วันที่ 26 เม.ย.ที่ตำรวจภูธรภาค 1  นายชาดา ไทยเศรษฐ์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ,พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์รักษาราชการแทน ผบ.ตร.,พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1/ศอ.ปส.ภ.1, บช.ปส.  โดย พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง รอง ผบช.ปส. และ พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบช.ปส., ขกท. โดย พล.ต.อาทิตย์ ม่วงเล็ก ผบ.ขกท., ขกท.ศปก.นสศ.  โดย พ.อ.สุพจน์ สวาคฆพรรณ ผบ.ขกท.ศปก.นสศ./ผู้ทรงคุณวุฒิอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล กระทรวงมหาดไทย, ภ.จว.ปทุมธานี โดย พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.
ปทุมธานี,  ภ.จว.สระบุรีโดย พล.ต.ต.ใธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ผบก.ภ.จว.สระบุรี, พ.ต.อ.เกษดา วัชรานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.
สระบุรี และ พ.ต.อ.ไกรสร ศรีอำพร ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี/หัวหน้า ชปส.ศอ.ปส.ภ.1 ชุดที่ 2 และ สำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 1 โดย นางจีระพรรณ กาญจนประดิษฐ์ ผอ.ป.ป.ส.ภาค 1 และ ว่าที่ ร.ต.อากาศ ปานแย้ม ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกันสืบสวนจับกุมบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดพฤติการณ์ในการจับกุม  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1 ชุดที่ 2 และเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ได้สืบสวนขยายผล จากการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญอย่างต่อเนื่อง จนนำไปสู่การจับกุมนักค้ายาเสพติด และทีมลำเลียงยาเสพติดได้จำนวนมากหลายคดี และทำให้ทราบว่า นายศรายุทธหรือเอ็ม ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดสิงห์บุรีและเป็นบุคคลตามหมายจับศาลอาญา

ปัจจุบันนายศรายุทธหรือเอ็มฯ ได้หลบหนีไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังมีการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด โดยเป็นผู้สั่งการ และติดต่อซื้อ ขายยาเสพติดจากชนกลุ่มน้อย และจากการสืบสวนทราบว่านายศรายุทธหรือเอ็มฯ ได้สั่งการให้นายวีระยุทธหรือเฟิร์สฯ และนางซไรตุซ สัญชาติกัมพูชา (แฟนสาวนายวีระยุทธหรือเฟิร์สฯ) ทำหน้าที่รับยาเสพติดจากกลุ่มทีมลำเลียงภาคเหนือ มาเก็บไว้ภายในบ้านพักที่ตัวเองเช่าไว้ เพื่อรอส่งมอบให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดตอนในของประเทศไทย ตามคำสั่งของนายศรายุทธหรือเอ็มฯ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้รับคำสั่งให้สืบสวนจับกุม จึงได้บูรณาการกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวของนายวีระยุทธหรือเฟิร์สฯ และนางซไรตุซ


ต่อมา ในวันที่ 24 เมษายน 2567 จากการสืบสวนทราบว่า นายวีระยุทธหรือเฟิร์สฯ และนางซไรตุซ ได้นำยาเสพติดจำนวนมากมาเก็บซุกซ่อนไว้ภายในบ้านพักที่ตัวเองเช่าไว้สำหรับเป็นที่เก็บยาเสพติด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เฝ้าสะกดรอยติดตาม จนสามารถจับกุมตัวนางซไรตุซได้ที่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 4 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จว.ปทุมธานีแต่นายวีระยุทธหรือเฟิร์สฯ ไหวตัวทันและหลบหนีการจับกุมไปได้สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้พร้อมของกลาง ดังนี้1.) ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 5,300,000 เม็ด  2.) รถยนต์โตโยต้า ยาริส สีขาว จำนวน 1 คัน  (ใช้ลำเลียงยาเสพติด)  โดยกล่าวหานายวีระยุทธหรือเฟิร์สฯ และนางซไรตุซ  ว่ากระทำผิดฐาน ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และกล่าวหานางซไรตุซ เพิ่มเติมว่าเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดจับกุมได้ที่ ริมถนนเลียบคันคลองส่งน้ำ 2 ซ้าย ต.บึงชำอ้อ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ต่อเนื่อง บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 4 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานีเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 21.15 น.จากการซักถามขยายผล นางซไรตุซฯ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาการจับกุมในครั้งนี้ เป็นการยับยั้งการแพร่กระจายของยาเสพติดไปสู่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งยาเสพติดของกลางหากถูกนำออกขายสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 150,000,000 บาท และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะขยายผลถึงกลุ่มลูกค้า ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยจะนำมาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินการกับบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดต่อไป

พล.ต.ท.จิรสันต์  กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม,นายชาดา ไทยเศรษฐ์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์อธิบดีกรมการปกครองและ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดทั้งระบบ ด้วยการสืบสวนขยายผลและวิเคราะห์ความเชื่อมโยงเครือข่ายของนักค้ายาเสพติดอย่างรู้เท่าทัน เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาตั้งแต่ ต้นทาง – กลางทาง –ปลายทาง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  สำนักงานตำรวจแห่งชาติโดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์รักษาราชการแทน ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรีผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรีผู้ช่วย ผบ.ตร. จึงสั่งการให้มีการสืบสวนสอบสวนขยายผลจากกรณีจับกุมยาเสพติดรายสำคัญทุกราย รวมถึงวิเคราะห์ความเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มผู้ผลิต นำเข้า ผู้ลำเลียง ผู้จัดเก็บ ผู้จำหน่าย และสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดจากแนวชายแดนเข้ามาถึงพื้นที่ตอนในของประเทศ