“ด้วยความเป็นคนที่มีพื้นฐานชอบการแข่งขัน ชอบเอาชนะตัวเอง ดังนั้นเวลาเราทำอะไรอย่างหนึ่ง เราจะไม่ปล่อยให้ตัวเอง ทำแค่เพื่อทำ เราต้องทำให้สุดทาง ทำให้ดีที่สุด และพยายามจะไม่วิ่งแข่งกับคนอื่น เพราะคนเรามีต้นทุนไม่เท่ากัน ถ้าเราไปแข่งกับคนข้างๆที่เริ่มจากร้อย แต่เราเริ่มจากศูนย์ เราจะไม่มีวันสู้เขาได้ เราใช้ลู่วิ่งเดียวกันไม่ได้ค่ะ เราต้องมีวิธีการของเรา มีทัศนคตติและแนวทางของเรา เราถึงจะวิ่งไปได้ไกล”
แวบแรกที่คุณเห็นสาวหน้าหวานคนนี้ คุณอาจมีภาพจำของเธอจากบทบาทสาวสก๊อยใจเกินร้อย ในภาพยนต์ ATM เออรัก เออเร่อ หรือแม้แต่ภาพที่เธอสวมชุดนักเรียนมัธยมฯ น่ารัก ใสๆ กับบทสาวเบี้ยนใน “ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น” ล่าสุดเธอเปลี่ยนลุคเป็นสาวไฮโซสุดมั่นจาก Bangkok รัก Stories ตอน Please ของค่ายจีเอ็มเอ็ม บราโว่ ใช่แล้ว เรากำลังพูดถึง “ฝน”ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล คนเดียวกันนี่แหละ ที่จะมาแชร์ประสบการณ์วัยว้าวุ่นของเธอ กับ “ID-Talk” ที่เปี่ยมไปด้วยพลัง และความมุ่งมั่น ๐ เล่าย้อนช่วงเวลาก่อนเข้าสู่วงการบันเทิง เริ่มจากการชิมลางแคสต์งานโฆษณาเหมือนวัยรุ่นทั่วไป ก็ได้เป็นตัวประกอบเล็กๆ ซึ่งหาไม่เจอแล้ว แต่ที่แจ้งเกิดจริงๆ คือ ภาพยนต์เรื่อง ATM เออรัก เออเร่อ ส่วนตัวฝนรู้สึกว่าเราไม่ใช่เน็ตไอดอลมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ขอโอกาสพูดตรงนี้เลยค่ะ ว่าไม่ได้เป็นเน็ตไอดอล ที่มีชื่อเสียงมาจากเว็บไซต์หนึ่งอย่างที่เข้าใจกัน สมัยนั้นคนยังไม่รู้จักเน็ตไอดอล เพราะยังไม่บูมด้วยซ้ำ ตอนนั้นยังไม่มีอินสตาแกรม มีแต่ไฮไฟว์ ส่วนใหญ่จะไปเดินเจอกันตามสยามฯ แล้วมีคนมาเก็บภาพไป แต่ของฝนผ่านการแนะนำของเพื่อน ไม่รู้ว่าเพื่อนไปถ่ายภาพกับเว็บไซต์นั้นได้อย่างไร แล้วก็ชักชวนกันไปถ่ายภาพคนละครั้ง คิดว่า คนมารู้จักฝนจริงๆ จากภาพยนต์ ATM แล้วจึงมีคนมาติดตามเราภายหลังมากกว่าค่ะ ๐ พอมีคนรู้จักแล้ว มีผลต่อการใช้ชีวิตวัยรุ่นของเราหรือไม่ สำหรับฝน ชีวิตเราไม่ได้ขาดความเป็นส่วนตัวขนาดนั้น โชคดีที่แฟนคลับน่ารัก พอเจอเขาแล้วรู้สึกเหมือนได้พี่สาวได้น้องสาว ได้ผู้ใหญ่ที่น่ารักเพิ่มมาอีกคน เขาคิดว่าเราเป็นน้องสาว ชอบในตัวตนของเรา แฟนคลับน่ารักดูแลกันเหมือนพี่น้อง ไม่ได้ต้องการให้เราเทคแคร์เขาเยอะ เจอกันข้างนอก เดินห้างฯ หรือตามงานต่างๆ ก็ สวัสดีทักทายกันเหมือนเป็นผู้ใหญ่ที่เราเคารพ ถึงเขาจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเรา แต่ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าต้องสละเวลาอันมีค่าส่วนตัวไปให้เขา