ชัยวัฒน์ สุรวิชัย ถ้าท่านชอบคนส่วนใหญ่ในวัฒนธรรมของเราในปัจจุบัน ท่านอาจจะทำความคิดไตร่ตรองได้น้อยมาก ถ้าเป็นเช่นนี้ มันอาจจะนำท่านกลับหันไปมากกว่าที่คิด จงนำไปสู่ใจกลางของข้อแนะนำต่อไปนี้ เพื่อเพิ่มความสามารถในการคิดไตร่ตรอง 1. กันเวลาไว้เพื่อการไตร่ตรอง นักปรัชญากรีก โสคราตีส ได้ให้ข้อสังเกตว่า “ ชีวิตที่ไม่มีการตรวจสอบ ไม่มีคุณค่า “อย่างไรก็ตาม สำหรับคนส่วนใหญ่ การไตร่ตรองและการตรวจสอบตัวเอง ไม่ได้มาเอง มันเป็นกิจกรรมที่ค่อนข้างไม่น่าพอใจด้วยหลายเหตุผล : เป็นช่วงเวลาที่ลำบากในการอยู่กับการเน้นความสำคัญ , เขาพบว่ากระบวนการน่าเบื่อ หรือ เขาไม่ชอบใช้เวลาคิดมากเกี่ยวกับประเด็นที่ยากลำบากทางอารมณ์ แต่ถ้าเขาไม่จัดเวลาสำหรับมัน ท่านจะไม่ชอบที่จะคิดไตร่ตรองใดๆ 2. เอาตัวเองออกมาจากความวอกแวก เท่าที่ประเภทอื่นๆของความคิด ความคิดไตร่ตรองจะอยู่โดดเดี่ยว ธรรมดาความวอกแวกและการสะท้อนจะไม่ปนกัน มันไม่ใช่สิ่งประเภทที่ท่านสามารถทำได้ดีเมื่ออยู่ใกล้โทรทัศน์ , ในห้องเล็กๆ ,ขณะที่เสียงโทรศัพท์ดัง หรือมีเด็กๆอยู่ในห้องเดียวกันเหตุผลหนึ่ง ที่ฉันสามารถทำให้สำเร็จได้มาก และรักษาการเติบโตส่วนตน คือ ฉันไม่เพียงแต่จัดเวลาสำหรับการไตร่ตรอง แต่ฉันยังแยกตัวจากความคิดวอกแวก ที่ปิดกั้นเวลา : 30 นาทีในสปา หนึ่งชั่วโมงนั่งบนก้อนหินที่อยู่ภายนอกสนามหลังบ้าน หรือสองสามชั่วโมงบนเก้าอี้ที่นั่งสบายในห้องทำงานสถานที่ไม่ได้มีส่วน เท่ากับเวลาที่ท่านเคลื่อนออกมาจากความวอกแวกและการหยุดชะงัก 3. ทบทวนปฏิทินและการบันทึกอย่างสม่ำเสมอ คนส่วนใหญ่ใช้ปฏิทินเป็นเครื่องมือในการวางแผน ซึ่งเป็นเช่นนั้น แต่คนส่วนน้อยใช้มันเป็นเครื่องมือคิดไตร่ตรอง อะไรที่จะดีกว่า อย่างไรก็ตามสำหรับการช่วยให้ท่านได้ทบทวน ว่า ท่านอยู่ที่ไหน และทำอะไร เว้นแต่ การบันทึก ฉันมิใช่นักข่าว ในความรู้สึกทั่วไป ฉันไม่ได้ใช้การเขียนที่จะคิดออกมาว่า ฉันกำลังคิดและรู้สึกถึงอะไร แทนที่ ฉัน จะคิดออกว่า ฉันกำลังคิดและรู้สึกอะไร และแล้ว ฉันจะเขียนความคิดที่มีความหมายและจุดที่กระทำ (ฉันบันทึกความคิด เพื่อให้ฉันสามารถส่งต่อให้กับกับพวกเขาอีกครั้ง