เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 1 ม.ค.67 นายเทพดรุณ สุรฤทธิ์ธำรง บิดานายโสภณ หรือเก็ท พร้อมด้วยนางสาวมริสสา อรุณกิตติชัย นางสาวธนพร วิจันทร์ เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน นายเอกชัย หงส์กังวาน กลุ่มทะลุแก๊ส และกลุ่มมวลชนอิสระ เดินทางมายื่นหนังสือต่ออธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา เรื่องโปรดตอบสนองข้อเรียกร้องของผู้ต้องขังที่อยู่ในระหว่างพิจารณาคดี รวมถึงผู้ต้องขังที่ตัดสินแล้ว

นายเทพดรุณ กล่าวว่า เนื่องด้วยมีผู้ต้องขังที่อยู่ในระหว่างตัดสินพิจารณาคดีในเรือนจำ โดยการตัดสินของศาลอาญา ซึ่งตามหลักข้อเท็จจริงสากลแล้ว ศาลต้องเห็นว่าบุคคลนั้นเป็นผู้ถูกกล่าวหา และสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ไว้ก่อน แต่ศาลได้กระทำการฝากขังให้กลายเป็นผู้ต้องขัง จึงเป็นที่กังขาว่าถูกต้องตามกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ รวมถึงคดีที่ตัดสินพิจารณาแล้วด้วย 

ปัจจุบันมีผู้ต้องขังทางการเมืองได้ออกมาเรียกร้องขณะถูกคุมขัฃในเรือนจำ จำนวน 4 คน ดังนี้ 

1.นายโสภณ หรือเก็ท ใน 2 ข้อเรียกร้อง คืนสิทธิการประตัวให้ประชาชน ยุติการใช้มาตรา 112 ต่อประชาชน

2. นางสาวเนติพร หรือบุ้ง ใน 2 ข้อเรียกร้อง ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ต้องไม่มีประชาชนถูกคุมขังเพราะเห็นต่างทางการเมืองอีก

3. นางสาวทานตะวัน หรือตะวัน และนายณัฐนนท์ หรือแฟรงค์ ใน 3 ข้อเรียกร้อง ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ต้องไม่มีใครติดคุกเพราะเห็นต่างอีก ประเทศไทยไม่ควรได้เป็นคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน

นายเทพดรุณ กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง อยู่ในขั้นวิกฤติ และอันตรายถึงชีวิต เมื่อมีผู้ต้องขังจำนวน 3 คนได้อดอาหาร และน้ำ คือ นางสาวเนติพร , นายณัฐนนท์ อยู่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ และนางสาวทานตะวัน อยู่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ซึ่งผู้ต้องทั้งสามคนได้ใช้ร่างกายซึ่งเป็นสิ่งสุดท้ายที่ผู้ต้องขังเหลืออยู่ เป็นหลักประกันถึงข้อเรียกร้องต่อผู้มีอำนาจ

หากศาลได้พินิจพิจารณาถึงข้อเรียกร้องของผู้ต้องทั้ง 4 คน จะสามารถมองเห็นได้ว่าข้อเรียกร้องทั้งหมดมิได้มีข้อแตกต่างกันมากสักเท่าใด ผู้ต้องขังในเรือนจำได้แจ้งถึงข้อเรียกร้องไว้อย่างชัดเจน เพียงเรียกร้องความเป็นธรรมจากศาลหรือผู้พิพากษา ซึ่งมีอำนาจในการสั่งฝากขัง และพิจาณาตัดสินคดี ดังนั้นขอศาลอาญาได้แสดงให้เห็นถึงความยุติธรรมที่จะได้เกิดขึ้น โปรดหันกลับมามองประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่หนึ่ง นอกเหนือจากอำนาจอื่นใด

”ศาลอาญาที่เคารพ ขอท่านได้พินิจพิจารณาตอบสนองข้อเรียกร้องของทั้ง 4 คนเพื่อเป็นความหวังเป็นทางออกแก่ผู้ต้องขังคคีทางการเมืองเหลำนี้โดยใช้กระบวนการยุติธรรมอย่างถูกต้องต่อจรรยาบรรณวิชาชีพให้เป็นที่เชื่อมั่นของ ประชาชน ขอแสดงความนับถือ“ นายเทพดรุณ กล่าวทิ้งท้าย