บุรีรัมย์ ผู้ต้องหาลักทรัพย์ วิ่งหนีขณะส่งอัยการ ระดมกำลังไล่ล่ากว่า 5 ชม.จับได้ยกมือไหว้ขอโทษ ตร.ปล่อยโฮ อ้างคิดถึงเมีย
ผู้ต้องหาคดียาเสพติดและลักทรัพย์วิ่งหลบหนีออกจากอัยการนางรอง จ.บุรีรัมย์ ขณะพนักงานสอบสอบนำตัวส่งฟ้อง ตร.ปะคำ-นางรองพร้อมกู้ภัยฯ กว่า 50 นาย ระดมกำลังไล่ล่า ยายช็อกหลังกลับจากงานแต่งเจอ ผตห.ถูกใส่กุญแจมือเปิดพัดลมนอนในบ้านตะโกนเรียกสามีไล่ออกจากบ้าน สุดท้ายไม่รอดกู้ภัยและพลเมืองดี เจอมุดอยู่ในโอ่ง ยกมือไหว้ขอโทษ ตร.ปล่อยโฮอ้างคิดถึงเมียจึงหลบหนี
เมื่อเวลา 13.00 น. (2 พ.ค.67) พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ เถียรกิตติพงศ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปะคำ จ.บุรีรัมย์ ได้รับรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชาว่ามีผู้ต้องหาหลบหนีขณะนำตัวส่งฟ้องที่สำนักงานอัยการจังหวัดนางรอง อ.นางรอง จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.จักรชัย เชื้อเจริญ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สภ.ปะคำ , พ.ต.ท.สุพล มีศิลป์ รองผู้กำกับการสืบสวนสถานีตำรวจภูธรปะคำ นำกำลังตำรวจ สภ.ปะคำ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นางรอง หน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ และกู้ภัยสยามฯ ออกติดตามไล่ล่า ตัวนายอุทิศ (สงวนนามสกุล) หรือตู้ อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาคดีเสพยาเสพติดและลักทรัพย์ (เครื่องมือการเกษตร) หลายรายการ ชาวตำบลโคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ หลังจากได้หลบหนีจากสำนักงานอัยการจังหวัดนางรอง อ.นางรอง ขณะพนักงานสอบสวน สภ.ปะคำ เจ้าของคดีได้นำตัวไปส่งฟ้องที่สำนักงานอัยการ แต่ระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังทำเอกสารนายอุทิศ ผู้ต้องหาได้วิ่งหลบหนีออกจากอัยการทั้งที่มือยังทั้งข้างยังใส่กุญแจอยู่
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง สภ.ปะคำ และ สภ.นางรอง พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยฯ ทั้งขับรถและเดินเท้าออกติดไล่ล่าตามจุดต่างๆ ที่คาดว่าผู้ต้องหาจะหลบซ่อนตัว แต่ก็ไม่พบตัว กระทั่งได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีผู้ต้องหาซึ่งยังใส่กุญแจมือเข้าไปเปิดพัดลมนอนอยู่ในบ้าน จึงรีบไปตรวจสอบแต่ผู้ต้องหาได้วิ่งหลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปถึง จึงได้กระจายกำลังออกติดตามในรัศมีใกล้เคียงกับบ้านหลังดังกล่าว
กระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น. หน่วยกู้ภัยฯ และพลเมืองดีที่ไปช่วยตามหา ก็ไปเจอตัวนายอุทิศ ผู้ต้องหา มุดน้ำซ่อนตัวอยู่ในโอ่งน้ำขนาดประมาณ 1,000 ลิตร ซึ่งมีน้ำเกือบเต็มโอ่ง ซึ่งอยู่ในสวนของชาวบ้านห่างจากสำนักงานอัยการ จุดที่หลบหนีประมาณ 4 กิโลเมตร
จากนั้นได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ ต่อมา พ.ต.ท.นิรุธ สาระสิทธิ์ สารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจภูธรปะคำ หนึ่งในตำรวจที่มาร่วมภารกิจติดตามล่าตัวผู้ต้องหาที่หลบหนี ก็เข้ามารับตัว ทันทีที่นายอุทิศ ผู้ต้องหาเห็นก็เดินเข้าไปยกมือไหว้ขอโทษ เมื่อสารวัตรถามว่าทำแบบนี้ทำไม นายอุทิศ ก็ถึงกับร้องไห้โฮบอกว่าคิดถึงเมียอยากไปหาเมีย ซึ่งสารวัตรก็พยายามพูดปลอบใจ พร้อมบอกว่าทำแบบนี้ทำไมคนอื่นเขาเดือดร้อน
จากนั้นก็ได้นำตัวผู้ต้องหาไปส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่บริเวณหน้าโรงเรียนนางรองพิทยาคม อ.นางรอง เพื่อนำตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกระบวนการต่อไป
ด้านนางสาวบุญเลิศ (สงวนนามสกุล)หรือยายเผือก อายุ 61 ปี เจ้าของบ้านที่ผู้ต้องหาแอบเข้าไปซ่อนตัว เล่าด้วยอาการตื่นตกใจว่า ตนกับสามีได้ออกไปงานแต่งหลานอีกตำบลหนึ่งก่อนออกไปก็ปิดประตูเอาไว้เรียบร้อย แต่พอกลับมาก็แปลกใจเพราะมีร่องรอยการเปิดประตู พอยายเดินเข้าไปเสียบปลั๊กกาน้ำร้อน ในบ้าน ก็ตกใจแทบช็อกเมื่อเห็นผู้ชายไม่สวมเสื้อที่มือทั้งสองข้างใส่กุญแจ นั่งเปิดพัดลมอยู่ในบ้าน จึงเดินถอยหลังเพื่อจะออกไปบอกสามี ชายคนดังกล่าวก็เดินตามแต่ยังไม่ได้ทำอะไร ด้วยความกลัวจึงตะโกนเรียกสามี พอสามีเข้ามาชายคนดังกล่าวเห็นก็ยกมือไหว้ ตาจึงตะโกนไล่ชายคนดังกล่าวออกจากบ้านแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ ยายบอกว่าตอนนั้นตกใจและกลัวมากเพราะไม่รู้ว่าเขาจะทำร้ายหรือไม่
ขณะที่นายคณาธิป (สงวนนามสกุล) เจ้าของร้านยางแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง ซึ่งเป็นพลเมืองดีที่มาช่วยอาสากู้ภัย เดินตามหาตัวผู้ต้องหา บอกว่า ช่วงที่พากันเดินตามหาตามจุดต่างๆ ก็ไปพบผู้ต้องหาซ่อนตัวอยู่ในโอ่งน้ำใกล้กับกระท่อม สวนของชาวบ้าน ตอนที่เห็นตนเองก็ไม่ได้ตกใจอะไร ฝ่ายผู้ต้องหาต่างหากที่ตกใจ เขาก็บอกว่าไม่อะไรและยอมออกจากโอ่ง จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบ
หลังจากผู้ต้องหาหลบหนีออกจากสำนักงานอัยการ กระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ก็ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ทำเอาเจ้าหน้าที่ทุกคนต่างก็เหนื่อยล้าประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดด้วย