ก็เลยไม่รู้สึกว่าชีวิตมันเปลี่ยนแปลงมากนัก ๐ เมื่อเข้าวงการแล้ว ต้องเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วยเราใช้ชีวิตอย่างไร ฝนอาจจะไม่ได้เป็นคนที่ทำอะไรสุดโต่ง สุดทาง หรือมีสีสันเยอะๆ ขนาดนั้น พอเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงก็เลยไม่ได้บั่นทอน ไม่ได้เสียความเป็นวันรุ่น ฝนเริ่มทำงานตั้งแต่ ม.6 แต่ช่วงที่เรียนมัธยมฯอยู่ ก็เป็นเด็กกิจกรรม เป็นลีดเดอร์ และกองเชียร์อยู่แล้ว เราได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นเต็มที่ แล้วก็รู้สึกว่าเป็นโชคดีที่โตเร็ว ได้โอกาสและประสบการณ์มากกว่า ๐ การได้รับโอกาสทำกิจกรรมต่างๆในวัยเรียน มีส่วนสำคัญทำให้มีวันนี้อย่างไร ด้วยความเป็นคนที่มีพื้นฐานชอบการแข่งขัน ชอบเอาชนะตัวเอง ดังนั้นเวลาเราทำอะไรอย่างหนึ่ง เราจะไม่ปล่อยให้ตัวเอง ทำแค่เพื่อทำ เราต้องทำให้สุดทาง ทำให้ดีที่สุด และพยายามจะไม่วิ่งแข่งกับคนอื่น เพราะคนเรามีต้นทุนไม่เท่ากัน ถ้าเราไปแข่งกับคนข้างๆที่เริ่มจากร้อย แต่เราเริ่มจากศูนย์ เราจะไม่มีวันสู้เขาได้ เราใช้ลู่วิ่งเดียวกันไม่ได้ค่ะ เราต้องมีวิธีการของเรา มีทัศนคตติและแนวทางของเรา เราถึงจะวิ่งไปได้ไกล ถ้าลอกเลียนแบบเขา ตามเขา บางทีมันไม่ใช่ความเป็นเรา ก็อปปี้ไปอย่างไร มันก็ไม่ใช่เรา ๐ ถ้าต้องทำอะไรต้องทำให้ดีที่สุด ต้องทำให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะทำสองอย่างในเวลาเดียวกัน ก็ต้องทำให้ดี อย่างตอนเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย ก็ไม่ทิ้งเรียน ต้องทำให้ดี เคยอยากได้เกียรตินิยม ก็ต้องทำให้ได้ ถึงแม้จะไม่ได้อันดับ 1 อย่างที่เคยตั้งเป้าไว้ (เกียรตินิยม อันดับ 2 คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยมหิดล) แต่ก็ไม่ปล่อยแม้แต่นาทีเดียว ไม่อยากจะเสียดายโอกาส ไม่อยากจะเสียดายทุกๆอย่างที่เราเคยมีเวลาแล้ว แต่เราไม่ทำ ดังนั้นทุกๆอย่างที่ผ่านมา ไม่เคยเสียดายอะไรเลยกับการตัดสินใจ เพราะรู้สึกว่าเลือกแล้ว ตั้งใจแล้ว ตัดสินใจแล้วจะไม่หันหลังกลับไปแล้ว ๐ ปกติวัยรุ่นทั่วไปก็จะมีเวลาเป็นของตัวเอง ฝนมี 2เรื่องที่ต้องทำคือเรียนแล้วก็ทำงานด้วยเคยมีความคิดไหมว่า ทำไมเราเนื่อยจังเลย เคยท้อบ้างไหม ก็บ่อยนะคะ หลายๆครั้งก็รู้สึกว่า เราไม่จำเป็นต้องมีความรับผิดชอบขนาดนี้เลย เราอยากจะเลิกเรียนแล้วกลับบ้าน ไปดูหนัง ร้องคาราโอเกะกับเพื่อน โยนโบวล์ริ่ง แต่เราเป็นคนเดียวในกลุ่มเลยที่ไม่ได้ไป ในจังหวะนั้นมันก็รู้สึกน้อยใจ เสียดาย รู้สึกอยากไปกับเพื่อนจัง อยากจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ แต่พอมาคิดดูอีกที เพื่อนก็คือเพื่อน ต่อให้เราไมว่างไปไหน