อัจฉริยะบุกร้อง บช.ก.จี้สอบ 2 ข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ เอี่ยวส่งข้อมูลทุจริต กรมการข้าว-กรมฝนหลวง ให้ เอก ปากน้ำ ตัวการขบวนการรีดทรัพย์ของ ศรีสุวรรณ ด้าน บิ๊กเต่า คาดออกหมายจับเพิ่มคดีเรียกรับเงินอธิบดีกรมการข้าวภายใน 7-8 ก.พ.นี้ พร้อมออกหมายเรียกพยานไปแล้วกว่า 10 ปาก โยนให้พฐ.ตอบ ไฟไหม้ ก.เกษตรฯ  เป็นอุบัติเหตุหรือเจตนาเผาทำลาย ชี้คดีมีหลักฐานเพียงพอไม่จำเป็นต้องเผาทำลายให้หายไป 

     ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ หลักสี่ เมื่อวันที่ 5 ก.พ.67 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมติดตามการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมี นายทรงศักดิ์ ทรงศรี ,นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ,นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงฯ มอบนโยบายต่อผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดย นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้ข้าราชการกระทรวงมหาดไทยทุกคนยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต ความโปร่งใส และมีความกล้าหาญที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องอยู่เสมอ เรายึดหลักคุณธรรม ถ้าถูกต้อง เราจะปกป้องท่าน ความดี จะปกป้องท่าน
 
 บางทีมันมีข่าวเรื่องแก๊งตบทรัพย์เข้ามา ก็อาจจะกระทบกับขวัญกำลังใจของท่าน แต่ผมขอย้ำว่าเขาทำอะไรเราไม่ได้ ถ้าเราทำทุกอย่างบนความสุจริต ผมขอให้ข้าราชการกระทรวงมหาดไทยทุกท่านมีเจตนารมณ์ในการทำงานด้วยความโปร่งใส ซื่อสัตย์สุจริต ทั้งฝ่ายการเมืองและฝ่ายประจำยึดการใช้ระบบคุณธรรมในการปฏิบัติราชการ มีความกล้าหาญที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องอยู่เสมอ ไม่หวั่นไหวกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย ผมจะสนับสนุนการทำงานของข้าราชการที่ยืนหยัดทำงานในสิ่งที่ถูกต้อง นายอนุทิน กล่าว
    
 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมื่อเวลา 10.30 น. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้นำรายชื่อข้าราชการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 2 ราย มามอบให้กับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. โดยให้ข้อมูลการทุจริตโครงการต่างๆ ในกรมการข้าว และกรมฝนหลวง กับ นายเอกลักษณ์ วารีชล หรือเอก ปากน้ำ ผู้ร่วมขบวนการรีดทรัพย์ของ นายศรีสุวรรณ จรรยา 
     
  คนแรกเป็นเพื่อนสนิทของเอกมีชื่อเล่น โอ ซึ่งเป็นข้าราชการระดับสูงของกรมการข้าว อยู่ระหว่างถูกตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งผมมีหลักฐานว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับเอก ในการให้ข้อมูลการทุจริตภายในกรมการข้าว พร้อมนำแชตไลน์ที่เป็นหลักฐานการเจรจาระหว่างการแลกเปลี่ยนข้อมูลในกรมฝนหลวงมาให้กับสื่อมวลชนดู อีกรายหนึ่งคือนาย ก เป็นข้าราชการระดับสูงของกระทรวงเกษตรฯ ที่อยู่เบื้องหลังรัฐมนตรีรายหนึ่งของกระทรวงเกษตรฯ แต่ไม่ใช่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ซึ่งทำหน้าที่ชงข้อมูลกรมฝนหลวงให้ขบวนการดังกล่าวนำไปร้องเรียนที่คณะกรรมาธิการต่างๆ โดยต้องการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เชิญทั้งสองคนมาให้ข้อมูลในฐานะพยาน 
   
  นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังนำข้อมูลการฮั้วประมูลโครงการของภาครัฐมูลค่ากว่า 97,000 ล้านบาท ที่ นายเจ๋ง ดอกจิก และนายศรีสุวรรณ เคยนำไปร้องเรียนกับคณะกรรมาธิการต่างๆแล้ว โดยเฉพาะเรื่องของโครงการทุจริตเรือดำน้ำ และเชื่อว่าจะนำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตมาลงโทษได้ โดยเฉพาะ นายบอย ที่เป็นหัวเรือหลักในการฮั้วประมูลโครงการต่างๆ ของรัฐ และคนส่งข้อมูลให้เอก อีกทั้งยังมีโครงการจัดซื้อจัดจ้างอาคาร 191 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มูลค่า 7,000 ล้านบาท ซึ่งนายเจ๋ง ดอกจิก และนายศรีสุวรรณ จะยื่นเรื่องนี้ให้กับคณะกรรมาธิการ 2 คณะตรวจสอบ แต่กลับถอนเรื่องออกไปทั้งสองคณะ ซึ่งมองว่ากรณีดังกล่าวน่าจะเกิดจากการเจรจากันใต้ดิน และกลุ่มขบวนการดังกล่าวได้ตกลงกันเรื่องผลประโยชน์เรียบร้อยแล้ว   
    
 สำหรับเหตุเพลิงไหม้ที่กระทรวงเกษตรฯ นั้น มีข้อมูลว่าห้องดังกล่าวเป็นห้องรวบรวมเอกสารของกรมการข้าวและกรมฝนหลวง ซึ่งเชื่อมโยงในคดีรีดทรัพย์ของนายศรีสุวรรณ และยังมีหลักฐานที่ระบุว่าหนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับในขบวนการนายศรีสุวรรณ ได้ขึ้นไปพบกับข้าราชการระดับสูงในกระทรวงที่ห้องดังกล่าวอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งวัน    
   
 ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ได้เรียกประชุมทีมสืบสวนสอบสวนในคดีเรียกรับผลประโยชน์อธิบดีกรมการข้าว เพื่อวางแนวทางการสืบสวนขยายผล และติดตามความคืบหน้าของคดี หลังจากออกหมายจับและสามารถจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญไปแล้ว 4รายคือ นายศรีสุวรรณ,  นายยศวิรศ  ,น.ส.พิมณัฏฐา และนายเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญ และผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวออกไป
   
  พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า จากการประชุมน่าจะประมาณวันที่ 7-8 ก.พ.นี้ หน้าจะออกหมายจับเพิ่มเติมได้ อย่างน้อย1คน เป็นคนในกลุ่มนี้ ที่มีพฤติการณ์ร่วมกัน ขณะนี้ตำรวจได้ออกหมายเรียกพยานไปแล้วจำนวนมากเกินกว่า10 ปาก ทั้งพลเรือน และข้าราชการ มีทั้งในกรมการข้าว และพยานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพราะเคสนี้มีหลายกรณีที่จะต้องหลักฐานเข้าสำนวนการสอบสวน ส่วนบัญชีม้า มีข้อมูลว่าสมัครใจที่จะเข้ามา ส่วนจะอยู่ในรูปผู้ต้องหาหรือพยานขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินการก่อน ทั้งนี้ยังไม่ต้องมีการสอบภรรยาผู้ต้องหา เพราะเป็นเรื่องของพยานหลักฐาน และคดียังไม่จบยังต้องมีการสอบปากคำอีกหลายปาก
 
   ส่วนการให้การของผู้ต้องหาที่ให้ไปคำชี้แจงภายใน15วันนั้น ขณะนี้ ก็ยังไม่มีการทำคำชี้แจงกลับมาให้พนักงานสอบสวน ขณะที่วงอื่นที่มีความเสียหาย 90-100 ล้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ก็มีผู้เสียหายเข้ามาหลายราย และยืนยันว่าจะเดินทางมา แต่ก็ยังไม่มีใครเข้ามาให้ปากคำ ซึ่งในส่วนผู้เสียหายก็อยากให้เข้ามาแจ้งความ แต่ก็ไม่ได้บังคับ เพราะถ้ามาก็จะทำให้เปิดคดีของวงใหม่ได้ ซึ่งตรงนี้เรามีพยานหลักฐานข้อนค้างชัดเจน ถ้ามีการแจ้งความดำเนินคดี ตนเองยังเชื่อมั่นในพยานหลักฐาน 
   