ฉันจัดการอย่างทันที่ทันใดจุดที่ต้องกระทำหรือส่งไปให้คนอื่น ) ปฏิทินและการบันทึก เตือนท่าน เรื่องการใช้เวลาอย่างไร แสดงให้ท่านรู้ว่า กิจกรรมตามลำดับก่อนหลัง และช่วยให้ท่านเห็นการทำตามกระบวนการ เขาก็จะเสนอให้กับท่านถึงโอกาสที่จะรำลึกถึงกิจกรรมที่ท่านอาจจะไม่มีเวลาไตร่ตรองก่อน บางอย่างของความคิดที่มีคุณค่าที่สุดที่ท่านมี อาจจะหมดไป เพราะท่านไม่ได้ให้เวลาไตร่ตรองที่ต้องการ 4. ถามคำถามที่ถูกต้อง คุณค่าที่ท่านได้รับจากการไตร่ตรอง จะขึ้นอยู่กับประเภทขงคำถาม ที่ถามตัวเอง ยิ่งคำถามที่ดี ท่านจะได้รับทองที่มากขึ้นจากความคิดของท่าน เมื่อได้ไตร่ตรอง ฉันจะคิดในรูปของคุณค่า ความสัมพันธ์ระหว่างกัน และประสบการณ์ ต่อไปนี้จะเป็นบางคำถามตัวอย่าง การเติบโตส่วนบุคคล : อะไรที่ได้เรียนในวันนี้ ที่จะช่วยให้ท่านเติบโต ฉันสามารถประยุกต์เข้ากับชีวิตได้อย่างไร เมื่อไหรที่ฉันสามารถประยุกต์ได้ การเพิ่มคุณค่า : ใครที่ฉันสามารถเพิ่มคุณค่าได้ในวันนี้ ฉันจะรู้ในการเพิ่มคุณค่าแก่คนนั้นอย่างไร ฉันสามารถติดตามและประกอบส่วนผลประโยชน์ในเชิงบวกที่เขาหรือเธอจะได้รับอย่างไร ความเป็นผู้นำ : ฉันนำเป็นตัวอย่างได้ไหม ฉันยกระดับคนและองค์กรไปสู่ระดับที่สูงขึ้นได้ไหม ฉันจะทำอะไร และฉันจะทำอย่างไร ความซื่อสัตย์ส่วนบุคคล : ฉันเป็นตัวแทนที่ดีของพระเจ้าไหม ฉันได้ปฏิบัติตามหลักของพระเจ้าไหม ฉันได้ซื่อสัตย์กับบางคนไหม การแต่งงานและมีคอรบครัว : ฉันได้ส่งความรักให้กับครอบครัวไหม ฉันจะแสดงออกถึงความรักนั้นอย่างไร เขาจะรับรู้ไหม เขาจะทำให้กับฉันไหม วงจรภายใน : ฉันได้ใช้เวลาเพียงพอกับคนสำคัญของฉันไหม อะไรที่ฉันสามารถช่วยให้เขาประสบความสำเร็จมากขึ้น พื้นที่หรืองานอะไรที่ฉันสามารถปรึกษาเขา การค้นพบ : อะไรที่ฉันพบในวันนี้ ซึ่งฉันต้องการที่จะมีเวลาไตร่ตรองมากขึ้น มีบทเรียนอะไรที่จะได้เรียนรู้ มีอะไรบางสิ่งที่จะต้องทำ ท่านจะจัดตั้งอย่างไร เรื่องเวลาไตร่ตรองขึ้นอยู่กับตัวท่านเอง ทานอาจจะปรับแผนที่จะให้คุณค่าแก่ตัวท่าน หรือท่านจะทำเป็นระบบที่ เพื่อนของฉัน ดิกบิกส์ ได้ใช้ เขาสร้างเป็น 3 แถวในแผ่นกระดาษ จุดเปลี่ยนแปลง ผลกระทบ ระบบนี้ ดีสำหรับการไตร่ตรองในภาพที่ใหญ่ ดิก