แต่ความเป็นเพื่อนมันยังอยู่ ฝนอาจโชคดีอีกที่เพื่อนเข้าใจ เพื่อนไม่ได้คิดแค่ว่าถ้าคุณไม่มีเวลาไปกับเรา แล้วเราจะไม่นับคุณเป็นเพื่อน มันเอาความเข้าใจเป็นแกนความสัมพันธ์ ก็เลยไม่มีปัญหาว่า เธอไม่ว่างมากับฉัน ฉันไม่นับเธอเป็นเพื่อนนะ ๐ อยากให้ฝนแนะนำเทคนิค ทำงานไปด้วย แล้วเรียนไปด้วยให้สำเร็จทั้งสองอย่าง ให้เป็นแรงบันดาลใจกับน้องๆวัยรุ่น ฝนยึดคติไว้เลยคือ “ไม่เก่งต้องขยัน” เรารู้ว่าเราไม่มีพรสวรค์ เราไม่ใช่คนที่ฟังอาจารย์สอนรอบเดียวแล้วเข้าใจ อ่านหนังสือรอบเดียวแล้วจำได้ คือฝนต้องอ่านหนังสือ 5-6 รอบ เพราะเราไม่เข้าใจ อ่านเท่าไหร่ก็ไม่เข้าหัวสักที ดังนั้น อย่าหยุด มันต้องพยายาม รู้ว่าตัวเองไม่เก่ง ต้องขยัน เพื่อนอ่านรอบเดียวทำไมเพื่อนจำได้ ทำไมเราจำไม่ได้ เมื่อรู้ตัวว่าจำไม่ได้ ก็ต้องสู้เพิ่มขึ้น แข่งกับตัวเอง ในทุกๆวัน และตั้งเป้าหมายไว้ เริ่มจากเป้าหมายเล็กๆ แล้วทำให้สำเร็จ มันก็จะขยับขึ้นไป เพราะบางทีเรามองเป้าหมายที่สูงที่สุดไว้ มันอาจจะอยู่ที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เรากำลังวิ่งอยู่ที่ 20 พอมันไม่ถึงร้อยสักที เราก็จะหมดกำลังใจ แต่ถ้าเราลองเปลี่ยนมาตั้งไว้ที่ 20 -30- 40- 50 ก่อน ค่อยๆไต่ขึ้นไป ก็จะได้เห็นว่าเรามีวิวัฒนาการนะว่ามันค่อยๆดีขึ้น อ่านหนังสือไม่จบสักที ก็แบ่งไปเลยว่า วันนี้ ขออ่านแค่บทเดียวให้เข้าใจก่อน วันนี้เข้าใจแล้วพรุ่งนี้ก็ทำอีก 2 บทแล้วเพิ่มเป็น3 บท ค่อยๆเพิ่มเข้าใป ถ้าเราบอกว่าวันนี้ต้องอ่านจบ1 เล่มพอไม่ถึงเป้าหมายก็หมดกำลังใจ ไม่อยากสู้ต่อ ๐ เข้ามาในวงการบันเทิงแล้ว คิดว่าเสน่ห์ของวงการบันเทิงอยู่ตรงไหน ฝนว่า วงการบันเทิงมันเป็นสนามเด็กเล่น เป็นสนามประลอง ให้เราได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ตลอดเวลา เหมือนเป็นเด็กหัดเดินในนี้ เราจะรู้สึกเหมือนเริ่มตันใหม่ เดินใหม่ในทุกวัน ในทุกๆครั้งที่เราออกมาทำงาน เราจะตื่นเต้นว่า วันนี้เราจะเจออะไร เราจะได้ทำอะไร หรือว่าออกกอง มันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทั้งทีมงาน ทั้งตัวบท ทั้งเพื่อนร่วมงาน เราเหมือนได้เริ่มต้นอะไรใหม่ๆ บ่อยๆ มันทำให้เรารู้สึกและตื่นเต้น ๐ พอมาเริ่มทำงานเราเป็นมือใหม่ เวลาเจออุปสรรค เรารับมือกับมันอย่างไร ถ้ามีปัญหาอะไร อย่างแรกเลยจะถามพี่ๆทางนาดาว จะส่งข้อความไป หรือยกหูไปหาว่าเราเจอปัญหาอย่างนี้ เราคิดอย่างนี้ เราควรจะทำอย่าง พี่ๆ จะให้คำแนะนำ และปรึกษาแนะแนวทางแก้ปัญหา เพราะพี่ๆ เขาดูแลดี เนื่องจากดูแลนักแสดงมาก่อน และเขาดูแลเราเหมือนเป็นน้อง ๐ ปัญหาแรกที่เจอคืออะไร เวลาคนเห็นฝนทำงาน ก็จะเข้าใจว่า