ชัยวัฒน์ สุรวิชัย บ้าน คือ วิมานของเรา ( 1 ) บวร : บ้านวัดโรงเรียน เป็นหน่วยงานทางสังคมที่มีความสำคัญและความหมายอย่างสูงยิ่งสำหรับสังคมเป็นสามเสาหลัก ที่ยึดโยงค้ำจุน สัมพันธ์กัน อย่างสมดุล แก่คนในสังคมไทย เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิต และเป็นหลักของการพัฒนา ให้ “ เด็ก กลายเป็นผุ้ใหญ่” ที่รู้ชอบรู้ธรรม รู้ชีวิตและโลกเป็นทั้งกระบวนการเรียนรู้ องค์กรแห่งการเรียนรู้ การคิดการปฏิบัติ ที่ทำให้เกิดความรู้สติปัญญาที่ชอบธรรม ทำให้เรา มีอิสระเที่ยงธรรม ในการกินอยู่ทำงานได้อย่างเสรี บนลำแข็งของตนเอง และพัฒนาได้ไม่หยุดยั้งเป็นการเรียนรู้ปัจเจก ทั้งกายและใจ และผู้อื่น-สังคมทั้งระบบความคิดและโครงสร้างระบบที่ครอบคิดของคนเป็นการเกิดขึ้นโดยธรรมชาติของมนุษย์ เป็นสัตว์สังคมที่ต้องอยู่รวมหมู่ สัมพันธ์ พึ่งพาอาศัยกันและกันไปตลอด จากการเคารพนับถือ ด้วยความเข้าใจและด้วยความศรัทธา จากการเป็น “ ผู้ให้กำเนิด ให้ความรู้ และให้ธรรม” หากจะสังเกต “ ตัวร่วม “ ที่ทำให้ บวร มีความสำคัญ คือ “การเป็นผุ้ให้ ผู้เสียสละ มิใช่ผู้เอาและเอาเปรียบ “ซึ่งเรา จะต้องจดจำใส่ใจ และนำไปปฏิบัติ ที่จะทำให้เกิดผลดีต่อตัวเอง ครอบครัว เพื่อนมิตร ชุมชนและสังคมจากนอกการเป็นผู้ให้แล้ว ต้องมีการถ่ายทอดชีวิต ความรู้ จิตวิญญาณ ประเพณีวัฒนธรรม ของบ้านวัดโรงเรียนบ้านวัดโรงเรียน เป็นเป้าหลอมชีวิตของผู้คนในสังคมนั้น คือ คนจะเป็นตามเป้าหลอม คือ บ้านวัดโรงเรียน ฉะนั้นอีกด้านหนึ่งที่คนหลงลืมคือ นอกจากบ้านวัดโรงเรียนสร้างคนแล้ว คนที่เติบโตทางความคิดจิตวิญญาณ จึงต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบในการพัฒนาและแก้ไขปรับปรุง “บวร” ให้พัฒนาสอดคล้องไปกับสังคมด้วยสุภาษิตที่คนรุ่นเก่าแก่ เคยได้เห็นได้ฟังกัน “ วัดจะดีมีหลักฐานเพราะบ้านช่วย บ้านจะสวยเพราะมีวัดดัดนิสัย บ้านกับวัดผลัดกันช่วยก็อวยชัย ถ้าขัดกันก็บรรลัยทั้งสองทาง ”บ้านวัดโรงเรียน จุดเปลี่ยนตัวเอง ครอบครัว ชุมนชน สังคมและประเทศ บางคนเข้าใจว่า บวร นี้ มีความสำคัญ เฉพาะตอนเป็นเด็กเท่านั้นแต่ความเป็นจริง บ้านวัดโรงเรียนมีความสำคัญ สำหรับทุกคน และทุกวัย ตั้งแต่เกิด โต แก่ เจ็บและตายเราจะเริ่มต้นกัน ว่าด้วยเรื่องบ้าน บ้านหมายถึง ครอบครัว ซึ่งเป็นหน่วยทางสังคมที่เป็นพื้นฐานสำคัญที่สุดหน่วยหนึ่งของสังคมไทย บ้านมีต้นทุน มีพลังบวก ที่จะพัฒนาทางด้านสภาพแวดล้อม ทางด้านกายภาพต่างๆทั้งของบ้านโดยเฉพาะคน คนที่อาศัยอยู่จะสืบสานวงศ์ตระกูลของบรรพบุรุษ มีภาษาประเพณีวัฒนธรรม ศาสนาหรือความเชื่อชุดหนึ่ง ในสมัยก่อน จะเป็นครอบครัวใหญ่ มีทั้งปู่ย่าตายาย พ่อแม่ ลุงป้าน้าอา ลูกหลานแต่ในยุคปัจจุบัน จะมีเฉพาะ “ พ่อแม่ลูก “ เป็นหลัก เรามาเริ่ม เรื่องบ้าน ด้วยเพลง “ บ้านของเรา “ บ้าน คือวิมานของเรา เราซื้อเราเช่า เราปลูกของเรา ตาม ใจ ย่อมเป็นสถานทิพย์วิมานพอหาได้ เป็นที่เกิด ที่ ตาย ที่เราสร้างเอาไว้คอยท่า บ้าน คือวิมานของ คน ถึงแม้ยากจน ก็ต้องดิ้นรน อย่าจนปัญญาหาบ้านสักหลัง ที่พอประทังชีวา เพื่อสนิทในนิทรา ให้ตื่นมามองโลกชื่นใจ บ้าน ฉัน มีเพลงฝันให้ฟัง มีเสียงระฆัง จากกังสดาลพริ้งไปมีสวนไม้ดอก ผลิบานก้านกอช่อใบ มีความรัก มีน้ำใจ มีให้อภัย มีกรุณา บ้าน คือวิมานของเรา ยามพบความเศร้า รีบกลับบ้านเรา จะเปรมปรีดาเพราะบ้านมีรัก น้ำใจอภัยกรุณา คอยเราอยู่ทุกเวลา ในชายคาเขตบ้านของเรา บ้าน ฉัน มีเพลงฝันให้ฟัง มีเสียงระฆัง จากกังสดาลพริ้งไปมีสวนไม้ดอก ผลิบานก้านกอช่อใบ มีความรัก มีน้ำใจ มีให้อภัย มีกรุณา บ้าน คือวิมานของเรา ยามพบความเศร้า รีบกลับบ้านเรา จะเปรมปรีดาเพราะบ้านมีรัก น้ำใจอภัยกรุณา คอยเราอยู่ทุกเวลา ในชายคาเขตบ้านของเรา.. บ้านของเรา – YouTube https://www.youtube.com/watch?v=wtk2qCj4mv0 บ้าน มีความจริง และความรู้คุณธรรม 1. ความจริงประการแรก ผมและพี่น้องเกิดมา ก็มีบ้านแล้ว คือ “ ร้านชัยประสาน ลำปาง “แต่บ้านมิได้เกิดขึ้นเอง แต่เป็นเพราะ “ น้ำพักน้ำแรง “ ที่ลงทุนด้วยหยากเหงื่อแรงกายและชีวิต ของป๋าแม่ ป๋ารักแม่ แม่รักป๋า แต่งงานกัน เมื่อปี 2484 เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม จึงต้องมีรังรักไออุ่นสำหรับครอบครัวที่จะเกิดขึ้นจากความรักของชายหนุ่มสุโขทัยและหญิงสาวลำปาง เป็นบ้านที่ลูกทั้งเก้าได้กำเนิดขึ้นมาเป็นลูกของป๋าและแม่ผู้ประเสริฐยิ่งของลูกๆน่าเสียดาย ที่โรคภัยไข้เจ็บ มาพราก พี่สาวสองคน และน้องสาวคนถัดจากผมไป ในยามเด็กเราจึงเหลือกัน 6 พี่น้อง คือ พี่เอี้ยง ( พี่สาวคนโต) พี่ปุ๊ ตัวผม น้องต่อน น้องฟอร์ดน้องเชฟ (น้องชายคนเล็ก)ป๋าแม่ ได้เลี้ยงดูเรา ตั้งแต่ก่อนเกิด ( การเตรียมการมีลูก ) ยามเกิดจากหมอตำแยและหมอโรงพยาบาล การสอนลูกๆ ทั้งคำพูด จิตสัมพันธ์ปฏิพัทธ์ผูกพัน และการปฏิบัติตลอดเวลา จนซึมลึกลงไปยังก้นบึ้งของหัวใจ ความเหน็ดเหนื่อยทางแรงกายและความคิดของป๋า ที่เป็นหลักในการค้าขายหาเงินมาเลี้ยงดู 8 ชีวิตส่วนแม่ ทุ่มเทใจรักเต็มอกให้แก่ลูกทุกคน โดยเฉพาะ การอบรมสั่งสอน และการศึกษาเล่าเรียนการที่ลูกๆได้เรียนที่โรงเรียนที่ดีที่สุดโรงเรียนหนึ่งของลำปาง คือ โรงเรียนอรุโณทัย และ อัสสัมชัญลำปาง