รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” มาตรการต้านโควิด-19 ของรัฐบาล เล่นเอาวิถีชีวิตของคนเมืองใหญ่ ๆ แปรสภาพไปหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะสิ่งที่ต้องทำทุกวี่ทุกวันอย่าง “อาหารการกิน” ก็กระทบเต็ม ๆ โดยปกติคนไทยกับ “การกิน” นั้น กินได้ทุกที่ ทุกเวลา ยิ่งวิถีชีวิตคนเมืองด้วยแล้ว ชอบจะสะดวกสบาย ... อยากได้อะไรต้องได้ ชนิดที่เรียกว่า “รอไม่ได้ ช้าไม่เป็น” เพราะภารกิจที่รัดตัว เวลาที่ไม่ค่อยจะมี แต่ก็อยากได้สุนทรีย์จากทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อมีเวลาและโอกาส แต่เมื่อถูกกักบริเวณ ต้องอยู่กับบ้านออกไปไหนก็ไม่สะดวก แถมยังมีความหวาดวิตกว่าจะติดเชื้อ โควิด-19 อีก ความจริงอยู่บ้านว่าง ๆ ไม่ได้ไปไหน น่าจะทำอาหารกินเอง แต่พอดูผลสำรวจของสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ที่ไปเจาะใจคนไทยทั่วประเทศ 1,242 คน เมื่อวันที่ 5-8 พฤษภาคม 2563 พบว่า “5 กิจกรรมยอดฮิต” ในภาวะที่ต้องหยุดอยู่กับบ้าน อันดับ 1 เล่นเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ไลน์ อินสตาแกรม 84.34% อันดับ 2 นอนพักผ่อน 83.11% อันดับ 3 ทำงานที่บ้าน (WHF) 78.04% อันดับ 4 ดูหนัง 75.70% อันดับ 5 ฟังเพลง 72.44% ไม่มี “ทำอาหาร” ติด 1 ใน 5 เลย ทั้ง ๆ ที่แต่ละวันต้องกินอาหาร 3 มื้อ อยู่แล้ว ทำไม? .. เพราะอะไร? อาจจะมีเหตุผลที่มาจากความเครียดที่ต้องถูกกักบริเวณ ไม่ใช่แค่ ไม่อยากไปติดเชื้อที่ตลาดสด หรือเพียงแค่ร้านอาหารปิดบริการเท่านั้น หรือพื้นฐานเดิม ๆ ของคนไทยที่ “อยู่เฉย ๆ ก็หลับ ขยับก็กิน” เมื่อจะกินไม่มีวัตถุดิบจะทำ เปิดตู้เย็นก็มีแต่ไข่ ทั้งเบื่อทั้งขี้เกียจ ผนวกกับความเครียด ก็อยากได้ความสะดวกสบาย “อาหารเดลิเวอรี่” จึงเข้ามาสอดรับพอดิบพอดี ช่างเหมาะเจาะเสียจริง ๆ !! ตอนแรกผู้เขียนก็คิดว่า “อาหารเดลิเวอรี่” คงจะมาแทนที่การทำอาหาร และหิ้วกับข้าวถุงกลับบ้านชั่วครู่ชั่วยาม เมื่อ โควิด–19 จางหายไป การทำอาหารกินเองก็น่าจะหวนกลับมาดังเดิม แต่พอพลิกไปดูผลสำรวจของ “สวนดุสิตโพล” ในช่วงเวลาใกล้ ๆ กัน จากคำถามที่ว่า “หากสถานการณ์ โควิด–19 หมดลง ลูกค้ายังสนใจจะสั่งอาหารเดลิเวอรี่อยู่หรือไม่” 96.03% ตอบว่า “สนใจที่จะสั่งอาหารเดลิเวอรี่ต่อไปอีก” เมื่อได้เสพก็ยิ่งจะติด! ถ้ายิ่งได้อาหารที่ถูกปาก ถูกใจ เชื่อมั่นในความสะอาด ปลอดภัย อะไรหรือ จะมาฉุดรั้งได้ แต่ก็ต้องมองในมิติการคาดการณ์ว่า โควิด-19 จะเปลี่ยนวิถีชีวิตคนไทย ไปจากเดิมและพฤติกรรม ที่เปลี่ยนไปโดยเกิดคำว่า “New normal” โดยเฉพาะการกินอยู่ที่ “Digital Takeover” จะเข้ามาอำนวยความสะดวกสบายในการใช้งาน จาก โควิด-19 ที่เป็นตัวเร่งพฤติกรรมผู้บริโภคให้ยับยั้งและป้องกันการแพร่เชื้อ ทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้บริการดิจิทัลอย่างจริงจัง ประเด็นดังกล่าวนี่เองที่มีส่วนผลักดันให้บริการเดลิเวอรี่ออนไลน์เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม “อาหารเดลิเวอรี่” จึงเป็นบริการที่ตอบสนองผู้บริโภคไม่ใช่แค่ความสะดวกสบาย แต่ตอบสนองความต้องการที่ลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการใช้ชีวิตนอกบ้าน โดยเฉพาะจะต้องไปแออัดยัดเยียดในตลาดสด นี่ยังไม่รวมถึงการใช้เงินสดที่น้อยลง โดยผู้ให้บริการอาหารเดลิเวอรี่เปิดช่องทางการชำระค่าอาหารด้วย แอพพลิเคชั่นโมบายแบงค์กิ้ง อีเพย์เมนต์ รวมไปถึงเครดิตการ์ดอีกต่างหาก “ธุรกิจอาหารเดลิเวอรี่” จึงก้าวเข้าสู่ยุคทองก็ว่าได้ แต่อย่าประมาทว่า “คนไทยอะไรก็ได้” นะ ยิ่งธุรกิจอาหารเดลิเวอรี่เฟื่องฟู แข่งขันกันอย่างดุเดือด ก็เป็นโอกาสทองของผู้บริโภคเช่นเดียวกันเพราะผู้บริโภคก็กำลังมองหา สิ่งที่มากกว่ารสชาติและความสะอาดโดยแสวงหา ความสะดวกรวดเร็ว ช่องทางการติดต่อที่เข้าถึงได้ง่าย เมนูอาหารสุดเจ๋ง รายละเอียดราคาต้องชัดเจน บริการที่สุดประทับใจ รวมถึงโปรโมชั่นเด็ด ๆ รายละเอียดดังกล่าว สอดคล้องกับผลสำรวจของ “สวนดุสิตโพล” ที่ผู้ใช้บริการ “อาหารเดลิเวอรี่” ระบุว่า สะอาดถูกหลักอนามัย (97.73%) ความสะอาดของพนักงานส่งอาหาร (94.83%) รสชาติอร่อย (94.28%) ราคาถูก/ย่อมเยา (92.56%) ส่งตรงเวลา (92.11%) ฯลฯ แม้อยากจะสรุปว่า พฤติกรรมการกินอยู่ของคนไทยในเมืองใหญ่ ๆ มีจริตที่เอื้อต่อ “อาหารเดลิเวอรี่” อยู่แล้ว แต่เมื่อ โควิด-19 เป็นตัวเร่งและได้ทำให้การกินอยู่ของคนไทยซึ่งเป็นหนึ่งใน New normal จึงยากที่จะด่วนสรุปได้ ดังนั้นผู้ประกอบการ “ธุรกิจอาหารเดลิเวอรี่” คงจะต้องมองผ่าน “ข้อมูล” เหล่านี้ให้ทะลุปรุโปร่งจริง ๆ จึงจะมีโอกาสที่จะครองใจลูกค้าได้ตลอดกาล !