แสงไทย เค้าภูไทย ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เศรษฐกิจไทยเดินมาถึงทางสามแพร่ง จะเผชิญหน้ายุบสภาฯหรือรัฐประหารหรือบิ๊กตู่อยู่ต่อ ด้วยผลตามมาที่แตกต่าง ถ้าเลือกยุบสภาฯ เศรษฐกิจจะดี มีเงินสะพัดในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง คนไทยมีความหวัง บรรยากาศการลงทุนดีขึ้น การกระตุ้นเศรษฐกิจได้แรงส่ง แรงเสริมเพิ่มขึ้น แต่ถ้ามีรัฐประหาร หรือบิ๊กตู่ทู่ซี้อยู่ต่อ หายนะมาแน่ เหตุจากทางออกด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา 2/2 แคบลงทุกที นับแต่ปรีดี ดาวฉาย ลาออกจากตำแหน่งรมว.คลังกะทันหันทั้งๆที่นั่งกระทรวงได้แค่ 20 วันเท่านั้น ก่อนที่ ปรีดี จะมารับตำแหน่งนี้ ได้มีคนในแวดวงเศรษฐกิจและการเมืองระดับกูรูหลายคนทักว่า จะอยู่ได้นานแค่ไหน เพราะรัฐบาลหรือที่จริงคือพลเอกประยุทธ์ กลายเป็นคนที่วงการการเงินเมิน จนถึงสิ้นสัปดาห์นี้ หากยังหาคนเก่งจากภายนอกมานั่งตำแหน่งที่ว่างนี้ไม่ได้ ลงท้ายตัวบิ๊กตู่อาจต้องนั่งเอง คนที่สนับสนุนพากันถอยห่าง อย่างที่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีเคยเตือนไว้ตั้งแต่ท่านยังไม่ถึงแก่อสัญกรรมว่า “ถอยเถอะ กองหนุนหายไปเยอะแล้ว” ถึงวันนี้ คงได้พบสัจธรรมแล้วว่าที่ป๋าเปรมพูดนั้น เป็นจริง แม้แต่วุฒิสมาชิก(ส.ว.)ที่ตั้งมากับมือ ก็ตีตนออกห่าง ล่าสุด 60 คนประกาศว่า หากมีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ พวกเขาจะไม่ยกมือให้พลเอกประยุทธ์ ครั้งที่แล้วถือว่า เป็นการทดแทนบุญคุณกันในฐานที่แต่งตั้งพวกเขามา ถอยกันไปหมด โดยเฉพาะเมื่อภาพนายกรัฐมนตรี ออกมาในทางลบ ไม่ว่าจะอดีตนักค้ายาเสพติดที่เอามาเป็นรัฐมนตรีและคอยเดินตามประกบแทบทุกย่างก้าวของนายกฯ ไม่ว่าจะการทะเลาะเบาะแว้งแย่งตำแหน่งในรัฐบาลผสม 20 พรรค ไม่ว่าจะฐานรากพรรคพลังประชารัฐหรือ “ สี่กุมาร(เฒ่า)” ทิ้งพรรค ไม่ว่าจะบุคลิกฉุนเฉียวในตัวบิ๊กตู่ การไม่ควบคุมอารมณ์ระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ความล้มเหลวในการแก้ไขความขัดแย้งภายในชาติที่บิ๊กตู่ประกาศ หลังยึดอำนาจ แต่ต่อมาตัวเองกลายเป็นคู่ขัดแย้งเสียเอง ความล้มเหลวในการแก้ปัญหาคอร์รัปชัน โดยเฉพาะในวงราชการ เหตุจากการปล่อยให้เกิดระบบการปกครองทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเป็นแบบรัฐราชการ ฯลฯ บรรยายไม่หมด ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อไร้รมว.คลังผู้ที่ทำหน้าที่หาเงินมาให้รัฐบาลใช้ ถ่างเวลากว้างยิ่งขึ้น ความเชื่อมั่นในรัฐบาลยิ่งลดลง ม.ราชภัฏสวนดุสิต ทำโพลล่าสุดหัวข้อ “เสถียรภาพรัฐบาล ณ วันนี้” พบว่า 71.15% มองรัฐบาลยังไม่มั่นคง เหตุจุดอ่อนด้านปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ การบริหารประเทศย่ำแย่ แก้ปัญหาไม่สำเร็จ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจยามนี้ ความจำเป็นที่สุดคือเงินจำนวนมหาศาล ที่ต้องอัดเข้าไปในระบบ ทำให้ต้องขยายเพดานเงินกู้จาก 60%ของจีดีพี เป็นเกิน 70% เพราะเงินหายไปจากตลาดจนเงินเฟ้อติดลบ –2% ถึง -3% ทำท่าจะฝืด เงินหายไปเข้าธนาคารจนเกิดสภาพเงินฝากล้นแบงก์เป็นประวัติการณ์ 14.6 ล้านล้านบาท น้องๆมูลค่าจีดีพี เหตุจากความเชื่อมั่น ตั้งแต่ผู้บริโภคถึงผู้ประกอบการหดหาย คนไทยพากันเอาเงินไปหาที่ปลอดภัย ลดการบริโภคและการลงทุน คนที่จะมาทำงานตรงนี้ จะต้องเป็นคนฝีมือระดับเทพ ซึ่งไม่มีในรัฐบาลชุดนี้ จะมีก็แต่คนนอก ซึ่งคงจะไม่มีใครกล้ามาเป็น “ปรีดี 2” บิ๊กตู่อาจจะตัดสินใจนั่งควบรมว.คลังตามที่หลายๆฝ่ายยุ เพราะคิดว่า ข้าราชการประจำที่มีอยู่ก็น่าจะทำงานนี้ได้ ตัวเองเป็นหัวโขนตั้งแท่นเซ็นชื่อให้ก็พอ น่าจะลองดู เพราะทุกวันนี้ มีพวกมือปืนรับจ้าง ทำงานแทนนายกฯในหลายๆด้าน แวดล้อมเต็มไปหมดอยู่แล้ว ไม่ต้องสนใจเสียงรอบด้าน อันเป็นบุกคลิกเอกลักษณ์ของบิ๊กตู่ ไม่ต้องสนใจแม้แต่คำประชดว่า ถ้าบิ๊กตู่เป็นรมว.คลังได้ ต่อไปอาแป๊ะร้านโชห่วย ก็เป็นรัฐมนตรีคลังได้เช่นกัน