จากกรณีช่วงเวลา 01.00 น.ของวันที่ 14 มี.ค.เกิดเหตุ ยิงกันหน้าร้านอาหารกึ่งผับภายในห้างดังย่านปิ่นเกล้า กทม. จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย และ1 ในนั้นเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันที่ 15 มี.ค.2567 เวลา11.30 น. ที่สน.พระราชวัง พล.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้าคดีว่าจากการสืบสวนพบว่า ในวันเกิดเหตุ กลุ่มผู้ก่อเหตุมาได้มาที่ร้านดังกล่าวกับกลุ่มผู้หญิง แต่นั่งแยกกันคนละโต๊ะ ส่วนกลุ่มผู้ตายมากับเพื่อนรวมกัน3คน นั่งดื่มกันภายในร้านดังกล่าวเช่นกัน ระหว่างที่นั่งดื่ม ผู้ตายมีการยกแก้วทำทีจะขอชนแก้วกับผู้หญิงที่มากับกลุ่มผู้ก่อเหตุ จคงมีการเขม่นกัน มีปากเสียงทะเลาะกัน จนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องมาห้ามและแยก จนกระทั่งตอนจะกลับบ้าน ทั้ง 2 กลุ่มก็ยังมาทะเลาะกันด้านนอกของร้าน ทำให้ผู่ก่อเหตุไปหยิบอาวุธปืนที่อยู่ในรถยนต์ และก่อเหตุยิงจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ไปขึ้นรถเบนซ์หลบหนีไปพร้อมกับเพื่อนอีก 2 โดยผู้ก่อเหตุได้กลับบ้านไป และให้เพื่อนขับรถเบนซ์ วนไปวนมา ก่อนจะไปจอดไว้ที่บ้านพ่อตาของกลุ่มเพื่อนที่จังหวัดสมุทรสงคราม
ล่าสุดตำรวจได้ออกหมายจับศาลอาญาตลิ่งชันที่ จ.154/2567 ลงวันที่ 14 มี.ค.67 มือยิง คือนายอธิภัทร อายุ 23 ปี ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , พยายามฆ่าผู้อื่น,ครอบครองปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต , พกพาปืนติดตัว โดยไม่ได้รับอนุญาต และจากการตรวจสอบประวัติ พบว่ามีคดีเกี่ยวกับยาเสพติด ในปี67 ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีการออกหมายจับไว้หรือยัง หรือมีการแจ้งข้อกล่าวหาแล้วหรือไม่ และพบประวัติเกี่ยวกับพรบ.อาวุธปืน ที่สน.บางขุนเทียนเมื่อปี 2566
ขณะที่ตำรวจได้คุมตัวเพื่อนที่พาผู้ต้องหาหลบหนี เพื่อสอบปากคำ รวมถึงได้สอบปากคำพยานแวดล้อมและหญิงสาวที่ร่วมวงชนแก้วกับผู้ต้องหาในคืนที่เกิดเหตุแล้ว รวมถึงจะตรวจสอบรถยนต์ที่ใช้ในการหลบหนีอีกด้วยเนื่องจากมีการดัดแปลงสภาพรถ
นอกจากนี้ ทาง ผบช.น.ได้กำชับไปยังผู้กำกับสน.บางยี่ขัน ให้ตรวจสอบร้านสถานบันเทิงพบว่าไม่มีใบอนุญาตและมีการจำหน่ายสุราเกินเวลาที่กำหนดจึงได้สั่งให้ดำเนินคดีกับร้านดังกล่าวแล้ว พร้อมกันนี้ยังได้ฝากเตือนไปยัง บุคคลที่เกี่ยวข้องหรือให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาในการหลบหนีพักพิงว่าจะถูกดำเนินคดีจนถึงที่สุดและหากพบตัวก็ขอให้แจ้งตำรวจ และจากการข่าวรายงานว่าขณะนี้ผู้ต้องหาได้หลบหนีออกจากพื้นที่กรุงเทพมหานครแล้วไปยังพื้นที่ย่านปริมณฑล ซึ่งตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการติดตามตัว
