เมื่อช่วงเย็นวันที่ 15 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาที่วัดหนองแขม ซอยอาบทิพย์ แขวง และเขตหนองแขม กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสถานที่จัดตั้งสวดอภิธรรมศพ นายธนู หรือตี๋ อายุ 29 ปี โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าของเหล่าบรรดาครอบครัว และเพื่อนผู้เสียชีวิต 

ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยนายจรูญ อายุ 53 ปี พ่อผู้เสียชีวิต เผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว ส่วนตัวตนมั่นใจการทำงานของทางเจ้าที่ตำรวจเป็นอย่างมาก เชื่อว่าตำรวจไทยจะสามารถนำตัวผู้ก่อเหตุมารับโทษได้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนยังไม่สามารถทำใจยอมรับได้ ขนาดศพลูกชายตนยังไม่กล้าที่จะไปมองเลย ซึ่งผู้ตายถือเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน พอเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ตนทำใจไม่ได้จริงๆ 

สำหรับผู้ก่อเหตุนั้น ตนก็อยากให้เขาเข้ามามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่าคิดที่จะหนี ในส่วนประเด็นที่ทางเจ้าที่ตำรวจมีการออกหมายจับเพียงแค่คนเดียวนั้น ตนไม่ได้ติดใจอะไรเพียงขอแค่จับกุมมือยิงลูกชายเท่านั้นเป็นพอ ยิ่งจับตายได้ยิ่งดี สำหรับคนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้น ตนมองว่าเขาก็อาจจะแค่มาเที่ยว ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร 

โดยก่อนเกิดเหตุ ตนยืนยันว่า ลูกชายได้มีการแชทข้อความมาหาพี่สาว บอกว่า “ผมรู้สึกไม่ปลอดภัย” ด้วยความตกใจ ทางลูกเขยเป็นคนอาสาไปหาลูกชายตนที่เกิดเหตุ แต่ก็เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งตนมองว่า การกระทำของผู้ก่อเหตุนั้นค่อนข้างที่จะโหดร้ายเป็นอย่างมาก  

นายจรูญ เผยต่อว่า ก่อนหน้านี้ตนรู้สึกมีลางสังหรณ์บางอย่างอยู่ตลอดเวลา มีครั้งหนึ่งที่ลูกชายก็มีการแชทข้อความมาบอกประมาณว่า “รักป๋านะ” แต่ ณ ตอนนั้น ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร ในส่วนเรื่องของการอโหสิกรรมนั้น ตนยืนยันว่า ไม่อโหสิกรรมให้ และไม่ต้องมาขอโทษตน ทั้งตัวของผู้ก่อเหตุ และครอบครัวของผู้ก่อเหตุเอง เพราะตนทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ ทั้งนี้ ตนไม่ขอพูดอะไรกับผู้ก่อเหตุทั้งนั้น ตายตามลูกชายตนไปได้ยิ่งดี อย่างไรก็ตาม ตนก็จะเชื่อมั่นในการทำงานของทางเจ้าที่ตำรวจว่าจะสามารถนำตัวคนก่อเหตุมารับโทษได้อย่างแน่นอน 

สำหรับลูกชายนั้น ตนยืนยันว่า ลูกชายเป็นคนดีรักเพื่อน ซึ่งในวันเกิดเหตุเองลูกชายก็เป็นคนเข้าไปช่วยเพื่อน ทั้งทีเรื่องราวดังกล่าวไม่เกี่ยวกับลูกชายเลย โดยจากการสอบถามลูกเขยที่อยู่ในเหตุการณ์ให้ข้อมูลว่า เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะเพื่อนที่ชื่อ “น้ำมนต์” ได้ไปชดแก้ว และจีบหญิงสาวหนึ่งในร้านเหล้า จึงทำให้คนก่อเหตุไม่พอใจและพยามจะเข้าไปเอาเรื่องคนที่ชื่อ “น้ำมนต์” ซึ่งตอนนั้น “น้ำมนต์” เขาได้มีการยกมือไหว้ขอโทษผู้ก่อเหตุแล้ว แต่ทางผู้ก่อเหตุก็ไม่ยอม จึงเป็นเหตุทำให้เกิดเรื่องราวดังกล่าวขึ้น ซึ่งตนมองว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เป็นเพราะลูกชายไปเคลียร์เรื่องให้กับนายน้ำมนต์เท่านั้น ไม่ได้มีการเข้าไปจีบหญิงสาวคนดังกล่าวตามข่าวที่มีการนำเสนอไปก่อนหน้านี้แต่อย่างใด เนื่องจากลูกชายเองก็มีครอบครัวแล้ว อีกทั้ง ยังมีลูกชายวัย 1 ขวบ 4 เดือนที่ต้องดูแล 

โดยหลังเกิดเหตุนั้น ตนยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับ “น้ำมนต์” แต่อย่างใด ประกอบกับเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ “น้ำมนต์” ไม่กล้าที่จะเข้ามาพูดคุยกับทางครอบครัวของลูกชายตน ว่าเนื่องจากกลุ่มเพื่อนของลูกชายมีความโกรธแค้น “น้ำมนต์” เป็นอย่างมาก ที่ทำให้เพื่อนของเขาต้องมาเสียชีวิตแบบนี้ หาก “น้ำมนต์” จะมางานศพ ตนก็ยินดีให้มา แต่ไม่รับประกันว่ากลุ่มเพื่อนของลูกชายตนจะมีการรุมทำร้ายหรือไม่ ก่อนหน้านี้ ตนยอมรับหลังเกิดเหตุทางภรรยาตนได้มีโอกาสพบ “น้ำมนต์” และด้วยความโกรธก็ได้มีการกระโดดถีบ จึงทำให้ “น้ำมนต์” ไม่กล้าที่จะมาเจอครอบครัวของลูกชายตนอีกเลย