยเหลือราชการเป็นพิเศษ นายทักษิณอยู่ในเกณฑ์หรือไม่ และมีการรับโทษมาไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือ 1 ใน 3 อย่างใดมากกว่ากันจึงจะเข้าเกณฑ์ ขอย้ำว่าเมื่อศาลพิพากษาลงโทษแล้ว และได้รับพระราชทานอภัยลดโทษแล้ว ก็ควรเดินตามกระบวนการที่ถูกต้อง
      
สิ่งที่ดีคือหากนายทักษิณรักษาหายแล้วก็เข้าสู่ระบบคือการพักฟื้นที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ และรอครบเวลาตามกฎหมาย ผมคิดว่าสังคมรับได้ถ้าครบ 6 เดือน แต่หากไปตั้งเกณฑ์พิเศษขึ้นมาอีกแล้วมีการปล่อยตัว ผมไม่แน่ใจว่าอาจเกิดวิกฤตศรัทธาของกระบวนการยุติธรรมไทยมากขึ้นหรือไม่ จึงฝากเตือนว่าอย่าพยายามเขียนระเบียบอะไร ที่ไปทำให้กระบวนการยุติธรรมบิดเบือน 
    
 เมื่อถามว่า หากใช้กฎหมายผิดวัตถุประสงค์สามารถนำไปร้องเรียนกับหน่วยงานใด เพื่อให้มีการตรวจสอบและดำเนินการเรื่องนี้ได้บ้างหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า กมธ.มีการตรวจสอบและบันทึกไว้แล้ว รวมถึงมีคนไปร้องกับหน่วยงานต่างๆ มากมาย หากเดินไปตามปกติก็ไม่มีอะไรและอยากเห็นกระบวนการเดินตรงไปตรงมา เมื่อถามต่อว่า น่าห่วงผู้ที่ดำเนินการเรื่องนี้หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ก็มีคนติดคุกแทน
   
  ด้าน นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยต่อประเด็นที่เป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ทางสังคม Digital Wallet ว่า ในวันนี้ ทุกคนทุกฝ่ายเห็นตรงกัน เศรษฐกิจไม่ดี โตต่ำ ประเทศมีปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการแก้ปัญหา กำหนดแนวทางการทำงานของรัฐบาล รวมทั้งชี้แจงสังคมถึงการทำงาน ซึ่งยืนยันรัฐบาลจะปฏิบัติตามกฎหมาย จะดำเนินการตามกระบวนการ และพร้อมรับฟัง พิจารณา ทำตามทุกคำแนะนำที่เป็นประโยชน์อย่างรอบด้าน อย่างไรก็ดี รัฐบาลเคียงข้างประชาชนรายได้น้อย เข้าใจ และพร้อมยืนเคียงข้าง ต้องการช่วยเหลืออย่างจริงใจ รู้ดีถึงปัญหา และพร้อมช่วยเหลือ รัฐบาลทราบดีว่าในทุกวันนี้ขนาดของปัญหาของแต่ละคนไม่เท่ากัน ทั้งนี้ ตั้งแต่รัฐบาลเข้ามารับหน้าที่ ได้แก้ปัญหาปากท้องช่วยเหลือประชาชนมาโดยตลอด ลดค่าน้ำ ค่าไฟ แก้หนี้ และพร้อมดำเนินการต่อไป ผ่อนหนักเป็นเบา ช่วยเหลือประชาชน และจุดมุ่งหมายคือเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจทั้งระบบ
    
 ที่รัฐสภา นายเฉลิมชัย ศรีอ่อนหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำคณะกรรมการบริหารพรรค และสส. พรรค เข้า แสดงความยินดี พร้อมมอบแจกันดอกไม้แสดงความยินดีกับนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ได้รับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร  โดยนายเฉลิมชัย กล่าวว่า ขอโทษด้วยที่ไม่ได้มาตั้งแต่แรก ขอให้การทำงานทุกอย่างราบรื่น
    
 จากนั้นได้หารือถึงแนวทางการทำงานของฝ่ายค้านร่วมกันครั้งแรก โดยมีตัวแทนพรรคไทยสร้างไทย พรรคเป็นธรรม พรรคครูไทยเพื่อประชาชน เข้าร่วมด้วย
    
 นายชัยธวัช กล่าวต้อนรับ และขอสวัสดีปีใหม่ทุกคน ถือเป็นการเริ่มต้นการร่วมงานกัน พร้อมขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติมาร่วมประชุมวันนี้ คงจะเป็นการพูดคุยกันถึงแนวทางในการทำงานร่วมกันหลังจากนี้ไปว่าแต่ละพรรคมีข้อเสนออะไรบ้าง เพื่อที่จะได้กำหนดเป็นวาระและแผนงานของฝ่ายค้านต่อจากนี้ไป และหากมีข้อเสนอแนะอะไร ทางพรรคก้าวไกลก็ยินดีรับฟัง
    
 ขณะที่ นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงกรณีที่คณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (โครงการแลนบริดจ์ ) สภาผู้แทนราษฎร ในสัดส่วนของพรรคก้าวไกล 4 คน ได้ขอลาออกจากกมธ.ฯว่า ตนขอฝากคำถามไปยังรัฐบาล ว่า รายงานของ กมธ.นี้เป็นเพียงรายงานของทางสภาผู้แทนราษฎร เมื่อตรวจสอบเอกสารงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ฉบับที่ 3 เล่มที่ 5 เล่มขาวคาดแดง ปรากฏว่า กระทรวงคมนาคมได้ตั้งงบประมาณโครงการแลนด์บริดจ์เป็นเงินทั้งสิ้น 45,950,000 บาท โดยจะมีการใช้งบประมาณในปีงบประมาณ 2567 นี้ไป 3 ปี โดยระบุวัตถุประสงค์ของการใช้งบประมาณว่าใช้เพื่อจ้างที่ปรึกษาในการจัดทำประกาศเชิญชวน ในการร่างเอกสารสำหรับการคัดเลือกข้อมูลและเอกสารอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมทุนในการพัฒนาโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน ดังนั้นจึงขอเสนอว่ารัฐบาลควรตั้งงบประมาณส่วนนี้ในปีถัดๆไป ซึ่งสิ่งที่จะทำได้ในฐานะ สส. คือการแปรญัตติตัดงบประมาณในส่วนการจ้างที่ปรึกษาฯ
     
  คำถามคือ ทำไมกระทรวงคมนาคมถึงรีบเร่งในการจ้างที่ปรึกษาในการทำประกาศเตรียมเอกสารในการคัดเลือกเอกชนมาร่วมลงทุน ทั้ง ๆ ที่ยังไม่เกิดความชัดเจนของโครงการคมนาคมหลายประการตามที่กฎหมาย ซึ่งทางพรรคก้าวไกลได้มีการทักท้วงไป ว่ายังไม่มีการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโดยภาพรวม นายจุลพงศ์ กล่าว