ส่วนลูกสาวคนโตและคนเล็ก แม่ส่งไปเรียนประจำที่เชียงใหม่ คือ โรงเรียนเรยินาเชลีวิทยาลัยซึ่งเป็นโรงเรียนที่ก๋งและยาย ผู้มีความคิดทันสมัย ส่งแม่ไปเรียนจนจบชั้นมัธยมหกในยุคนั้นโดยป๋าทำงานหนักขายอะไหล่รถยนต์ทุกประเภท จิ๊บ ฟอร์ดเชฟ แลนด์โรเวอร์ ได้กล่าวคำพูดที่ลูกไม่เคยลืม “ ป๋าไม่มีอะไรจะให้ลูก นอกจากความรู้ อยากจะเรียนอะไร ระดับใด ป๋าจะส่งให้เรียนตามใจปรารถนา “ นอกจากป๋าแม่ ก๋งยาย ก็มีส่วนอย่างสำคัญ ในการเป็นแบบอย่างของการเสียสละและช่วยสังคมลำปาง“ ก๋ง “ มีบทบาทในด้านการศึกษา ร่วมจัดตั้งโรงเรียนประชาวิทย์ ( โรงเรียนจีน ) และสนับสนุนในเรื่องอื่นๆ“ ยาย “ ถือศีลธรรม ไปวัดเป็นประจำ ที่ทำให้ลูกหลานได้ไปวัดต่างๆ โดยเฉพาะวัดเชียงรายวัดม่อนจำศีล ความซื่อสัตย์ เสียสละ การให้มีน้ำใจ ไม่เอาเปรียบใคร วิริยะอุตสาหะ เพื่อตนเองและบ้านเมือง จึงสืบทอดมาลูกทุกคน ถูกป๋าและแม่ ส่งมาเรียนต่อที่กรุงเทพ โดยพี่น้องทุกคน มาอยู่กับญาติทางแม่ ส่วนผม:ญาติทางป๋าทุกเดือน ลูกๆจะได้รับเงินโอนจากป๋า และจดหมายที่ให้รักและความรู้ จากแม่ อย่างเป็นประจำ ไม่เคยขาด ผม เป็นลูกที่ทำให้ ป๋าและแม่ เป็นห่วงมากที่สุด โดยเฉพาะ เมื่อคราวถูกจับ เป็น “ 13 กบฏ 14 ตุลา 2516 “เมื่อออกมา และได้กลับมาบ้าน มาถูกกอดจากป๋าและแม่ ไม่มีน้ำตา มีแต่ความรักความดีใจ ที่ลูกปลอดภัยบ้านหรือร้านชัยประสานลำปาง จึงเป็นชีวิตจิตใจความรักความสุขของครอบสุรวิชัย ป๋าแม่ลูกและพี่น้องทุกคน 2. ความจริงประการที่สอง บ้านของเรา ครอบครัว “ นามวงศ์ -สุรวิชัย “ จุกจิ๊บ เจี๊ยบโจ๊ก ตระกูล 4 จ “เป็นความจริงที่ได้ประสบด้วยตนเอง หลังจากกลับจาก “ ชนบททางไกล คืนสู่นาคร “ เดือนเมษายน 2524หลังจากตัดสินใจเดินทางไกลไปกับมิตรสหายชุด ธีรยุทธและภรรยา ประสารและภรรยา วิสา มวลชน วิสุทธิ์ ในวันที่ 7 สิงหาคม 2519 ที่ตัดสินร่วมกันด้วยความมุ่งมั่นแน่วแน่ เพราะ “ไม่มีที่ปลอดภัยในนาครอีกแล้ว “และเป็นไปตามอุดมการณ์ของหนุ่มสาว ที่ใฝ่ฝันถึงอนาคตใหม่ ที่เสมอภาคเป็นธรรมของทุกคนในสังคมไทยหลายคนออกมาด้วยความไม่สมหวัง บางผิดหวัง เป็นคนตกยุคประวัติศาสตร์ที่ถูกหลงลืม แต่บางได้บทเรียนผมไม่เคยผิดหวัง มีความสุขดี เพราะได้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า ทำดีที่สุดทั้งกายใจและความคิดตามอุดมคติได้อะไรที่มากมาย ได้ร่วมทุกข์กับสหายมวลชนและผู้นำ ได้รู้จักมิตรแท้สหายจริง ได้บทเรียนที่มีคุณค่าและอีกสิ่งหนึ่งที่ได้มา คือ “ ความรัก “ ฉันท์คู่รักและคู่ชีวิต ที่เรา “สหายสุขและสหายศิลา “ ได้พบที่ภูพาน และมาสานต่อในเมือง ยามที่ผมในนามพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย แยกทางกับพคท. กลับสู่เมือง เมื่อพัฒนาความรัก เป็นชีวิตคู่ และปรารถนาชีวิตครอบครัว แต่มีเงินน้อย และไม่มีรังรักสร้างครอบครัว ส.สุข ชมจันทร์ กลับมา ได้ไม่นาน ก็ได้ทำงานในฐานะวิศวกรโครงการสร้างทางในชนบทภาคเหนือตอนใต้จากการอนุเคราะห์ของเพื่อนวิศวจุฬาฯ ทำงานที่รับแต่เงินเดือน และปฏิเสธค่าคอมจากโรงโม่และอื่นๆ ทำงานอยู่ปีกว่า มีเงินเก็บไม่ถึงแสนบาท แค่ผ่อนคอนโดแฟล็ตการเคหะดินแดง ยังไม่พอด้วยความจำเป็น จึงกลับไปบ้าน ขอป๋ามา “ 5 หมื่น “ และเงิน 3 หมื่น ที่ฝากพี่ชายไว้ มาสมทบกับเงินตัวเองจึงได้ ห้องหนึ่งในอาคารชุดของโครงการการเคหะ มีพื้นที่ 55 ตารางเมตร เป็นรังรักของครอบครัวและการไปสู่ขอภรรยาที่จันทบุรี ก็ต้องใช้สินสอดทองหมั่น เงินสด 4 หมื่นบาท ตัวเองมีเหลือเพียง 2 หมื่นต้องไปขอยืมเพื่อนรัก ดร.ปรัชญา แล้วนำเงินสินสอด ที่พ่อและญาติของภรรยาคืนให้ มาคืนหลังจากงานแต่งห้อง 2508/881 และหมายเลขโทรศัพท์ 02 2461724 จึงเป็นประวัติศาสตร์สำหรับครอบครัวตระกูล 4 จ ลูกชาย 2 คน ก็เกิดและเติบโตที่แฟล็ตดินแดง และการฝากเลี้ยงกับ “ แม่วันพ่อเปี๊ยก “ ที่เลี้ยงเด็กในแฟล็ตนี้ต่อมา เมื่อลูกโตขึ้น และต้องมาเรียนต่อ ที่โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี และม.ธรรมศาสตร์ และม.กรุงเทพ รังสิตแม่ของลูก ได้ตัดสินใจมาซื้อ บ้านที่บ้านภาณุ ถนนบรมราชชนนี ตัดกับ เส้นวงแหวนคราวนี้ ต้องร่วมกันทำงานหนัก เพราะมูลค่าบ้าน ตก 6-7 ล้านบาท และต้องกู้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ในยามช๊อตเงินอยู่ หนึ่งปี ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาท ไม่คิดดอกเบี้ยอีกเป็นล้าน ที่ต้องทยอยผ่อนส่งเป็นจังหวะดี งานที่ทำอยู่ถูกตาถูกใจของเพื่อนรุ่นน้องต่างสถาบันที่เป็นเจ้าของ เพิ่มเงินเดือนและโบนัสและภรรยา ก็มีรายได้จากบริษัทประกันใหญ่ จึงนำเงินก้อนที่ได้ในแต่ละปี มาตัดเงินต้น ผ่านมาอีก หลายปี จึงได้เป็นเจ้าของบ้าน 3. ความจริงประการที่สาม การมีบ้านเป็นเรื่องยากต่อคนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบัน ที่ค่าบ้านคอนโดวิ่งรวดเร็วต้องเก็บหอมรอมริบ ใช้เงินอย่างประหยัด เซฟทุกบาททุกสตางค์ ซื้อคอมโด ให้ลูกชายทั้งสอง ส่วนอื่นต้องหาเองสรุป บ้านคือวิมานของเรา แต่วิมานของเรา สร้างด้วยหยาดเหงื่อแรงกายใจที่หนักอึ้ง แต่ก็ให้คุณค่าความหมายให้บทเรียนแก่ชีวิต ของคนที่มั่นคงและคงมั่นในอุดมคติ ต้องออกแรงคิดและแรงงาน ที่หนักกว่าปกติ แต่ก็ภูมิใจ