ใช้มันเพื่อให้เห็นแบบแผนของชีวิต เช่น เมื่อเขาย้ายไป อัลลันต้า และถูกพบโดยครูคนใหม่ที่จะเขียน ท่านสามารถปรับโดยเขียนง่ายๆ ,“ เหตุการณ์ “ เรื่องสำคัญ และ จุดเริ่มทำ บนแผ่นกระดาษ เพื่อช่วยให้ท่านได้ประโยชน์จากความคิดไตร่ตรอง สิ่งสำคัญ คือ การสร้างคำถามที่ทำงานให้ท่าน และเขียนลงความคิดที่สำคัญใดๆที่ได้มาระหว่างเวลาไตร่ตรอง 5. เชื่อมการเรียนรู้กับการกระทำ เขียนออกมา ความคิดที่ดีที่ออกมาจากความคิดไตร่ตรองที่มีคุณค่า แต่ไม่ได้ช่วยให้เติบโต เหมือนกับใส่ความคิดเข้าไปสู่การกระทำ การทำเช่นนี้ ท่านจะต้องมีเจตนา เมื่อท่านอ่านหนังสือที่ดี เช่น มีความคิดที่ดีเสมอ , คำพูด หรือบทเรียน ที่ได้มาจากการอ่าน และใช้ด้วยตัวเอง ฉันจะทำเครื่องหมายต่างๆลงในหนังสือ และอ่านซ้ำในส่วนนั้น เมื่อฉันฟังข่าวคราว ฉันจะบันทึกไว้ ดังนั้น ฉันสามารถนำมาใช้ในอนาคต เมื่อฉันไปร่วมสัมนา ฉันจะบันทึกข้อความที่ดี และใช้สัญญาลักษณ์เป็นระบบ เป็นหนทางให้ฉันได้ทำสิ่งนั้น ทำลูกศร > หมายความว่า ให้ดูส่วนนี้อีก ทำเครื่องหมายดอกจันท์ * ต่อจากส่วนที่ได้ทำเครื่องไว้ หมายถึง เก็บไว้ตามเรื่องที่ได้บันทึกไว้ ทำวงเล็บ ( ) หมายความว่า ฉันต้องการใช้ในส่วนที่ได้บันทึกไว้ ในสมุดเลขเชอร์ หรือหนังสือ ทำลูกศรชี้ขึ้น หมายถึง ความคิดนี้จะ หยิบนำไปใช้ เมื่อได้ใช้งาน เมื่อคนส่วนใหญ่ ไปร่วมประชุมหรือสัมมนา เขาจะร่าเริงกับประสบการณ์ , ฟังผู้พูด , และบางครั้งบันทึก แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากกลับบ้าน เขาชอบแนวคิดส่วนมากที่เขาได้ยิน แต่เมื่อเขาปิดโน๊ตบุ๊ค เขาจะไม่คิดถึงมันอีก เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น เขาได้รับแรงกระตุ้นชั่วคราวของแรงจูงใจ เล็กน้อย เมื่อท่านไปร่วมประชุม จงทบทวนอะไรที่ได้ยิน สะท้อนออกมา และนำไปสู่การกระทำ มันจะสามารถเปลี่ยนชีวิตท่านได้ สุดท้าย ความคิดไตร่ตรอง ให้ 3 คุณค่าใหญ่ : ให้มุมมองที่มีเนื้อหา : ให้เชื่อต่อเนื่องกับการเดินทาง และให้คำปรึกษาและทิศทางที่เกี่ยวกับอนาคต มันเป็นเครื่องมือที่ล้ำค่าในการเติบโตของฉัน สิ่งเล็กๆในชีวิตสามารถช่วยให้ฉันเรียนรู้ และปรับปรุงหนทางความคิดไตร่ตรองที่เป็นไปได้ .