วันที่ 12 มีนาคม 2567 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เผยแพร่เอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยที่ 3/2567 เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2567 กรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณวินิจฉัยตามมาตรา 49 ของรัฐธรรมนูญ ว่า การกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 2) ที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งและยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามมาตรา 49  วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญ หรือไม่ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์วินิจฉัยว่า การกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองเป็นการใช้สิทธิ หรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามมาตรา 49 วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญ นั้น

วันนี้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้เสนอผลการศึกษาและวิเคราะห์คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าวต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยเห็นว่า มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคก้าวไกล กระทำการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประซาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 

คณะกรรมการการเลือกตั้งได้พิจารณาผลการศึกษาและวิเคราะห์คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญแล้ว มีมติโดยเอกฉันท์ให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคก้าวไกล โดยมอบหมายให้นายทะเบียนพรรคการเมืองเป็นผู้ยื่นคำร้องและดำเนินคดีแทนคณะกรรมการการเลือกตั้ง ตามมาตรา 93 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกัน