“สยามรัฐ” ยืนหยัดอยู่บนบรรณพิภพ และสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ด้วยปณิธาน “นิคฺคณฺเห นิคฺคหารหํปคฺคณฺเห ปคฺคหารหํ” แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม พึงข่มคนที่ควรข่ม”…*...

ท่ามกลางปัญหาฝุ่น PM2.5 ภัยแล้งและน้ำท่วม การแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืนที่สุด คือการปลูกป่า แต่กลับมี “นักการเมือง” จะเอาผืนป่าไปหาคะแนนเสียง ไม่ห่วงคนรุ่นลูกรุ่นหลานจะประสบเคราะห์กรรมอย่างไร...*...

อา ..ศรพระราม ก็ได้แต่บ่นกับลมกับฟ้าไปเรื่อย แวะไปเกาะรั้วบ้านจันทร์ส่องหล้ากันหน่อย เมื่อ “สมเด็จฮุนเซน” บินตรงจากกัมพูชา มาเยี่ยมอาการป่วยของเพื่อนรัก “ลุงโทนี่” ทักษิณ ชินวัตร ท่ามกลางสถานการณ์ที่อึมครึม นับแต่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ “ทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และ “ก้าวไกล” เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง กรณีป่วน “ขบวนเสด็จ” ...*...

ที่ว่ากันว่า สถานการณ์ต่างๆ นั้นเตรียมยกระดับไปสู่ “แอ่นแอ๊น” รัฐประหารอีกครั้ง...*...

แต่เมื่อพี่ชายมาเยี่ยม ก็น่าจะทำให้ “ลุงโทนี่” อุ่นใจได้ระดับหนึ่ง ว่ามีคนคอยซัพพอร์ต  และส่งสัญญาณไปถึงกลุ่มที่กำลังบิลด์สถานการณ์ ในขณะเดียวกัน ก็ตอกย้ำว่า “บ้านจันทร์ส่องหล้า” เป็นศูนย์อำนาจเบ็ดเสร็จ ที่สำคัญ มูฟเมนต์ของ “ลุงโทนี่” ที่แม้จะเก็บตัวเงียบไม่เคลื่อนไหว แต่ก็มีแขกแวะมาเยี่ยมเยียนตลอด ปลุกคนเสื้อแดงให้คึกคัก เตรียมเป็นผนังทองแดงกำแพเหล็ก โอบล้อม “ลุงโทนี่” จากกลุ่มต่อต้าน...*...

เพิ่งอ่านข่าวอาการของ “ตะวัน - บุ้ง - และแฟรงค์” ที่อดข้าวอยู่ในคุก ก็ทำให้คิดถึงกลุ่มคนที่กำกับการแสดง ให้พวกเป็น “แสดงแทน” เหล่านี้ ทำให้นึกถึงวันก่อน ได้ดูหนังของพระเอกซูเปอร์สตาร์ในดวงใจ “เฉินหลง” ทางแอปฯแดง หนังที่มีชื่อว่า “Ride on” ที่มีชื่อภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ก็คือ “ควบสู้ฟัด”  ที่ “เฉินหลง” รับบทเป็นสตั๊นท์แมนตกงาน ที่ชีวิตครอบครัวล้มเหลว และมีประสบปัญหาทางการเงิน บ้านก็จะถูกทวงหนี้  แถมม้าที่ตัวเองเลี้ยงมาเหมือนลูกก็จะถูกยึดไปด้วย...*...

แต่แล้วโอกาสก็มาถึง เมื่อคลิปที่เขาต่อสู้กับแก๊งทวงหนี้ กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ ทำให้โอกาสมาถึงเขาอีกครั้งในการกลับเข้าสู่วงการภาพยนตร์พร้อมกับม้าของเขา  แต่เพื่อบรรลุเป้าหมาย ในการปลดหนี้บ้าน และหวนคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้งในอดีต เขาฝึกม้าอย่างหนักหน่วง ใส่ความคิดให้มันเป็น “สตั๊นท์แมน”  โดยแทบจะหลงลืมคุณค่าที่แท้จริงของม้าที่เขารักเหมือนลูก และคอยเคียงข้าง...*...

ความดื้อดึงของเขาไม่เพียงพาตัวเองไปเสี่ยงอันตรายใหญ่หลวง แต่ยังพาม้าที่เขาเคยฟูมฟักมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกไปเสี่ยงด้วย ที่สุด ม้าที่เคยเชื่อฟังเขา ก็ “พยศ” ในการเข้าฉากอันตรายที่ต้องกระโดดสูงในภาพยนตร์ มันไม่ยอมควบไปข้างหน้า แต่กลับเบรกกะทันหัน แรงเหวี่ยงทำให้เขาถลำไปด้านหน้าตกลงไปนอนกับพื้นและได้สติ...*...

โชคดีที่ ตัวเอกในหนังยังได้คิดทัน วันนี้คนเป็นพ่อเป็นแม่คน ผู้นำความคิดต่างๆ หรือคนที่อยู่เบื้องหลังให้การสนับสนุน “ตะวัน-บุ้ง-แฟรงค์” จะมีวันได้สติหรือไม่ ก่อนจะพลัดตกจากหลังม้า หรือต้องสูญเสียม้าไปตัวสองตัว เพื่อจุดไฟ !!...*...

ที่มา:ศรพระราม (23/02/67)