  เมื่อถามถึงกรณีไฟไหม้ชั้น 2 ของกระทรวงเกษตรฯ ว่ามีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ยังไม่มีความเกี่ยวโยงกัน แต่วงอื่นนั้นตนยังไม่ทราบ และยืนยันว่าตำรวจทำไปตามพยานหลักฐานและอะไรที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงก็พยายามเจาะข้อมูลไป ส่วนจะไปเกี่ยวข้องกับใครหากไม่มีพยานหลักฐานก็ยังไม่สามารถพูดได้ และพยานหลักฐานคดีการทุจริต เป็นการทำอย่างต่อเนื่องไม่ได้เก็บพยานหลักฐานเพียงแค่แป๊ปเดียวแล้วจบเลย
    
 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า หลักฐานเบื้องต้นมีเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องเผาทำลายให้หายไป และเชื่อว่ามีพยานหลักฐานเก็บในที่อื่น ส่วนจะมีเจตนาเผาทำลายหรือเป็นอุบัติเหตุให้พิสูจน์หลักฐานไปตรวจสอบก่อน ส่วนมีตัวการที่ใหญ่กว่านายเอกลักษณ์หรือไม่ การนำพยานหลักฐานเข้ามาร้อง คนบางคนต้องการตำแหน่ง บางคนต้องการเงิน แนวทางการสืบสวนพอรู้ แต่พอสอบเข้าสำนวน ค่อนข้างที่จะยากนิดหนึ่ง
   
 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.  มีความเป็นห้วงเพราะคดีขยายวงกว้าง พยานหลักฐานที่จำนำเข้าสู่สำนวนต้องทำให้ทันส่งอัยการ เพราะปปป.มีกำลังพลน้อยมีคดีเยอะ จึงนำชุดสืบสวนสอบสวนเข้ามาช่วย โดยได้ตั้งรูปแบบคณะกรรมการสอบสวนเข้ามามี พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. ที่ดูแลงานสอบสวน เป็นหัวหน้าคณะฯ คาดว่าจะส่งสำนวนได้ต้องใช้ระยะเวลาประมาณ2เดือน และการสรุปสำนวนคดี ขณะนี้ ยังมีเวลาอีกเยอะ เพื่อทำพยานหลักฐานให้แน่นหนา และเราเก็บพยานหลักฐานมา 3-4 เดือน โดยที่กลุ่มผู้ต้องหาไม่รู้ตัว ปล่อยไก่ ประมาทเลินเล่อ ทำกันเป็นประจำโดยไม่คิดว่ามีคนเข้ามาร้องมาสู้ และทำให้ทิ้งพยานหลักฐานไว้เยอะ พร้อมยืนยันย้ำว่า คดีนี้ยังไม่มีใครโทรเข้ามาขอเคลียร์ ยืนยันแน่นอน ไม่มี สบายใจได้ อยู่ที่นี่โปร่งใสตรงไปตรงมาตามสโลแกนของตำรวจสอบสวนกลาง 
    
 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่นายอัจฉริยะที่ได้นำข้อมูลของข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ 2 คน ที่พบว่าเป็นคนให้ข้อมูลของกรมการข้าวกับนายเอกลักษณ์หนึ่งในผู้ต้องหานั้น ว่า  ตนยังไม่เห็นหลักฐาน แต่ได้พูดคุยกัน ซึ่งถือเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เพราะเป็นพยานแวดล้อม โดยจะนำหลักฐานไปเข้าสำนวน ว่าแก๊งนี้มีพฤติการณ์ในการกระทำความผิดอย่างไร เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และเท่าที่ฟังมีแผนประทุษกรรมใกล้เคียงกัน