วันที่ 22 เม.ย.2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย   ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมกับนายกรัฐมนตรี   ว่าในส่วนของกระทรวงมหาดไทย  ไม่มีการปรับใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐมนตรีช่วยทั้ง 3 คนก็ทำงานเต็มที่  ช่วงหลังนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยก็ไปช่วยตน ฝดูเรื่องไฟป่า PM 2.5 ที่เชียงใหม่อย่างเต็มตัว   และตอนนี้ตนได้มอบหมายกรมพัฒนาชุมชนให้นายเกรียงดูอีกหน่วยงานหนึ่ง ซึ่งนายเกรียงก็ทำงานได้อย่างเต็มที่ดี

เมื่อถามย้ำว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ไม่มีการขยับอยู่ที่เดิมใช่หรือไม่  นายอนุทิน กล่าวว่า เวลาได้รับการสอบถามอย่างไม่เป็นทางการมาว่าพรรคภูมิใจไทยจะมีปรับเปลี่ยนอะไรหรือไม่ ก็ได้ยืนยันไปว่า ไม่มี นี้คือในส่วนของพรรคตน     โดยนายกรัฐมนตรียังไม่เคยหารือว่า ขอเปลี่ยนแปลงโยกเก้าอี้ไปกระทรวงนั้นกระทรวงนี้  แต่ตนคิดว่าการเมืองคงไม่มีใครอยากทำให้กระเพื่อม  ถ้าไม่จำเป็นหรือเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา  แล้วมันดีขึ้นอย่างมีนัยนะสำคัญทันทีทันตาเห็นหรือไม่    ไม่มีใครตอบได้   เพราะฉะนั้นมันก็เป็นส่วนองค์ประกอบของรัฐบาลชุดนี้มาตั้งแต่แรก  ยังไม่มีความเสียหายอย่างเป็นรูปธรรมเกิดขึ้น

“ผมก็มีหน้าที่ประเมินการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีทั้ง 8 คนด้วยตัวเอง   ถ้าคนไหนไม่มีประสิทธิภาพ   ไม่มีความสามารถ คนประเมินคนแรกต้องเป็นตน    ไม่ใช่ให้คนอื่นมาประเมิน เพราะตนต้องรับผิดชอบในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ยืนยันว่า ยังไม่มีการปรับ ครม. และยังไม่ทราบว่าปรับหรือไม่ ยังไม่มีใครไปถามนายกรัฐมนตรี และไม่มีใครเขาถามกัน”นายอนุทิน กล่าว

เมื่อสื่อถามว่า ต้องรอปรับ ครม.ในช่วงกลางหรือปลาย พ.ค.หรือไม่    นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกคนพูดเหมือนกันหมด ถามกี่ครั้งก็พูดเหมือนกันว่า ต้องถามนายกรัฐมนตรีคนเดียว ในส่วนของรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยทำงานกันเต็มที่ทุกคน   ได้ผลักดันภารกิจและนโยบายต่างๆ ก็มีความคืบหน้ามาโดยตลอด

เมื่อถามถึงโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ทางพรรคภูมิใจไทย หรือในพรรคร่วม มีเรื่องใดที่ท้วงติงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างถ้ามันถูกต้องตามกฎหมายก็ต้องถือว่า สามารถทำได้ เพราะโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ตอนนี้ก็ต้องถือว่า เป็นนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ ในฐานะพรรคร่วมก็ต้องช่วยกันสนับสนุน เพราะว่าแต่ละพรรคมีนโยบายของตัวเอง ก็ต้องสนับสนุนของทุกพรรคร่วมรัฐบาล ก็จะทำให้การขับเคลื่อนนโยบายให้สู่ความสำเร็จ และสะดวกรวดเร็ว

นายอนุทิน กล่าวถึงการทำประชามติว่า ก็เป็นข่าวที่จะให้มีการทำประชามติ  3 ครั้ง  ซึ่งจะมีการนำเข้าที่ประชุม ครม.พรุ่งนี้ ซึ่งการทำประชามติครั้งแรกจะถามว่า  ครั้งที่ 1.เห็นด้วยที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับ 60 โดยไม่แตะหมวด 1 และ 2 หรือไม่  ครั้งที่ 2.แก้ไขเกี่ยวกับมาตรา 256 และ ครั้งที่ 3.สอบถามความเห็นประชาชนว่า เห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญที่แก้ไขแล้วหรือไม่    ถ้ามีความจำเป็นไม่ขัดต่อกฎหมายโดยไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 ที่ถือเป็นสัญญาที่พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคได้แถลงต่อประชาชนไว้อยู่แล้ว   ซึ่งเป็นไปตามแนวทางเดียวกัน