เรายังอายุน้อยกว่าที่เขาเข้าใจ ดังนั้นก็จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าโตเกินตัว ทำไมแก่แดดจัง ทำไมไม่เหมือนในหนัง ทำไมไม่เหมือนภาพที่เขาคิดไว้ เขาเห็นเราผ่านจอ ไม่เคยเจอตัวจริงเราแต่วิจารณ์ออกมา ตอนนั้นเราก็ไม่เข้าใจ ไม่เคยมีคนเป็นร้อยเป็นพันคน มานั่งคอมเมนต์เรา เพราะเพื่อนเราถึงจะวิจารณ์เราก็รู้กัน เราสนิทใจต่อกัน คิดว่าทำไมเราต้องโดนใครก็ไม่รู้ ไม่รู้จัก มาวิจารณ์เราแบบนี้ มันทำร้ายจิตใจเรา ตอนนั้นก็ได้พี่ๆในวงการ พี่เต๋อ ฉันทวิชช์ พี่ซันนี สุวรรณเมธนนท์ พี่พีค ภัทรศยา ให้คำปรึกษา เพราะนาดาวจะมีเอาท์ติ้ง ตอนนั้นยังมีกันอยู่ไม่กี่คน เป็นกลุ่มเล็กๆ พี่ๆก็ให้คำปรึกษาว่า เรื่องไหนควรเก็บมาคิด เรื่องไหนไม่ควรเก็บมาคิด ๐ ทุกวันนี้รับมือกับเรื่องพวกนี้ได้แล้ว ถ้าเรื่องไหนยังรับไม่ได้ ก็ใช้มุกเดิมอยู่ค่ะ คือโทรไปปรึกษาพี่ๆ ๐ ทุกวันนี้ฝนพอใจมากน้อยแค่ไหนกับการทำงานในวงการ และมีอะไรที่อยากจะทำอีก ตอนนี้ที่ทำ มันเป็นเพียงจุดเล็กๆ ก็อยากขยายมันออกไป อยากทำงานให้หลากหลายขึ้น อยากได้รับโอกาสใหม่ๆ อะไรที่ท้าทายขึ้น รู้สึกว่ามันยังมีอะไรรออยู่อีกเยอะมาก ตอนนี้คิดว่าเดินขึ้นบันไดได้อีกขั้น ยังมีอีกไม่รู้กี่หมื่นขั้นให้ก้าวต่อไป ๐ ฝากข้อคิดสำหรับน้องๆ วัยรุ่น ตัวฝนก็ยังมีความเป็นวัยรุ่นสูง เพราะฝนก็ยังวัยรุ่นอยู่ (หัวเราะ) สิ่งที่เป็นมาตลอด และแก้ไม่หายคือความใจร้อน รู้สึกว่าวัยรุ่นคือเป็นที่วัยฮอร์โมนมันพลุ่งพล่าน มีความประมาทในการใช้ชีวิตสูง รู้สึกว่ามันสนุกกับการทำอะไรที่แปลกๆใหม่ๆ คิดว่าทำได้ ดังนั้น ต้องไม่ประมาทเวลาจะทำอะไร คิดสัก 3-4 รอบถ้าคำตอบมันยังเหมือนเดิมทุกครั้งก็ทำเถอะ แต่ขอให้ใจเย็นๆ ตั้งสติ แล้วค่อยตัดสินใจ ๐ อัดเดตผลงานในปัจจุบัน ปีนี้ที่จะได้ดูกันคือ ซีรีส์ Bangkok รัก Stories ตอน PLEASE รับบทเป็น “เอด้า” บทนี้ท้าทาย สนุกมาก เป็นการทะลุกำแพงตนเองไปนิดหนึ่ง ได้ลองทำอะไรใหม่ๆที่ยังไม่เคยทำ ส่วนปลายปีนี้จะ มีคลับไฟลายเดย์ เซเลบสตอรี่ เรื่อง “แย่งชิง” รู้สึกอิ่มใจมาก ที่ได้ทำงานกับพี่ๆที่เขามีความสามารถมากๆ อย่าง พี่นุ่น วรนุช พี่อั้ม อธิชาติ เราเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากพี่ๆเขาอยู่ ตื่นเต้นในการทำงานทั้งสองเรื่องในปีนี้ค่ะ เรื่อง: จินตนา จันทร์ไพบูลย์ ภาพ: ขอบคุณ จีเอ็มเอ็ม บราโว่ ข่าวที่เกี่ยวข้อง ๐ ID-TALK | เปลี่ยนร่าง ไม่เปลี่ยนใจ "สวย เดอะวอยซ์" อิสระทางดนตรี กับวิถีจิตอาสา ID-TALK | รู้จัก "พลอย" สิริอาภรณ์ นักกายภาพฯ สาวหน้าใส มีในหลวง ร.9 เป็นแรงบันดาลใจ ID-TALK | เต้นเปลี่ยนชีวิต "ฮั่น เดอะสตาร์" มีวันนี้เพราะเคารพตัวเอง