แสงไทย เค้าภูไทย คนไทยเริ่มชะล่าใจการ์ดตกกันแล้ว แม้วัคซีนต้านโควิด-19 จะประสบความสำเร็จ แต่ยังต้องรอผลการทดลองใช้ในคนก่อนใช้จริงอีกระยะ อาจถึงกลางปีหน้า หญิงไทยติดเชื้อเข้ามาจากพม่าส่งสัญญาณว่าการระบาดระลอกสองกำลังจะเกิดขึ้น แม้ขณะนี้ไทยจะอยู่ในขั้นปลอดภัยระดับสูง แต่ก็วางใจไม่ได้ เพราะยังมีการระบาดไม่หยุดยั้งในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเมียนมา รายงานการระบาดเมื่อวันจันทร์ เมียนมามีผู้ติดเชื้อถึง 89,486 คนตาย 1,918 คน มาเลเซีย 64,685 คน ตาย 357 คนเวียดนาม 1,343 คน ตาย 35 คน ลาว กัมพูชา 315 คน ไม่มีตาย ลาว 39 คน ไม่มีตาย เมียนมากับไทยมีพรมแดนธรรมชาติร่วมกันยาวที่สุด ทำให้ยากแก่การสกัด ยิ่งกว่านั้น ยังมีกระบวนการรับจ้างลักลอบนำเข้าแรงงานเถื่อนรวมถึงคนที่ต้องการหนีโควิด-19 จากเมียนมาเข้าไทยในราคาหัวละ 3,000-5,000 บาทด้วย หญิงไทยวัย 29 ปีที่ติดเชื้อกลับมาไทยผ่านด่านแม่สายโดยไม่ได้รับการตรวจคัดกรองนั้น ก็ด้วยความที่เป็นคนไทยด้วยกัน มาพบว่าติดเชื้อเอาก็เมื่อหลังจากเธอไปเที่ยวดื่มกินในเชียงใหม่ ผู้ที่ใกล้ชิดที่มีโอกาสติดเชื้อมีถึงกว่า 326 คน ทำให้ต้องตรวจคัดกรองกันโกลาหล และยังต้องฉีดยาฆ่าเชื้อไวรัสในสถานที่ที่หญิงผู้นี้เดินทางไปทุกแห่ง แม้ขณะนี้ จะคัดกรองผู้เข้าข่ายติดเชื้อไปแล้วกว่า 100 คน โดยไม่พบผู้ติดเชื้อ แต่หากใน 200 คนที่เหลือเกิดติดเชื้อขึ้นมาสักคนหรือ 5-10-15 คนล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น ? นี่เพียงแค่คนติดเชื้อคนเดียวเท่านั้น หากลักลอบเข้ามากันเป็นสิบๆ เป็นร้อยๆคนเหมือนกับที่เคยเข้ามาเป็นแรงงานเถื่อน และนำเชื้อติดตัวเข้ามาด้วย ผลจะเป็นอย่างไร ? ขณะนี้มีแรงงานต่างด้าวในไทยกว่า 1.3 แสนคน ลดลงจากก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 ถึง 2 แสนคน เป็นแรงงานพม่ากว่า 80% ที่เหลือเป็นกัมพูชาและลาว แรงงานพม่าเหล่านี้ อยู่กันเป็นกระจุกกลุ่มก้อน แออัด ทำให้กังวลกันว่า แรงงานที่ลักลอบเข้ามาใหม่ โดยเฉพาะจากท่าขี้เหล็กที่มีการแพร่ระบาดรุนแรง และเป็นจุดข้ามแดนที่มีการลักลอบขนแรงงานพม่าเข้ามามากที่สุด จะเป็นเส้นทางนำผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะนี้เข้ามาแพร่ในไทยระลอกที่ 2 ในการระบาดระลอกแรก อสม.ที่ได้รับการยกย่องจากองค์การอนามัยโลกว่าเป็นวีรสตรี วีรบุรุษพิชิตไวรัสทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม ยามนี้ คงจะต้องเป็นหูเป็นตาสอดส่องหาแหล่งชุมนุมของแรงงานพม่าและต่างชาติอื่นๆชนิดปูพรม ถ้าไม่ทำเช่นนั้น คลื่นโควิดลูกที่ 2 โถมใส่แน่ ช่วงนี้ให้ลองไปเดินตามตลาดสดย่านชุมชนหนาแน่นดู จะพบว่าแรงงานพม่าเปิดหน้าไม่ใส่แมสก์กันแทบทั้งหมด แม้แต่พ่อค้าแม่ค้าไทย ก็ประมาท พากัน “การ์ดตก” ไม่ยอมใส่แมสก์ ไม่รักษาระยะห่าง ลูกค้าก็เช่นกัน ใส่แมสก์บ้าง ไม่ใส่บ้าง เดินเบียดกันเหมือนกับยามปกติ ถ้าผู้ไปตลาดสดเกิดติดเชื้อเข้าสักคน สองคน ไวรัสโควิด-19 คงได้กลับมาแพร่ซ้ำเป็นคลื่นระลอก 2 ที่รุนแรงกว่าระลอกที่ 1 แน่ อย่าลืมว่า วัคซีนที่ไทยตกลงซื้อและเราผลิตเองได้นั้น กว่าจะนำมาใช้ได้จริงก็ตกกลางปีหน้า ถ้าวันนี้ไม่รักษาการ์ดให้เหนียวแน่น โอกาสที่จะได้รับวัคซีนคงไม่มี เพราะไม่เป็นผีก็ปอดพังเรื้อรังไปจนตายเสียก่อน