“กัน จอมพลัง” บุกเร่งรัดคดีอนาจารเด็กหญิงลูกครึ่งวัย 7 ขวบถูกอนาจาร หลังแม่เด็กถูกร้อยเวรเจ้าของคดีสวน “จับเมื่อไรก็เมื่อนั้น”

เมื่อเวลา 14.30 น. ( 7 ก.พ.67 ) ที่ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” ได้พานางสาวหน่อย นามสมมุติ อายุ 42 ปี พร้อมกับ ด.ญ.น้อย นามสมมุติ อายุ 7 ขวบ เด็กหญิงลูกครึ่งไทยเยอรมัน ซึ่งถูกชายแปลกหน้าซึ่งพักอยู่คอนโดเดียวกัน กระทำอนาจาร โดยใช้นิ้วมือสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศ เข้าพบ พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา โดย “กันจอมพลัง” ได้พา สองแม่ลูกเข้าพบท่านผู้กำกับการสถานีตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เพื่อเร่งรัดคดี หลังผู้เป็นแม่ได้พาลูกสาวเข้าแจ้งความไว้ตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค.67 แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า พอไปสอบถามความคืบหน้ากับร้อยเวรเจ้าของคดี  “เมื่อไหร่จะจับคนร้ายได้” แต่ตำรวจกลับบอกว่า “ จับเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น” ทำให้แม่ลูก เกิดความไม่สบายใจ เพราะคนร้ายยังลอยหน้าลอยตาอยู่ในคอนโดเดียวกัน จึงร้องเรียนผ่านเพจ กัน จอมพลัง ช่วยลงพื้นที่มาติดตามคดี โดยมีปลัดอำเภอบางละมุง และ เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี( พม.ชลบุรี ) ร่วมสังเกตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย

โดยผู้เป็น แม่เล่าทั้งน้ำตาว่า ลูกสาววัย 7 ขวบ ถูกชายแปลกหน้าซึ่งพักอยู่ใน คอนโดเดียวกัน ย่านซอยเทพประสิทธิ์ 17 จอมเทียน หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ. บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อเหตุอนาจารลูกสาวโดยใช้นิ้วสอดใส่เข้าไปในเพศของลูกสาว โชคดีที่มีเพื่อนบ้านในคอนโดเดียวกันมาเห็นก่อน จึงลูกช่วยลูกสาวไว้ได้ทัน  ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุก็วิ่งหลบหนีไป หลังจากนั้นได้พาลูกสาวไปแจ้งความ กับร้อยเวรที่ หน่วยสอบสวนย่อยโค้งดงตาล สภ.เมืองพัทยา ก่อนจะพาลูกสาว ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลบางละมุง  ซึ่งแพทย์ ระบุว่า อวัยวะเพศของน้องเกิดการฉีกขาด โดยเหตุเกิดตั้งแต่ 2 ทุ่ม ของวันที่ 28 มกราคม 2567  พร้อมทั้งนำรูปถ่าย และ ชื่อของผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อว่า นายอภิรักษ์ อายุ 46 ปี ซึ่งพักอยู่คอนโดเดียวกัน ไปให้ตำรวจ  เพื่อใช้ในการดำเนินคดี โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ก.พ.67 ผ่านมา ได้เดินทางไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี แต่ปรากฏว่าก็ถูกร้อยเวรพูดจาในลักษณะ “ คดีไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า จึงไม่สามารถจับกุมได้ จับได้เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น” จึงทำให้ตนเกิดความไม่สบายใจ เพราะหลังเกิดเหตุ พ่อของน้อง ( สามีชาวเยอรมัน ) และ ลูกสาว ต้องอยู่แบบหวาดระแวง ไม่กล้าพาลูกออกมาด้านนอก พอลูกสาวกลับจากโรงเรียน ก็ต้องเก็บตัวอยู่แต่ในห้องนอน ไม่กล้าปล่อยออกมาวิ่งเล่นด้านนอก มิหนำซ้ำ ผู้ก่อเหตุ ซึ่งพักอยู่คอนโดเดียวกัน ยังแสดงพฤติกรรม ไม่สะทกสะท้านกับการกระทำสุดเลวทราม ยังเดินมายิ้มเยาะเย้ยใส่สามี ตนเองเกิดความไม่สบายใจ จึงได้ติดต่อไปยัง คุณกัน จอมพลัง  ให้ลงมาช่วย และขอความเป็นธรรมในเรื่องนี้ อีกทั้งยัง ขอขอบคุณ คุณกัน จอมพลัง และ ทีมงาน จากใจจริง ที่ลงพื้นที่ช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ เคยเห็นเรื่องราวอนาจารเด็ก แต่ในข่าว และไม่คิดว่าจะมาเกิดขึ้นกับลูกตัวเอง และขอดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด

