รศ.ดร.ไชยา ยิ้มวิไล สัปดาห์นี้ขอเปลี่ยนแนวความคิดเกี่ยวกับ “การเมือง” กับ “ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ” ที่ยังมีความสำคัญอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราต้องติดตามกันอยู่ตลอดเวลา เนื่องด้วยส่งผลกระทบกับ “การดำรงชีพ-การดำเนินชีวิต” ที่นับวันจะเปลี่ยนแปลง ผันผวนอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ “ปัญหาภัยธรรมชาติ-ปัญหาสภาวะโลกร้อน” แถมด้วย “ปัญหาก่อการร้าย” และที่สำคัญในสังคมยุคใหม่ที่วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี “ล้ำหน้า” อย่างมากมายจนต้องรับสารภาพว่า “ตามไม่ทัน!” แนวความคิด “พร้อมเพย์ (PROMPT PAY)” เป็นความคิดใหม่ที่ “ธนาคารแห่งประเทศไทย” หรือ “แบงค์ชาติ” ร่วมมือกับภาครัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง และสมาคมธนาคารแห่งประเทศไทย โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พยายามจะสร้างความเข้าใจให้แก่พี่น้องประชาชนกับ “นวัตกรรมการเงิน” ที่สังคมยุคใหม่ต้องเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงกับ “การโอนเงิน-การรับเงิน” ที่เราไม่อาจหลีกหนีได้! “พร้อมเพย์” ถ้าฟังดูแล้วอาจจะไม่เข้าใจเลยก็ได้ เนื่องด้วยเป็นแนวความคิดที่ดังกล่าวข้างต้นว่า เราทุกคนคนไทยต้องรับมือกับ “นวัตกรรมการเงิน” ภายใต้สังคมยุคใหม่ ถามว่า “พร้อมเพย์” คืออะไร ก็คงต้องอธิบายที่มาที่ไปตั้งแต่เริ่มต้นเลย พร้อมเพย์ เป็น “บริการทางเลือกใหม่” ให้ประชาชน ธุรกิจ และหน่วยงานต่างๆ ใช้ในการโอนเงินและรับเงิน เป็น “การบริหารเพิ่มจากการโอนเงินแบบเดิม” ที่ให้ประชาชนเลือกใช้ได้และทำให้ผู้ใช้มีความสะดวกมากขึ้น เพราะระบบพร้อมเพย์จะใช้เลขประจำตัวประชาชน หรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือของผู้รับเงินแทนได้ ทำให้สะดวกและง่ายต่อการจดจำ จากเดิมที่ต้องรู้เลขที่บัญชีเงินฝากธนาคารจึงจะโอนเงินให้ได้ พร้อมเพย์จึงเป็น “บริการทางเลือก” ให้กับประชาชน โดย “ทุกคนไม่จำเป็นต้องมาลงทะเบียน” แต่ผู้ที่มีการโอนเงินรับเงินบ่อยๆ ควรมาลงทะเบียนใช้พร้อมเพย์ เพราะจะได้รับประโยชน์จากค่าธรรมเนียมที่ถูกลงมาก “ทำไมต้องมีพร้อมเพย์” เพื่อเพิ่มทางเลือกและความสะดวกในการโอนและรับเงินให้ประชาชน และช่วยลดความเสี่ยงในการถือเงินสดที่อาจสูญหาย ลดภาระและต้นทุนในการบริหารจัดการและพิมพ์ธนบัตรของประเทศ ในระยะต่อไปรัฐบาลจะดูแลประชาชนด้านสวัสดิการโดยจ่ายเงินผ่านช่องทางพร้อมเพย์ด้วย ทำให้ประชาชนได้รับเงินรวดเร็วและทั่วถึง “ประชาชนได้อะไร” ประชาชน “มีทางเลือกในการใช้บริการโอนเงินมากขึ้น” และสามารถใช้พร้อมเพย์ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงินค่าเล่าเรียน ค่าบริการต่างๆ หรือการจ่ายค่าอาหาร และที่สำคัญ “ด้วยค่าบริการที่ถูกลงกว่าบริการโอนเงินแบบเดิม” โดยเฉพาะการโอนเงินครั้งละไม่เกิน 5,000 บาท จะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆ ไม่ว่าจะโอนไปยังธนาคารไหน หรือ ณ จุดใดในประเทศ ถ้าโอนจำนวนมากขึ้นก็มีค่าธรรมเนียมเรียกเก็บบ้าง แต่มีเพดานไม่เกิน 10 บาทต่อรายการ “อยากใช้พร้อมเพย์ทำอย่างไร” ผู้ใช้ต้องมาลงทะเบียนเพื่อผูกบัญชีที่มีอยู่กับธนาคารนั้นเข้ากับเลขประจำตัวประชาชน หรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือ โดยธนาคารจะมีการตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ ว่าเป็นเจ้าของตัวจริง ไม่มีการปลอมแปลง เพื่อดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน และหลังจากลงทะเบียนแล้ว ธนาคารจะมีการแจ้งยืนยันว่าผ่านการลงทะเบียนหรือไม่ ทุกธนาคารจะเปิดให้ลงทะเบียน ซึ่งเริ่มแล้วตั้งแต่ “วันที่ 15 กรกฎาคม” นี้เป็นต้นไป ผ่าน Mobile Banking , Internet Banking ตู้ ATM และสาขาธนาคาร โดยประชาชนสามารถลงทะเบียนเมื่อไหร่ก็ได้ตามความสะดวกและความพร้อมของประชาชน ซึ่งธนาคารบางแห่งที่มีความพร้อมได้เปิดลงทะเบียนตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2559 สำหรับผู้ที่มีบัญชีเงินฝากธนาคารหลายบัญชี ไม่จำเป็นต้องมาลงทะเบียนพร้อมเพย์ทุกบัญชี แต่อาจเลือกบัญชีใดบัญชีหนึ่งไว้สำหรับรับเงินด้วยพร้อมเพย์ก็ได้ (ตัวอย่า งกรณีนาย ก.) หรือในกรณีที่อยากใช้พร้อมเพย์กับหลายบัญชี ก็สามารถเลือกผูกเลขประชาชนกับบัญชีที่ 1 และผูกเบอร์โทรศัพท์มือถือกับบัญชีที่ 2 ก็ได้ (ตัวอย่างกรณีนาย ข. และนาย ค.) และต้องระวังว่าหมายเลขเดียวกันผูกซ้ำเกินกว่า 1 บัญชีไม่ได้ และจะเริ่มให้บริการโอนเงินตั้งแต่ “31 ตุลาคม 2559” เป็นต้นไป โดยจะโอนเงินผ่านพร้อมเพย์ได้ตามช่องทางต่างๆ ของธนาคาร คือ Mobile Banking , Internet Banking และตู้ ATM ซึ่งลูกค้าต้องมีรหัส Username / Password หรือมีบัตรและรหัส ATM จึงจะสามารถใช้บริการได้ ระยะเวลาตั้งแต่ลงทะเบียนจนถึงเริ่มให้บริการรับ-โอนเงินระบบพร้อมเพย์กว่า 3 เดือนนั้น เป็นช่วงเวลาที่ให้ข้อมูลความรู้แก่ประชาชนเพื่อทำความรู้จัก ศึกษาและเข้าใจวิธีการใช้งานพร้อมเพย์ที่ถูกต้อง รวมทั้งการรักษาความปลอดภัยในการใช้บริการ เพื่อให้มีความพร้อมในการใช้บริการอย่างวางใจและปลอดภัย “พร้อมเพย์ปลอดภัยหรือไม่” ระบบพร้อมเพย์มีการดูแลความปลอดภัยตั้งแต่ขั้นตอนการลงทะเบียนที่รัดกุม การพัฒนาระบบกลางที่มั่นคงปลอดภัย และการใช้งานขอประชาชนผู้โอนเงินอย่างถูกต้อง “ลงทะเบียนรัดกุม” ธนาคารจะมีการตรวจสอบตัวตนของลูกค้าและความเป็นเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์มือถืออย่างรัดกุม นอกจากนี้ ธปท.ได้กำชับให้ธนาคารปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนดในการรับลงทะเบียนพร้อมเพย์ ซึ่งได้ออกไปเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2559 เพื่อให้การลงทะเบียนมีความปลอดภัย เป็นมาตรฐานและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน รวมทั้งธปท. มีการตรวจสอบขั้นตอนและการควบคุมดูแลระบบการลงทะเบียนพร้อมเพย์เป็นการเฉพาะ เพื่อให้มั่นใจในความมั่นคงปลอดภัยและความพร้อมใช้งาน คงต้องมาว่ากันต่อไปสัปดาห์หน้า เนื่องด้วยแนวคิดนี้ยังคงใหม่กับประชาชนทั่วไป!