แสงไทย เค้าภูไทย การอภิปรายไม่ไว้วางใจ 1 นายกฯ 9 รัฐมนตรีที่จบลงด้วยการโหวตไว้วางใจ-ไม่ไว้วางใจที่ผลปรากฏว่า ฝ่ายรัฐบาลได้รับเสียงไว้วางใจตามคาด แต่ที่ไม่ตามคาดก็คือ มี ส.ส.“งูเห่า” ทั้งในพรรคฝ่ายค้านและพรรคร่วมรัฐบาลเลื้อยเพ่นพ่านไปทั้งสภาฯ การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งก่อนที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้คะแนนเสียงไว้วางใจมากที่สุดนั้น ลือกันว่า เพราะมีการ “แจกกล้วย”กันถ้วนทั่ว จนมี ส.ส.ฝ่ายค้านจำแลงกายเป็นงูเห่าหลายคน นอกจากกล้วยแล้ว มีคนเห็นส.ส.ฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้านนั่งชนแก้วไวน์กันเป็นที่ประจักษ์เสมอ ทั้งนี้เป็นด้วยแกนนำหรือกุญแจสำคัญของพรรคที่ถือเป็นมือแจกกล้วยและปรนเปรอไวน์แก่เพื่อนส.ส.ต่างพรรคนั้นมีความสัมพันธ์กันฉันเพื่อนร่วมพรรคก่อนหน้านี้แล้ว อย่าง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หรือชื่อเดิม ยุทธภูมิ โบพรหม, พชร โบพรหม, พชร พรหมเผ่า และมนัส พรหมเผ่า เป็นต้น ที่เคยสวมเสื้อไทยรักไทยมาจนถึงเพื่อไทยลงสนามมาแล้ว แต่มาได้เป็น ส.ส.เอาที่ พปชร. จึงเป็นธรรมดาอยู่เองที่เขาจะมีเพื่อน ส.ส.พรรคฝ่ายค้านมากมาย โดยเฉพาะเพื่อไทย และกับผู้ที่ได้คะแนนเสียงไว้วางใจสูงสุดได้แก่นายอนุทิน ชาญวีรกูล “เสี่ยหนู” รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยนั้น ก็เคยอยู่ไทยรักไทยมาด้วยกัน จึงไม่แปลกอันใดที่เขาจะเป็นแกนประสานสิบทิศในครั้งนี้ ผลลัพธ์ก็คือ ตัวเขาได้รับโหวตไว้วางใจมากกว่าตัวนายกฯเสียอีก แต่การประสานงานแบบเพื่อนเชื่อมเพื่อนของเขาก็มีนัยสำคัญที่น่าจับตามอง เพราะครั้งนี้ ประชาธิปัตย์ทำท่าจะถูกลอยแพ ทั้งลูกพรรคที่แสดงออกว่าไม่เอาหัวหน้าพรรค และความเสื่อมศรัทธาจากผลเลือกตั้งที่ตกไปอยู่อันดับ 4 หากมีการเปลี่ยนขั้ว เปลี่ยนแกน ก็น่าจะมีพรรคฝ่ายค้านมาเสียบแทนที่ปชป.ได้ในชั่วลัดนิ้วมือเดียว พรรคภูมิใจไทย แม้จำนวน ส.ส.น้อยพอๆกับ ปชป. แต่ก็มีเพื่อนมาก โดยเฉพาะตัวเชื่อมกับพรรคแกนนำฝ่ายค้านคือเพื่อไทยอันมีนพ.สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี “หมอเลี๊ยบ”อยู่ด้านหลังของเสี่ยหนู นพ.สุรพงษ์ อดีต รมว.หลายกระทรวงทั้งไทยรักไทยและเพื่อไทย เป็นที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข มาแต่ต้น มาตรการที่ใช้ในการแก้ปัญหาโควิด-19 ระบาดส่วนหนึ่งมาจากการให้คำปรึกษาของหมอเลี๊ยบต่อเสี่ยหนู ซึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อน เสี่ยหนูเป็นคนเปิดเผยเองว่าได้รับคำเตือนจากหมอเลี๊ยบให้เตรียมมาตรการป้องกันการระบาดระลอกสองของไวรัส อีกด้านหนึ่ง หมอเลี๊ยบเคยให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนว่า “ผีเศรษฐกิจน่ากลัวกว่าผีโควิด” ซึ่งก็เป็นที่มาของการเปิดเมืองหลังล็อกดาวน์ครั้งแรกและการระบาดระลอกสองที่ไม่ล็อกดาวน์ หากแต่ใช้มาตรการป้องกันอย่างเข้มงวดแทน สะพานเชื่อมเหล่านี้ ล้วนทำให้เสี่ยหนูได้รับการลงคะแนนไว้วางใจสูงสุด จึงน่าจับตาพรรคอันดับที่ 5 นี้เป็นพิเศษ เพราะในจำนวนพรรคที่มีส.ส.เข้าสภารวม 27 พรรค มากเป็นประวัติการณ์นี้ หากรวบรวมเสียงเล็กเสียงน้อยได้ทั้งหมด ก็จะมากพอที่จะเขี่ยพรรคที่ไม่มีผลงานได้ โดยเฉพาะเมื่อมีมือแจกกล้วยมาเป็นออร์กาไนเซอร์