นางสาววรรณ นามสมมุติ อายุ 32 ปี พยานเห็นเหตุการณ์และเป็นคนช่วยน้อง เล่าว่า ในคืนวันเกิดเหตุ  เวลาประมาณ 2 ทุ่ม กำลังเดินกลับเข้าห้องพัก  จนถึงบริเวณหน้าล็อบบี้ ของคอนโด พบว่าน้องนั่งอยู่บริเวณโซฟา โดยขาทั้งสองถูกถ่างออก ในมือเล่นโทรศัพท์มือถือ ส่วนผู้ก่อเหตุ นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับน้องกำลังใช้มือเล่นอวัยวะเพศ และ จับก้นน้อง เมื่อเห็นดังกล่าวตนตนเองจึงตะโกนด่า ก่อนที่คนร้ายจะตกใจวิ่งหนี ( มีภาพกล้องวงจรปิดตอนคนร้ายวิ่ง ) หลังเกิดเหตุจึงรีบโทรศัพท์ไปบอกแม่ของน้อง แล้วพา น้องเข้าแจ้งความดังกล่าว

พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา กล่าวว่าในเบื้องต้น รู้ตัวคนร้ายแล้ว แต่ด้วยขบวนการของกฎหมาย จะต้องพาน้องไปสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพ , อัยการ และ นักสังคมสงเคราะห์ เพื่อ รวบรวมหลักฐานในการออกหมายจับผู้ก่อเหตุ ส่วนในเรื่องของพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี อาจเป็นการสื่อสารเข้าใจกันผิด ซึ่งตนก็ขอโทษแทนในเรื่องนี้ด้วย พร้อมจะเร่งรัดคดี พร้อมให้ชุดสืบสวนออกไล่ล่าติดตามผู้ก่อเหตุรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า หลังจากที่มีผู้ได้ขอความเหลือ ว่าเด็กถูกอนาจาร โดยมี คนเห็นเหตุการณ์ว่า น้องถูกกระทำอะไรยังไงบ้าง ก่อนแม่ได้เข้าแจ้งความ แต่เหมือนมันมี อาจจะมีคำพูดของร้อยเวร ที่ทำให้แม่รู้สึกไม่สบายใจ กับคำพูดที่ว่า  “จับได้เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น“ ทำให้ทางครอบครัวเขารู้สึกว่าไม่สบายใจ แต่วันนี้ เรื่องเก่าช่างมัน เริ่มใหม่ โดยวันนี้มีหลายหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลือ ทั้งฝ่าย ปกครอง และ พม. ส่วนคดีคงต้องเร่งสอบน้อง เพื่อติดตามตัวคนก่อเหตุ  ส่วนใครตามที่ทำเด็ก แล้วยังจะลอยหน้าลอยตาอยู่ ต้องถูกดำเนินการอย่างเร็วที่สุด ส่วนเคสนี้ อย่างน้องแทบไม่ได้ออกจากห้องพัก ต้องอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆ ส่วนคนก่อเหตุก็ไม่รู้สึกอะไรเลย ยังลอยหน้าลอยตาอยู่ในคอนโดเดียวกัน โดยขอฝากไปถึงผู้ก่อเหตุ “เวลาความสุขของคุณเหลือน้อยแล้ว” ไม่ว่าคุณจะมีสาเหตุอะไรก็ตามในการก่อเหตุ แต่คุณต้องรับผิดชอบ กับสุภาษิตที่ว่า “ สู้ติดแน่ แพ้ติดนาน รับสารภาพติดพอประมาณ”