ชัยวัฒน์ สุรวิชัย - วิศวจุฬาฯ สร้างคน คนสร้างชาติ ปู่จิ๊บรักและภูมิใจ ที่ได้เป็นชาววิศวจุฬาฯ ตั้งแต่ปี 2510 มีพี่เพื่อนน้องที่คิดดีทำดีเพื่อจุฬาฯและบ้านเมืองที่รักยิ่ง และค่ำคืนหนึ่ง วิศวฯจุฬาฯส่วนหนึ่งที่มีบทบาททั้งในอดีต-ปัจจุบัน:มาสังสรรค์กันครั้งแรก ในรอบ50 ปี. , พี่สงคราม สมบูรณ์ 2504 , พี่ฉายศิลป์ เชี่ยวชาญพิพัฒน์ 09 , พี่ต่อตระกูล ยมนาค 09 ,ชัยวัฒน์ สุรวิชัย 2510ธีรยุทธ บุญมี และเคียง เมฆวเศรษฐ์พันธ์ 2512 , ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล 2513,บวร ยสินทร-อภิชาต 2514, คุยกันอย่างมีความสุข ถึงความหลังครั้งก่อน ที่เคยมีเคยเป็นเคยทำร่วมกันมาให้ : วิศวฯ จุฬาฯ และบ้านเมืองฯ คนเหล่านี้ เป็นคนมีคุณภาพระดับสูงของวิศวจุฬา ที่คิดดีทำดีเพื่อตนเองผู้อื่น คณะวิศว จุฬาฯและบ้านเมือง - คนที่มีคุณภาพ เป็นปัจจัยสำคัญควบคู่ไปกับระบบและโครงสร้างสังคมที่เป็นธรรมและเป็นประชาธิปไตย เพราะ คนที่มีคุณภาพ คือคนที่มีความรู้สติปัญญา รักเคารพความจริง รักตนเองผู้อื่นชุมชนและบ้านเมือง มีความรับผิดชอบ และกล้าสู้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้องชอบธรรมและพัฒนาไปสู่สิ่งและสังคมที่ดีกว่าเพื่อส่วนรวม และในการทำงาน จะอาศัยความร่วมมือหรือการมีส่วนร่วมของประชาชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จ คนที่มีคุณภาพ จะมีความเป็นอิสระ เป็นตัวของตนเอง มิพึ่งพาหรือเป็นภาระให้ใคร เป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ ความเป็นอิสระที่แท้จริง คือ การสามารถยืนอยู่บนลำแข็งของตนเอง คิดและตัดสินใจด้วยตัวเองได้ แต่เป็นการตัดสินใจหรือทำสิ่งใด บนพื้นฐานของการรู้จริง มีข้อมูลที่ผ่านการตรวจสอบ และมีการสรุปเสมอ โดยมีคุณสมบัติที่สำคัญ คือ มีวิริยะอุตสาหะ จริงใจเคารพคน เอาจริง ไม่ทิ้งงาน จนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย เขาจะรักสิ่งสำคัญ 3 อย่าง ในการคิดและการปฏิบัติ คือ “ ความจริง ความถูกต้องเป็นธรรม และความดี “ การสร้างคนให้มีคุณภาพ ให้ไปไกลที่สุด มีพลังคิดดีทำดีเพื่อตนเองผู้อื่น ชุมชนและที่สำคํญที่สุด คือ บ้านเมือง คน เป็นหัวใจของทุกสิ่งทุกอยาง ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม กระบวนการยุติธรรม และธรรมชาติ รุกเป็น รับเป็น ถอยเป็น จึงจะครบสูตร ครบกระบวนการ เพราะ คนมิใช่มีแต่ความสำเร็จ แต่ก็มักจะมีความล้มเหลว ผ่านเข้ามาเสมอๆ คนที่มีแต่ความสำเร็จ เขาจะมีเพียงด้านเดียว และเมื่อล้มเหลว หรือผิดพลาดใหญ่ๆ อาจจะเอาตัวไม่รอด ผิดกับคนที่ล้มเหลวมาแล้ว เขาก็รู้ซึ้งถึง ความรู้สึกในช่วงนั้น และเมื่อผ่านมาได้ เขาก็จะยืนได้อย่างสง่า ฉะนั้น คนมีคุณภาพ จะมีความเข้าใจคุณค่าและความหมายของทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว โดยเฉพาะความล้มเหลว มีคุณค่าอนันต์เป็นสองเท่า เพราะ ความล้มเหลว คือ มารดรแห่งความสำเร็จ เมื่อสำเร็จ ก็อย่าเย่อหยิ่งพองขน แต่จะต้องศึกษาเรียนรู้พัฒนาให้เกิดความสำเร็จที่ดีขึ้นสูงขึ้นไปข้างหน้า และเมื่อล้มเหลว ก็ลุกขึ้นมาตรวจสอบ ถึงสาเหตุ ทั้งตัวเอง คนหรืองานที่เกี่ยวข้อง และสภาพแวดล้อม เมื่อค้นพบสาเหตุของความผิดพลาด ก็ปรับปรุงแก้ไขจุดอ่อนให้ดีขึ้น ให้สมบูรณ์ แล้วทำใหม่ให้สำเร็จ - ในช่วงที่บ้านเมืองมีปัญหาหรือเกิดวิกฤต คนที่มีคุณภาพจะเป็นคนกลุ่มแรกๆ ที่มาคิดมารวมพลังกัน แล้วลงมือ กล้าตัดสินใจ ที่จะเข้ามาร่วมกัน แก้ไขหรือทำลายสิ่งที่มิชอบธรรมที่ก่อให้เกิดปัญหาและวิกฤตนั้น ประเทศประชาธิปไตย ล้วนผ่านมาจากสังคมที่เหลื่อมล้ำไม่เป็นธรรมไม่เป็นประชาธิปไตย โดยคนมีคุณภาพ และที่สำคัญ มีผู้นำระดับรัฐบุรุษที่มีวิสัยทัศน์ กล้าคิดล้าตัดสินใจกล้าเสียสละเพื่อบ้านเมือง ขณะนี้ สังคมไทยที่จะผ่านวิกฤตไปได้ คนมีคุณภาพต้องร่วมสร้างสนับสนุนผู้นำสังคมให้ก้าวถึงขั้นรัฐบุรุษ - วันนี้ปู่จิ๊บ จะพาทุกท่าน มารู้จักกับบุคคลที่เป็นวิศวกรจุฬาฯ ที่มีคุณภาพคับแก้ว ตามที่ได้กล่าวถึง พี่สงคราม สมบูรณ์ 2504 , พี่ฉายศิลป์ เชี่ยวชาญพิพัฒน์ 09 , พี่ต่อตระกูล ยมนาค 09 ,ชัยวัฒน์ สุรวิชัย 2510อาจารย์ธีรยุทธ บุญมี และคุณเคียง เมฆวเศรษฐ์พันธ์ 2512 , ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล 2513, คุณบวร ยสินทร-คุณอภิชาติ ชิตามิตร 2514, - เรามารู้จักประวัติของวิศวกรรุ่นพี่รุ่นน้องของปู่จิ๊บเหล่านี้ อย่างคร่าวๆ เพื่อจะได้แง่คิดว่า “ ทางเดินของวิศวกรฯนี้ เป็นอย่างไร ? “ เขาถึงมีบทบาทที่ดีงามต่อ ตนเอง ครอบครัว วิศวจุฬาฯ หน่วยงานที่ทำงาน ชุมชน สังคมและประเทศชาติ 1. พี่สงคราม สมบูรณ์ รุ่น 2504 นายกสโมสรนิสิตจุฬาฯ ผู้มีสโลแกนว่า “ รักสันติภาพเลือกสงคราม” ทำงานด้านวิศวกรรมทั้งภายในและต่างประเทศ มีความรู้ประสบการณ์สูงในหลายด้าน มีความรักในการทำงานเพื่อส่วนรวมและประเทศชาติ และจะออกมาร่วมกับประชาชนเสมอฯ 2. พี่ฉายศิลป์ เชี่ยวชาญพิพัฒน์ รุ่น 2509 เคยได้รับเลือกตั้งจากนิสิตฯให้เป็นนายกสโมสรนิสิตุจุฬาฯ แต่ ต้องไปดูงานด้าน “ ผู้นำนักศึกษา “ ที่ได้รับเชิญจากสถานทูตอเมริกาประจำประเทศไทย 2-3 เดือน และเมื่อกลับมา สอบไม่ผ่านวิชาเดียว ในขณะที่เรียนซ้ำอยู่แล้วไม่ผ่าน จึงถูกรีไทร์ แต่ไปเรียนจบปริญญาตรีและโทที่ฟิลิปปินส์และที่เมืองไทย มาเป็นอาจารย์สอนที่ม.ธรรมศาสตร์หลายปี แต่ต่อมาออกไปทำงานธุรกิจส่วนตัว ประสบความสำเร็จอย่างสูง มีบริษัทที่มีผลงานระดับประเทศ 3. ดร.ต่อตระกูล ยมนาค รุ่น 2509 เป็นบุตรชาย ของ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ ยมนาค อดีต ผบตำรวจนครบาล จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงฯ ปริญญาเอกจากม.โนวา เซาท์อีสเทิร์น สหรัฐอเมริกา และวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นที่ 4111 (วปรอ.4111) สมรส กับภัทราดา (ดิษยมณฑล) ยมนาค ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการโรงเรียนนานาชาติ Bangkok Internationa Preparatory & Secondary School มีหน้าที่บทบาทสูงในวงการการศึกษา,ธุรกิจที่ปรึกษางานด้านวิศวฯ,ดูลแลการจัดซื้อจัดจ้าง 2.5หมื่นล้านฯ อดีตนายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.)