เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 มีนาคม 2567 ที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงผลจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1  (ยาบ้า)  ประมาณ 10,000,000 เม็ด รถบรรทุกปูน ฮีโน่ สีขาว ที่ใช้ลำเลียงยาเสพติด จำนวน 1 คัน รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ส สีขาว ทึ่ใช้สำรวจเส้นทาง จำนวน 1 คัน และ อาวุธปืนสั้น ขนาด 9 มม. บรรจุกระสุนจำนวน 14 นัด โดยจับกุมได้ที่ บริเวณริมถนนเลี่ยงเมืองลพบุรี (ขาเข้า สระบุรี) ม.6 ต.ป่าตาล อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี เมื่อเวลาประมาณ 08.45 น. วันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา
 
พฤติการณ์ในการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1 ชุดที่ 2 และเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการหน่วยบัญชาการสงคราพิเศษ ได้สืบสวนขยายผล จากการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จนนำไปสู่การจับกุมนักค้ายาเสพติด และทีมลำเลียงยาเสพติดได้จำนวนมากหลายคดี และทำให้ทราบว่า นายวสันต์หรือจ้อ อายุ 33 ปี และ นายยศพล หรือเท่ห์ อายุ 30 ปี ทำหน้าที่ในการลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อลงมาส่งมอบให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ตอนในของประเทศไทย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้รับคำสั่งให้สืบสวนจับกุม จึงได้บูรณาการกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวของ นายวสันต์หรือจ้อฯ และนายยศพลหรือเท่ห์

ต่อมา ในวันที่ 16 มีนาคม 2567 จากการสืบสวนทราบว่า นายวสันต์หรือจ้อฯ และ นายยศพล หรือเท่ห์ฯ ผู้ต้องหาใช้รถบรรทุกปูน HINO สีขาว เป็นยานพาหนะในการลำเลียงยาเสพติด และใช้รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ส สีขาว เป็นยานพาหนะในการสำรวจเส้นทางด่านตรวจยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงสะกดรอยติดตามจนถึงบริเวณริมถนนเลี่ยงเมืองลพบุรี (ขาเข้า สระบุรี) ม.6 ต.ป่าตาล อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงเข้าแสดงตนเข้าตรวจสอบ และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้

จากการซักถามขยายผล นายวสันต์หรือจ้อฯ รับว่าได้ขับรถบรรทุกยาเสพติดเดินทางจาก จังหวัดพะเยา มาส่งมอบให้กับผู้รับในพื้นที่จังหวัดสระบุรี โดยนายวสันต์หรือจ้อฯ จะได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 300,000 บาท และนายยศพลหรือเท่ห์ จะได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 10,000 บาท

โดยกล่าวหานายวสันต์หรือจ้อฯ และ นายยศพลหรือเท่ห์ฯ กระทำผิดฐาน ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และกล่าวหานายวสันต์หรือจ้อฯ เพิ่มเติมว่า มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป



การจับกุมในครั้งนี้ เป็นการยับยั้งการแพร่กระจายของยาเสพติดไปสู่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งยาเสพติดของกลาง หากถูกนำออกขายสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 300,000,000 บาท และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะขยายผล ถึงกลุ่มลูกค้า ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยจะนำมาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินการกับบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดต่อไป