ชัยวัฒน์ สุรวิชัย พราะฉันมองโลกในแง่ดี มากกว่าที่เป็นจริง ฉันจึงต้องทำตามขั้นตอนเพื่อปรับปรุงความคิดของฉันในด้านนี้ นี่คือ 5 สิ่ง ที่ฉันจะทำ เพื่อปรับปรุงความคิดสมจริงของฉัน 1. พัฒนาความชื่นชมสำหรับความจริง ฉันไม่สามารถพัฒนาความคิดสมจริง จนกว่า ฉันได้เกิดความชื่นชมในความคิดสมจริง และ นั่นหมายถึงการเรียนรู้ที่จะดูและสนุกกับความจริง ประธานาธิบดี แฮรี่ เอส ทรูแมน พูดว่า “ ฉันไม่เคยให้นรกแก่เขา ฉันแค่บอกความจริง และเขาคิดเองว่า มันคือ นรก “นั่นคือ หนทาง ที่คนจำนวนมากตอบสนองต่อความจริง คนมักจะพูดเกินจริงในเรื่องความสำเร็จและพูดถึงความล้มเหลวหรือข้อบกพร่องของตนน้อยไป เขาจะอาศัยตามกฎหมาย Ruckert : ที่เชื่อว่าไม่มีอะไรที่เล็กมากจนไม่สามารถเป่าออกมาได้ หลาย ๆ คนในปัจจุบันสามารถอธิบายโดยอ้างจาก เซอร์วินสตัน เชอร์เชิล “ บางครั้งคนจะสะดุดล้มลง แต่ส่วนใหญ่เลือกที่จะลุกขึ้น และรีบออกไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ เมื่อเร็วๆนี้ เทด คอปเพล นักหนังสือพิมพ์โทรทัศน์ ได้ให้ข้อสังเกตุว่า “ สังคมของเราพบความจริง ว่า ยาแรงที่ไม่เจือปน ที่จะย่อยยาก, นี่กล่าวในรูปแบบที่บริสุทธิ์ที่สุด ,ความจริง : ไม่ใช่การแตะบนไหล่อย่างสุภาพ มันเป็นความอัปยศอดสู “ กล่าวอีกนัยหนึ่ง ความจริงจะทำให้ท่านเป็นอิสระ แต่ตอนแรกจะทำให้ท่านรู้สึกโกรธ อย่างไรก็ตาม หากท่านต้องการเป็นนักคิดที่สมจริง ท่านต้องทำความคุ้นเคยกับความจริงและเผชิญหน้ากับมัน 2. ทำการบ้านของท่าน วิธีการของนักคิดสมจริง จะเริ่มต้นด้วยการทำการบ้าน แรกสุด ท่านต้องหาความจริง เชสเตอร์ โบเรส ผู้ว่าการรัฐคนก่อน สมาชิกสภาคองเกส และเอกอัครราชทูต ได้กล่าวว่า “เมื่อท่านพบปัญหา ตัดตัวเองจากความคิดเห็นอุปาทานและอคติ รวบรวมและเรียนรู้ความจริงของสถานการณ์ แล้ว ตัดสินใจ ซึ่งดูเหมือนว่าท่านจะซื่อสัตย์ที่สุด แล้วเก็บมันไว้ “ มันไม่สำคัญว่า ท่านคิดอย่างไรถ้าฐานข้อมูลหรือสมมติฐานผิดพลาด , ท่านไม่สามารถคิดได้ดี ในกรณีที่ไม่มีข้อเท็จจริง ( หรือการมีข้อมูลที่แย่ ) ท่านสามารถค้นหา คนอื่นได้ทำอย่างไร ในสถานการณ์ที่คล้ายกันนี้ , โปรดจำไว้ว่า ความคิดของท่านไม่ได้สำคัญว่าจะเป็นความคิดดังเดิม มันต้องการทำให้ตกผลึก ทำไม ไม่เรียนรู้ทั้งหมดที่สามารถได้มาจากนักคิดที่ดี ผู้ซึ่งได้เผชิญกับปัญหาที่คล้ายกันในอดีต , บางส่วนของความคิดที่ดีที่สุดของฉัน ได้ถูกทำโดยคนอื่น 3. คิดถึงข้อดีข้อเสีย ไม่มีอะไรที่เหมือนกับการใช้เวลาในการตรวจสอบข้อดีและข้อเสียของข้อตกลงและปัญหา เพื่อให้ท่านได้รับความจริงอย่างแท้จริง มันยากที่ได้มา หากแค่เลือกเพียงเส้นทางของการกระทำที่มีจำนวนมากที่สุดของข้อดี เพราะข้อดีและข้อเสียทั้งหมดไม่ได้ถือน้ำหนักเท่ากัน แต่นั่นไม่ใช่เรื่องของคุณค่าของการออกบริหาร ไม่ว่าจะทางใดก็ตาม แต่ช่วยให้ท่านสามารถเจาะลึกข้อเท็จจริงได้ ตรวจสอบ ประเด็นจากแง่มุมต่างๆ และนับค่าที่แท้จริงของบทเรียนแห่งการทำที่เป็นไปได้ 4. ภาพความเป็นไปได้สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด สาระสำคัญของการคิดที่สมจริงคือการค้นพบ , การวาดภาพและการตรวจสอบภาพความเป็นไปได้ ของสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด , ถามตัวท่านเอง ดังคำถามต่อไปนี้ เกิดอะไรขึ้นถ้ายอดขายขาดการประมาณการ จะเกิดอะไรขึ้นหากยอดรายได้แตะที่ด้านล่างต่ำสุด ไม่ใช่ด้านล่างที่มองโลกในแง่ดี แต่เป็นก้นสุดที่แท้จริง จะทำอย่างไรถ้าเราทำไม่ได้ถึงยอดบัญชี จะทำอย่างไร ถ้าลูกค้า ไม่ได้จ่าย จะทำอย่างไร ถ้าหากงาขาดมือ จะทำอย่างไร ถ้าหากคนมีฝีมือที่สุดของเราป่วย จะเกิดอะไรขึ้นถ้าวิทยาลัยปฏิเสธใบสมัครของฉัน จะเกิดอะไรขึ้นถ้าตลาดทะลุไป เกิดอะไรขึ้นถ้าอาสาสมัครออกไป จะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่มีผู้ใดออกมาแสดง ท่านจะได้ความคิด จุดอยู่ที่ ท่านต้องคิดเกี่ยวกับกรณีความเลวร้ายที่สุดที่เป็นไปได้ ไม่ว่า ท่านจะจัดการกับธุรกิจ , นำในแผนก , การจัดการในโบสถ์ , การเป็นโคชให้กับทีม หรือ การวางแผนการเงินส่วนบุคคล เป้าหมายของท่านจะไม่เป็นเชิงลบหรือคาดหวังที่เลวร้ายที่สุด , เพียงแต่เตรียมความพร้อมสำหรับมัน กรณีที่จะเกิดขึ้น . ทางนั้น ท่านให้โอกาสที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง สำหรับผลเชิงบวก ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าท่านวาดภาพในกรณีที่เลวร้ายที่สุด และสำรวจมันอย่างซื่อสัตย์ แล้วท่านมีประสบการณ์ในการตรวจเช็คจริงท่านจะพร้อมสำหรับทุกสิ่ง เมื่อท่านทำเช่นนั้น โปรดใช้คำแนะนำของ ชาร์ลี โฮ “ จงตั้งใจด้วยความระมัดระวัง แต่จงกระทำด้วยการตัดสินใจและให้ผลผลิตด้วยความสุภาพหรือคัดค้านด้วยความแน่วแน่ “ 5. จัดแนวความคิดด้วยทรัพยากรของท่าน ทางหนึ่งของกุญแจ ที่ทำให้ความคิดสมจริงได้มากที่สุด คือ การจัดทรัพยากรของท่านด้วยกำหนดวัตถุประสงค์ มองไปทั้งด้านบวกแลด้านลบ และสำรวจสถานการณ์โอกาสที่เลวร้ายที่สุด จะทำให้ท่านระมัดระวังช่องว่างใดๆระหว่างความปรารถนาและความเป็นจริง เมื่อท่านรู้ว่า อะไรคือช่องว่างนี้ ท่านสามารถใช้ทรัพยากรของท่านเติมเต็ม หลังจากนั้น ท่านก็จะรู้ว่า ทรัพยากรอะไรบ้างที่ต้องใช้ ซุปเปอร์โบล, ซุปเปอร์โดม , และความปลอดภัยที่สุด กรณีการนำเอาบทเรียนที่เกิดขึ้นมาแก้ไขเรื่องต่อมาประเทศของเรา ได้รับบทเรียนในความคิดสมจริงที่ตามมา จาก โศกนาฏกรรม 11 กันยา 2001 ( 2544 ) การล่มสลายของตึกเวริดเทรด ในมหานครนิวยอร์ค