กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.ภคพล  สุชล ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.นโรตม์ ยุวบูรณ์ รอง ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ รอง ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ต.โจ เสาร์ประโคน สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ร.ต.อ.อำนาจ สีนวล รอง สว.ทล.6 กก.2 บก.ทล., ร.ต.อ.พินัย บุญรัตน์  รอง สว.ทล.6 กก.2 บก.ทล., ร.ต.ท กุศล ยะฟั่น ,ด.ต.สุรศักดิ์ จิตมณี รอง สว.(ป.).ทล.6 กก.2 บก.ทล. ร่วมกับ สภ.ทองผาภูมิ, ตชด.ที่135, ตม.จว.กาญจนบุรี, ชุด ศปชก.ภ.จว.กาญจนบุรี,  กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี, กก.ปพ.บก.สส.ภ.7, ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า ค่ายสุรสีห์, ฝ่ายปกครองอำเภอทองผาภูมิ ร่วมกันจับกุม แรงงานต่างด้าว 48 คน พร้อมควบคุมตัวผู้ติดตาม (เด็ก) 4 คน ที่ชายป่าริมเขื่อนวชิราลงกรณ หมู่บ้านท่าแพ หมู่ที่ 1 ตำบลท่าขนุน  อำเภอทองผาภูมิ  จังหวัดกาญจนบุรี วันที่  21  มีนาคม  2567 


         
พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมปฏิบัติหน้าที่ออกตรวจพื้นที่ เพื่อป้องกันอาชญากรรม, ยาเสพติด และการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวหลบ หนีเข้าเมือง ต่อมาได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่าพบกลุ่มบุคคลจำนวนมากซุกซ่อนตัวอยู่ในชายป่าริมเขื่อนวชิราลงกรณ หมู่บ้านท่าแพ หมู่ที่ 1 ตำบลท่าขนุน  อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปตรวจสอบ โดยสามารถจับกุมตัวแรงงานต่างด้าว ทั้งสิ้นจำนวน 58 คน พร้อมผู้ติดตาม 4 คน จากการตรวจสอบพบว่าเป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ไม่มีเอกสารหลักฐานประจำตัว 


    
ซึ่งจากการสอบถามผู้ต้องหาที่ 1 – 58 ให้การยอมรับว่า ได้มีนายหน้าเป็นคนจัดการเรื่องการเดินทาง  ให้กับผู้ต้องหาที่ 1 – 58 และ ผู้ติดตาม 4 คน โดยทั้งหมดเดินทางหลบหนีเข้าเมืองมาจากประเทศเมียนมา ผ่านทางช่องทางธรรมชาติที่บริเวณบ้านบ่อญี่ปุ่น อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2567  ด้วยการนั่งรถจักรยานยนต์มาจากประเทศเมียนมาและมาลงที่บริเวณชายป่าข้างทาง อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จากนั้นในวันที่ 21 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 00.00 น. ได้มีรถยนต์กระบะมารับพวกตน และนำไปส่งที่ท่าเรือ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ก่อนทั้งหมดจะนั่งเรือมาขึ้นที่ชายป่า หมู่บ้านท่าแพ  หมู่ที่ 1 ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี จนกระทั่งมาถูกพบและถูกจับกุม นอกจากนี้ผู้ต้องหายังให้การยอมรับอีกว่า เมื่อเข้ามาภายในเขตประเทศไทยแล้ว จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นเงินตั้งแต่ 10,000 – 32,000 บาท แล้วแต่สถานที่ที่จะไป โดยมีบางคนจ่ายเงินแล้วและบางคนจะจ่ายเงินเมื่อเดินทางถึงที่หมาย 


    
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาที่ 1-๕๘  ทราบว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ” และในส่วนของผู้ติดตามทั้ง 4 คน จะผลักดันพร้อมผู้ต้องหาทั้ง 58 คน หลังจากดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว