แสงไทย เค้าภูไทย ขณะที่เวนิสเผชิญน้ำท่วมหนักที่สุดในรอบ 50 ปี เหตุคอร์รัปชั่นงบสร้างเขื่อนเลื่อนเวลาเสร็จงานจนไม่สู้น้ำ กรุงเทพฯฉายาเวนิสตะวันออก แนวโน้มจะดำเนินรอยตาม ยุคทักษิณดำริสร้างเขื่อนปิดอ่าว แต่กลัวโกงกิน เลยไม่ได้สร้างจนบัดนี้ ความเสียหายจากภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทำให้น้ำท่วมเวนิสหนักที่สุดในรอบ 50 ปี ถูกหยิบยกเป็นวาระแห่งชาติของอิตาลีที่จะต้องแก้ไขด่วน เวนิสจมน้ำป็นเรื่องที่รู้กันมาตั้งแต่ปี 1984 หรือ 35 ปีมาแล้ว เนื่องจากพบว่ามีการทรุดตัวของพื้นที่ โดยมีอัตราทรุดตัวเพิ่มขึนทุกปี ไม่ต่างไปจากกรุงเทพฯที่อัตราทรุดตัว ปีละ 1-2 เซนติเมตร สวนทางกับระดับน้ำทะเลสูงขึ้นปีละ 4 เซนติเมตร ถนนส่วนใหญ่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเฉลี่ย 2 เมตร สภาเมืองเวนิส ลงมติให้สร้างระบบป้องกัน ที่เรียกว่า floodgate system คือระบบประตูป้องกันและระบายน้ำโดยตั้งงบประมาณไว้ 1.8 พันล้านดอลลาร์ ระยะเวลาโครงการ 20 ปีเรียกชื่อโครงการรนี้่่ว่า โครงการ “Moses” โดยอิงตำนานจากคัมภีร์ไบเบิล ช่วงโมเสสนำบรรดาสาวกบัญญัติสิบประการหนีทัพอียิปต์มาถึงริมทำเลแดงทำท่าจะจนมุม แต่ทะเลกลับแหวกเป็นทาง จนโมเสสพาสาวกข้ามไปถึงฝั่งตรงกันข้ามได้หมด ทหารอียิปต์ใช้เส้นทางทะเลแหวกตามมาบ้าง แต่ไปได้ไม่ถึงฝั่ง ทะเลก็หุบกลับที่เดิม จมทหารอียิปต์ไปทั้งกองทัพ แต่ทะเลแหวกของเวนิส เกิดไม่ได้ เพราะเกิดการคอร์รัปชั่นจนสร้างหนีน้ำไม่ทัน ซิลวิโอ เบอรุสโคนี นายกรัฐมนตรีอิตาลียุคนั้น ทำพิธีเปิดโครงการเมื่อปี 2003 ที่ใช้เทคโนโลยี Experimental Electromechanical Module โดยกำหนดระยะเวลาจบโครงการในปี 2011 แต่ทำได้ไม่ตรงตามเป้าหหมาย ต้องเลื่อนกำหนดปิดโครงการมา 3 ครั้ง คือครั้งแรก 2014 ต่อมา 2016 ล่าสุด เลื่อนไปจบโครงการเอาปี 2021 ตอนนี้สร้างประตูน้ำไปได้แค่ 85%ของโครงการ อีก 3 ปีจะปิดโครงการได้หรือไม่ยังไม้รู้ ตามโครงการ ประตูน้ำสูง 6 ฟุต จำนวน 78 แห่งที่จะต้องสร้างนั้น จะสามารถป้องกันน้ำที่ท่วมขนาดวันนี้ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ และยังป้องกันสตอร์มเซิร์จจากทะเลอาเดรียติกได้ด้วย เมื่อยืดเวลาจบโครงการ ก็ยืดงบประมาณก่อสร้างด้วย จาก 1.8 พันล้าน กลายเป็น 7 พันล้านดอลลาร์ในระยะเวลาดำเนินโครงการ 16 ปีที่ผ่านมา คนงานพบว่า ขณะนี้ส่วนก่อสร้างใต้น้ำ อันมีบานประตู สายยู บานพับ ที่เป็นโลหะ น้ำหนักราว 36 ตัน เกิดสนิมหมดสภาพ โดยงานส่วนนี้ บริษัท Gruppo Mantovani ได้ไปมูลค่า 275 ล้านดอลลาร์โดยไม่มีการประมูล ถ้าจะเปลี่ยนใหม่ ต้องใช้งบประมาณอีก 34 ล้านดอลลาร์ บรรดาศิลปิน นักเขียน นักคิด นักเขียน คนรักเวนิส พากันลงขันสมทบทุนตลอดมา ได้เงินมากมาย แต่เงินไหลไปเข้ากระเป๋าข้าราชการและผู้มีอำนาจของเวนิสเสียครึ่งค่อน เมื่อปี 2014 นายกเทศมนตรีเวนิส Giorgio Orsoni พร้อมผู้เกี่ยวข้องโครงการ 35 คนถูกจับดำเนินคดี ในข้อหายักยอก ฟอกเงิน เรียกรับสินบน มีเงินทอน(kickbacks) มูลค่า 27 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้จากการติดตามเส้นทางการเงินจากการโอนผ่านระบบธนาคาร ยังพบว่า มีเงินไหลไปเข้ากระเป๋าไม่ต่ำกว่า 100 บัญชี นอกจากนายกเทศมนตรีแล้ว ยังมีข้าราชการการเมืองและข้าราชการท้องถิ่นอีกมากมายกินสินบน “เงินทอน” กันเป็นแถวๆ คิดดู จาก 1.8 พันลาน งอกเป็น 7 พันล้าน ส่วนที่งอกนั้น ไปงอกในกระเป๋าใคร เสียดายที่โครงการแบบนี้ คือโครงการเขื่อนกั้นทะเลข้ามก้นอ่าวจากบางปะกงไปแหลมผักเบี้ยมูลค่า 160,000 ล้านบาท ไม่เกิดขึ้น เหตุจากกลัวทักษิณ ชินวัตร จะรวยยิ่งขึ้น ถ้าเกิดขึ้นก็คงจะมีกินกันบ้าง เป็นประเพณี แต่คงไม่มากมายเหมือนแก๊งสวาปามเวนิส เพราะ ยักษ์ใหญ่ก่อสร้างของไทยที่จะได้โครงการไปนั้น มักจะเป็นหน้าเดิมๆ อิตาเลียนไทย ช.การช่าง ซิโนไทย ฯลฯ ถามว่า มีจ่ายใต้โต๊ะ มีเงินทอนไหม ? ก็ต้องดูว่า ตอนระดมทุน โต๊ะจีนนั้น มีใครลงขันบ้าง ? เอาเถอะ ขอให้โครงการได้เกิด ได้แก้ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ สมุทรปราการ สมุทรสาครและสมุทรสงคราม ยอมเสีย เก๋าเจี๊ยะไปบ้างก็คุ้มแล้ว เพราะมูลค่าทรัพย์สิน วิสาหกิจ บนแผ่นดินที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลยามนี้ สูงกว่าค่าก่อสร้างและเงินทอนหลายร้อยเท่าตัว ถ้ามัวแต่ระแวงกัน กั๊กกันอย่างนี้ เวนิสตะวันออกก็จะเป็นเหมือนเวนิสตะวันตกอย่างที่เป็นอยู่นี้ ไม่โกง ไม่กิน ไม่เกิด