วันที่ 22 มี.ค.67 ที่ บก.สอท.3 พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 กล่าวว่าสืบเนื่องจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่สร้างความเสียหายแก่ประชาชนเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในโลกยุคดิจิทัลที่มีช่องทางการติดต่อสื่อสารหลากหลาย มิจฉาชีพมักจะหารูปแบบในการหลอกลวงต่างๆ โดยโทรหลอกลวงประชาชนผ่านซิมม้า หรือหลอกให้โอนเงินผ่านบัญชีม้า แล้วจึงโอนต่อไปจนถึงผู้รับผลประโยชน์ จึง เร่งรัดสืบสวนจับกุมขบวนการเหล่านี้ให้ได้โดยเร็ว โดยเฉพาะบุคคลที่ทำหน้าที่เป็นธุระจัดหาบัญชีม้า ซิมม้า เพื่อตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ต่อมา พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวน จนได้รับแจ้งจากสายลับว่า สามารถติดต่อขอซื้อบัญชีพร้อมซิมการ์ดลงทะเบียนที่ใช้กับบัญชีธนาคารได้ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และดำเนินการล่อซื้อ โดยให้สายลับติดต่อขอซื้อบัญชีพร้อมซิมการ์ดกับผู้ขายผ่านทางเฟซบุ๊ก ตกลงจำหน่ายบัญชีพร้อมซิมการ์ดลงทะเบียน 2 ชุด ในราคา 5,000 บาท นัดซื้อขายกันที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เมื่อถึงเวลานัดหมาย พบ น.ส.สุนิษาฯ ได้เดินมาหาสายลับยื่นบัญชีพร้อมซิมการ์ดจำนวน 2 ชุด ซึ่ง น.ส.สุนิษาฯ แจ้งว่าเป็นบัญชีธนาคารออนไลน์ไม่มีสมุดบัญชี จากการตรวจสอบพบว่าใช้งานได้จริง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุมพร้อมของกลางทั้งหมด
 
จากการสอบสวน  น.ส.สุนิษา เบื้องต้นให้การว่า บัญชีธนาคารและซิมการ์ดลงทะเบียนทั้ง 2 บัญชีไม่ใช่ของตน ซึ่งเจ้าของบัญชีทั้ง 2 บัญชีเปิดบัญชีขายให้กับเว็บพนันไป และได้ให้ตนช่วยดำเนินการนำบัญชีดังกล่าวกลับมาใช้ใหม่ โดยเมื่อดำเนินการสำเร็จ จะมีเงินที่ทางผู้ซื้อบัญชีไปใช้ยังไม่ถอนออกติดบัญชีอยู่ ตนก็จะได้รับส่วนแบ่งจากเจ้าของบัญชีนั้น และเจ้าของบัญชีทั้งสองได้ให้บัญชีธนาคารกับตนไว้ ตนจึงนำบัญชีดังกล่าวมาขายให้กับสายลับ ต่อมาทราบชื่อเจ้าของบัญชีดังกล่าวคือ น.ส.จีราพรฯ และ น.ส.วิภาวดีฯ
 
จึงแจ้งข้อกล่าวหา น.ส.สุนิษาฯ ว่า “เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด และเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนาม ของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้ติดตามจับกุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้เกี่ยวข้องทั้งขบวนการมาดำเนินคดีต่อไป