หมายเหตุ :  “ดร.อวยชัย  วะทา” ประธานเครือข่าย ป.ป.ช.ภาคประชาสังคมแห่งประเทศไทย และนักวิชาการสอนระดับปริญญาเอกด้านยุทธศาสตร์การพัฒนาและการเมืองการปกครอง  สัมภาษณ์พิเศษ “สยามรัฐ” วิเคราะห์การเมืองจากนี้ไป เมื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรีได้รับการพักโทษ และจะมีโอกาสที่ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกฯ จะเดินทางกลับประเทศไทย ตามรอยอดีตนายกฯทักษิณ ด้วยหรือไม่

-  ทำไม “ทักษิณ” กล้าที่จะไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว

เป็นเรื่องทัศคติหรือนิสัยของคุณทักษิณ เนื่องจากที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจหลายแสนล้านและประสบความสำเร็จทางการเมืองอย่างยิ่งใหญ่ท่วมท้น แทบจะเรียกได้ว่านกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ แม้จะถูกดำเนินคดีทุจริตจนต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศก็ยังไม่ยอมรับว่าตนเองผิด กลายเป็นอัตตาหรือมิจฉาทิฐิเต็มขั้นเชื่อว่า “ตัวเองทำอะไรไม่ผิด ประเทศไทยเองที่ผิด” ไม่ต่างจากโจโฉในสามก๊กที่กล่าวว่า “ข้ายอมที่จะทรยศต่อโลก แต่จะไม่ยอมให้โลกทรยศต่อข้า” เราจึงได้เห็นคุณทักษิณพยายามทุกวิถีทางไม่ว่าจะถูกหรือผิดเพื่อไม่ให้ตัวเองติดคุกแม้แต่วันเดียว เรียกว่ากิเลสบังตาบังใจเกินกว่าจะใช้คำว่า ดื้อด้าน

-  การเมืองไทยหลัง จาก "ทักษิณ" พ้นจากเรือนจำ จะเป็นอย่างไรต่อไป    

คนไทยส่วนใหญ่ก็คงจะอึ้งไปสักระยะ เพราะไม่เชื่อว่าจะมีเทวดาตัวเป็นๆจุติลงมาเกิด ขณะเดียวกันก็ยังไม่หายตกตะลึงว่าจะได้เห็นพรรคการเมืองเปิดหน้า เซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบัน และล้มล้างการปกครอง รวมทั้งการบังอาจขับรถคุกคามขบวนเสด็จของกรมสมเด็จพระเทพฯ อย่างไม่เกรงกลัวต่อความรู้สึกของคนไทยหรือหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆทั้งสิ้น

แต่อีกสักพักขบวนการปกป้องสถาบันจะขยายตัวออกไปอย่างกว้างขวาง โดยภาคประชาชน ภาคราชการและภาคธุรกิจ คู่ขนานไปกับกรณีของนักโทษเทวดาหลงยุคที่จุติมาเกิด เชื่อว่าคงจะมีขบวนการเคลื่อนไหวที่ถูกจัดตั้งขึ้นอย่างแน่นอนโดยกลุ่มอนุรักษ์นิยมเก่าและใหม่เพื่อรอเวลาเหมาะสมที่จะสะสางปฏิรูปประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง

 -  ประเมินแรงเสียดทาน เสียงวิจารณ์เรื่องสองมาตรฐาน ที่ทักษิณได้รับ จะมีมากพอ จนทำให้ คปท.ที่กำลังชุมนุมได้แนวร่วมเพิ่มมากขึ้นหรือไม่      

ช่วงนี้ยังคงไม่มีใครขยับอะไรมากมายนักนอกจากเลี้ยงกระแสและสร้างกิจกรรมขยายแนวร่วมออกไปเรื่อยๆ ในขณะที่ขบวนการประชาชนและผู้มากบารมีกำลังดูใจผู้หลักผู้ใหญ่ผู้อาวุโสในกลุ่มอนุรักษ์นิยมเก่า ภาคราชการ ภาคธุรกิจและภาคประชาชน ว่าจะลงมาร่วมรบในสงครามครั้งสุดท้ายหรือไม่ เพราะได้ยินหลายท่านบอกว่าจะไม่ยอมให้ใครหลอกใช้เป็นเบี้ยอีกต่อไป                   

ดร.อวยชัย วะทา

-  หลายคนเชื่อว่าพรรคเพื่อไทย จะกลับมาแข็งแกร่งได้อีก แต่บางฝ่ายประเมินว่า พรรคเพื่อไทย มีแต่จะเสียหายมากขึ้น เพราะจากปมทักษิณ และคะแนนนิยมรัฐบาลที่ลดลง

แน่นอนว่าขณะนี้ภาพลักษณ์พรรคเพื่อไทยเสียหายมากจากการกระทำของคุณทักษิณ แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าแทนที่พรรคเพื่อไทยจะได้รับโบนัสก้อนใหญ่จากศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาความผิดของพรรคก้าวไกลกรณีมาตรา 112 อย่างล่อนจ้อนว่า “ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” ซึ่งจะนำไปสู่การยุบพรรค การตัดสิทธิ์ทางการเมืองและการดำเนินคดีอาญา เรียกได้ว่าเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ของขบวนการที่ยิ่งกว่าการยุบพรรคอนาคตใหม่ เรียกว่าต้องใช้เวลาและยุทธศาสตร์เดินทัพถอยทางไกลนับหมื่นไมล์แบบเดียวกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่นำโดยเหมา เจ๋อ ตุง

แต่เป็นที่น่าเสียดายสำหรับพรรคเพื่อไทยว่า เพราะคุณทักษิณคนเดียวแท้ๆที่ไม่เพียงทำหมูหกแต่อยู่ในระดับทำไฟลัดวงจรเผาบ้านตัวเอง ในขณะที่พรรคก้าวไกลและกลุ่มก้าวหน้ากำลังเพลี่ยงพล้ำไม่ต่างจากพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ยิ่งถ้า อดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ กลับประเทศไทยอย่างไม่อายฟ้าอายดิน แบบพี่ชายรับรองได้ว่า ปรากฏการณ์เขื่อนแตกหรือคลังแก๊สระเบิดคงได้เห็นอีกครั้ง ซึ่งผู้นำมวลชนขาใหญ่ ขาเล็กทั้งมีความชอบธรรมอย่างเต็มร้อยที่จะระดมมวลชนเป็นแม่น้ำร้อยสายไหลลงสู่ถนนอีกครั้ง

-  โอกาสที่จะได้เห็น คุณยิ่งลักษณ์ เดินทางกลับประเทศไทย คาดว่าจะมีเร็วขึ้นหรือต้องรอออกไปอีก มีข้อสังเกตอะไรที่ต้องจับตา      

ครอบครัวชินวัตรและคุณทักษิณเป็นคนปกติก็คงทำนายได้ว่าช่วงนี้ยังไม่มี แต่ปรากฏการณ์ที่เห็นคือคุณทักษิณเป็นคนมีทิฐิและเชื่อมั่นตัวเองสูงว่าวิเคราะห์อะไรไม่พลาด และความสำเร็จจากดีลลับจะถูกประเมินว่ากลุ่มต่อต้านอ่อนล้าไร้พลังไร้น้ำยา ต้องตัดสินใจรุกเร็วชนะเร็ว โดยมีรัฐบาล เศรษฐา เป็นเบี้ยในมือที่จะจัดการกับกลุ่มต่อต้าน หลังจากนั้นก็จะรื้อนั่งร้านส่ง แพทองธาร เข้ามานั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเป็นการก้าวเดินที่ผิดพลาดที่สุดครั้งสุดท้ายในชีวิตของคุณทักษิณและครอบครัวชินวัตร

- มีคำแนะนำอย่างไร ที่เป็นประโยชน์สำหรับคุณทักษิณและประเทศไทย

สำหรับคนธรรมดาไร้อำนาจวาสนาอย่างผมคงไม่บังอาจแนะนำ เทวดา จำแลงอย่างคุณทักษิณหรอกเพราะเมื่อปี 2544 ยุคก่อตั้งพรรคเพื่อไทย ผมเคยแนะนำคุณทักษิณให้เสียสละเงินเพียงน้อยนิดประมาณ 2 พันล้านบาทก่อตั้งมูลนิธิ “ชินวัตรเพื่อพัฒนาประเทศไทย” 76 จังหวัดๆละ 20 ล้านบาท แต่คุณทักษิณกลับใช้เงิน 7,000 ล้านไปซื้อทีมฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ ซึ่งต่อมาก็ขายได้กำไรนับหมื่นล้าน

แต่ผมจะสมมุติว่าถ้าผมเป็นคุณทักษิณในขณะนี้ สิ่งแรกที่ควรจะทำคือ 1) การพักผ่อนอีกสัก 7 วันเพื่อให้สมเหตุสมผลว่าอาการป่วยระดับเจียนเป็นเจียนตายได้ทุเลาลงแล้ว 2) หลังจากนั้นทำพิธีใหญ่เพื่อถวายความจงรักภักดีและแสดงความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

โดยจะบวชเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลอย่างน้อย 1-7 ปี  ตามจำนวนปีที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งจะเลือกบวชกับสมเด็จพระสังฆราชพระอาจารย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรือจำพรรษาที่วัดธรรมมงคลของสมเด็จพระญาณวชิโรดม (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินทโร) พระอาจารย์อีกองค์หนึ่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อฝึกสมาธิขัดเกลากิเลสตามแนวทางที่พระองค์ได้ปฏิบัติอย่างเสมอทุกวันพระ

และ 3) ประการสุดท้ายที่สำคัญที่สุดคือ คุณทักษิณและครอบครัวชินวัตรควรประกาศวางมือทางการตลอดไปเพื่อแทนคุณประเทศไทยที่ให้ทุกสิ่งทุกอย่างแก่คุณทักฺษิณและครอบครัวอย่างประเมินค่ามิได้  โดยขอมอบภารกิจการสร้างพรรคการเมืองให้เป็นพรรคของมวลชนอย่างแท้จริง ซึ่งต้องมอบหมายให้คนรุ่นใหม่ใจซื่อมือสะอาดวิสัยทัศน์ดีสอดคล้องกับบริบทของสังคมไทยในลักษณะพรรคอัมโน เพื่อปกปักรักษาสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ซึ่งกำลังถูกคุกคามมุ่งร้ายทำลายอย่างโจ่งแจ้งจากทุนนิยมครอบโลกตะวันตก

อาทิ ดร.สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี  นายอนุทิน ชาญวีระกูล  หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตลอดจนบุคคลมากความสามารถนอกวงการเมืองอีกมากมาย

หากคุณทักษิณและครอบครัวทำได้ตามที่ผมชี้แนะอย่างน้อยข้อ 1 และข้อ 2 คุณทักษิณก็จะกลายเป็นองคุลีมาลกลับใจยุคโลกาภิวัตน์ สมฉายา “ตาดูดาว เท้าติดดิน” เป็นบุคคลที่มีความสุขที่สุดคนหนึ่ง เพราะคนไทยเป็นคนที่ให้อภัยให้โอกาสและยกย่องคนที่รู้สำนึกกลับตัวกลับใจเสมอ