เป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด เกินกว่าที่คนใดคนหนึ่งอาจจะจินตนาการได้ ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ เราพบว่าเราไม่มีการหลีกเลี่ยงที่มากนัก หรือ การละเลยความคิดที่สมจริง ฉันได้รำลึกถึงวันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2002 ( 2545 ) เมื่อฉันได้เข้าร่วมดู ซุปเปอร์โบล ในนิวออลลีน หลุยส์ซีน่า ฉันเคยเข้าร่วมเล่นการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่สองครั้งก่อนหน้านี้ เพื่อเป็นรากฐานสำหรับทีมบ้าน ที่แรก ซานดิอาโก และหลัง แอดแลนต้า และ ได้เห็นทีมทั้งสองแพ้ แต่ ฉันไม่เคยเล่นเกมแบบนี้ เมื่อมีโอกาสนี้ ได้รับมอบหมายให้ดูแล เหตุการณ์พิเศษด้านความมั่นคงแห่งชาติ นั่นหมายความว่าหน่วยสืบราชการลับของสหรัฐฯจะต้องดูแล พนักงานทางทหารจะต้องปฏิบัติตาม กฎหมายท้องถิ่นและการรักษาความปลอดภัยจะมีระดับสูงสุด หน่วยสืบราชการลับฯ ได้นำตัวแทนหลายร้อย และยึดพื้นที่ ในการเตรียมสำหรับเกมส์นี้ การเข้าถึง ซูเปอร์โดม มีความจำกัดอย่างสูง ด้วยการคัดกรองที่เข้มข้น เจ้าหน้าที่ปิดถนน ปิดสถานที่ใกล้เคียง และออกแบบพื้นที่เขตปลอดบิน เรามาถึงโดมแต่เช้า เจ้าหน้าที่แนะนำให้แฟน ๆ มาถึง 5 ชั่วโมงก่อนเวลาเล่นเกม และเราได้เห็นหลักฐานของมาตรการป้องกันโดยทันที รั้วสูง 8 ฟุต ถูกกั้นรอบพื้นที่ทั้งหมด และ ที่กั้นคอนกรีตสำหรับป้องกันรถที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าใกล้ตัวตึก เราสามารถเห็น นักแม่นปืนในเขตต่างๆ รวมทั้งบนหลังคาของบางตึกที่ติดกัน เมื่อเราไปถึงที่ประตู เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนำเราไปและตรวจสอบข้าวของของทุกคน หลังจากนั้น เขานำเราผ่านเครื่องตรวจวัตถุ แล้วหลังจากนั้น เขาก็อนุญาตให้เราเข้าไปในสนามกีฬา “ ทั้งหมดผ่านไปด้วยดีและดี “ ท่านอาจจะพูดว่า “ แต่สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น ได้มีการโจมตีของผู้ก่อการร้ายฤา ? เจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับได้คิดคุมไว้ด้วย เพราะเขาได้เตรียมการสำหรับสถานการณืที่เลวร้ายที่สุด แผนการอพยพ ได้วางไว้ด้วย และเจ้าหน้าที่ซูปเปอร์โดมได้ฝึกฝน เพื่อให้แน่ใจว่า ทุกคนได้รู้ว่าจะทำอะไร หากมีกรณีฉุกเฉิน ผู้ว่าการรัฐ นิวออลลีน มาร์ซ โมเรียว กล่าวว่า “ วันก่อนการแข่งขันซูปเปอร์โบล “ เราต้องการส่งข้อความถึงผู้มาเยือนทั้งหลายว่า นิวออลลีน ได้มาถึงจุดที่เป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดในอเมริกา “ เราก็ได้รับข้อความนี้ด้วย เรามิได้รู้สึกขมขืนหรือเป็นกังวลแม้แต่นิดเดียว นั้นคือ อะไรที่เกิดขึ้น เมื่อผู้นำได้เห็นความสำคัญของการคิดแบบสมจริง