ผลงานชิ้นโบว์แดงของ รัฐบาล เศรษฐา 1 จะปักธงกันที่โครงการดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงินคนละ 1หมื่นบาทที่กำลังอยู่ในกระบวนการ หรือโอกาสจะเทไปที่ การเปิด โปรเจคใหม่ เมื่อรัฐบาลกำลังลุย วาระแห่งชาติ  การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ 

 โดยนายกฯเศรษฐา ประกาศ ปลดประชาชนจากการเป็นทาสหนี้ให้ได้มีโอกาสใช้ชีวิตตามความฝัน โดยเป็นการแถลงใหญ่ ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ตำรวจและกระทรวงการคลัง  โดยการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบนั้น ต้องมีภาครัฐ เข้ามาเป็นตัวกลาง เนื่องจากนี่คือปัญหาใหญ่ ที่เรื้อรัง กัดกร่อนสังคมไทย มานาน 

  การแก้ไขหนี้ในวันนี้คงไม่ใช่ยาปาฏิหาริย์ที่จะทำให้หนี้นอกระบบไม่เกิดขึ้นอีก แต่เรามั่นใจว่า ด้วยเศรษฐกิจที่ดีขึ้นจะทำให้พี่น้องประชาชนมีรายได้ที่ดีขึ้น จนไม่จำเป็นต้องก่อหนี้อีกในอนาคต 

 แน่นอนว่าการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ที่รัฐบาลแถลงล่าสุดครั้งนี้ คือพาร์ทหนึ่งของ งานใหญ่ ที่นายกฯเศรษฐา ประกาศแล้วว่า ในวันที่ 12 ธ.ค.นี้รัฐบาล จะแถลงใหญ่อีกครั้ง โดยเป็นการ แก้หนี้ในระบบ ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาแบบบูรณาการทั้งระบบ 

 การชูจุดขายว่าด้วยกาแก้ปัญหาปากท้อง ปัญหาเศรษฐกิจ ของประชาชน ให้หลุดพ้นจากกับดักความยากจนคือ จุดแข็ง ที่พรรคการเมือง ในมือ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้เป็น อาวุธ ที่เหนือพรรคคู่แข่งมาแล้ว ในทุกยุค ทุกสมัย  ตั้งแต่พรรคไทยรัก มาถึงพรรคพลังประชาชน จนถึงพรรคเพื่อไทย 

 การเปิดโปรเจคใหม่ของรัฐบาล เศรษฐา1 ด้วยการประกาศแก้หนี้นอกระบบ ยกระดับขึ้นสู่ วาระแห่งชาติ ในจังหวะที่โครงการดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงินคนละ 1หมื่นบาท ยังต้องร้องเพลงรอว่า คณะกรรมการกฤษฎีกา ชี้ว่าการออกพ.ร.บ.กู้เงิน 5แสนล้านบาทสามารถทำได้หรือไม่ 

 แต่ทั้งนี้อย่าลืมว่า เมื่อแต่ละนโยบายของรัฐบาล ที่เปิดตัวลงมาสู่สาธารณะ ที่ล้วนแล้วแต่เกี่ยวพัน และมีผลต่อปากท้องและความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน หากทำได้สำเร็จ คะแนนความนิยม และความเชื่อมั่น จะเกิดขึ้นต่อรัฐบาล 
 

ในทางกลับกัน หากประกาศแล้ว แต่ยังติดขัด และส่อเค้าว่าอาจจะสะดุด ทำให้ประชาชนเริ่มไม่มั่นใจ เหมือนกับที่กำลังเกิดขึ้นกับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตในเวลานี้ สถานการณ์ของรัฐบาล อาจจะมีเกมพลิกทันที !