ฯลฯ งานที่ให้ความสนใจพิเศษ คือ การตรวจสอบและปรามปรามผู้คอร์รับชั่นโกงกินทั้งการเมืองและรัฐบาลฯ ( เหตุการณ์นิสิตจุฬาฯ เดินขบวนต่อต้านผู้บริหารสมัยนายกประสาร มฤคพิทักษ์ ข้อมูลมาจากอาจารย์ต่อฯ) 4. นายชัยวัฒน์ สุรวิชัย รุ่น 2510 อุปนายกและนายกสโมสรนิสิตจุฬาฯ ปี 2514 ทำงานทั้งในคณะวิศวฯ งานชมรมต่างๆและงานสโมสรนิสิตจุฬาฯ และงานการเมืองภายนอกมหาวิทยาลัย ทำงานมากทุกอย่าง ทั้งกิจกรรม เชียร์ รับน้อง งานวิชาการ งานชมรมปาฐกถาฯ งานค่ายสจม.-มุสลิมฯ เรียนน้อยทำกิจกรรมมาก จึงเรียนทั้งหมด 6 ปี แต่มีประสบการณ์เรื่องจิตอาสาฯและบ้านเมือง ขอพูดเรื่องความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับพี่น้องวิศวฯชุดนี้ คือ จะมีความสนิทสนมคุ้นเคย เชื่อใจและไว้วางใจ เคารพรักซึ่งกันและกันอย่างเสมอภาคกัน ( แม้ว่าจะอยู่ในระบบโซตัส อาวุโสของวิศวฯและจุฬาฯ ) พูดกันตรงไปตรงมา ให้ข้อมูลความจริงต่อกัน ตามประสบการณ์ ในเรื่องของบ้านเมืองที่รักของเรา บุคคลที่อาจจะสนิทสนมกันมากเป็นพิเศษ คือ อาจารย์ธีรยุทธ บุญมี และ ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล เคยไปที่บ้าน พบปะพูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่ และการร่วมงานกิจกรรมของสโมสรนิสิตจุฬาฯ ที่ ปู่จิ๊บ ได้เริ่มต้นเข้าไปคลุกคลีก่อนในทุกระดับ ตั้งแต่ ปี 2511 และมีส่วนสนับสนุนซึ่งกันและกันตลอดมา โดยเฉพาะช่วงเหตุการณ์วิกฤต กรณี 14 ตุลาคม 2516 รวมทั้งก่อนและหลังจากนั้น และสำหรับอาจารย์ธีรยุทธ ก้ได้ร่วมกิจกรรมทางการเมืองมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ “ ต่อต้านสินค้าญี่ปุ่นจนถึง การเดินทางไปด้วยกัน ในการเข้าร่วมการต่อสู้กับพคท.ในชนบท ช่วง ช่วงเหตุการณ์ 6ตุลา 2519 5. อาจารย์ธีรยุทธ บุญมี รุ่น 2512 เกิดในครอบครัวยากจน พ่อชื่อจ่าฉิม แม่ชื่อนางสมจิตร ศาสตราจารย์ ธีรยุทธ บุญมี (เกิด 10 มกราคม พ.ศ. 2493) เป็นนักวิชาการ นักวิจารณ์การเมือง และนักเขียนรางวัลศรีบูรพา อดีตเลขาธิการ ศนท. ผู้นำนักศึกษาเหตุการณ์ 14 ตุลา เป็นอาจารย์ประจำ คณะสังคมวิทยาฯ ม.ธรรมศาสตร์ เป็นศาสตราจารย์ สาขามานุษยวิทยา ในปี พ.ศ. 2555 สอบได้ที่หนึ่งของประเทศในสายวิทยาศาสตร์ ด้วยคะแนน 91.90 % ปี 2511 มีผลงานในงานเขียนมากมายและสนใจในการวาดภาพที่โดดเด่นคนหนึ่ง และมีบทบาททางการเมือง ในเชิงวิเคราะห์สถานการณ์และข่าวสารบ้านเมืองมาโดยตลอดฯ 6. คุณเคียง เมฆวเศรษฐ์พันธ์ รุ่น 2512 มีบทบาททางด้านสหกรณ์ของจุฬาฯและหลายวงการ ตั้งบริษัทเกี่ยวกับ ที่ปรึกษาแนะนำการบริหารจัดการงานและเทคโนโลยี่ฯทั้งในประเทสและต่างประเทศ ในสมัยเป็นนิสิตวิศวฯจุฬาฯ นอกจากทำงานด้านวิชาการและสหกรณ์ของจุฬาฯแล้ว ยังมีผลงานในฐานะกลุ่มตัวแทนคนหนึ่งของนิสิตวิศวฯจุฬาฯ ในการเรียกร้อง “ เงินพิเศษ 5000บาท “ คืนให้กับนิสิตวิศวกรทั่วประเทศ จนประสบความสำเร็จ ( ซึ่งปู่จิ๊บ ก็ได้ร่วมด้วยในฐานะนิสิตอาวุโสฯ ) คุณเคียง เป็นวิศวกรที่มีคุณภาพและคุณธรรม และผลิตงานที่มีคุณภาพออกมาประจำ ฯลฯ 7. ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล รุ่น 2513 อดีตนายกสโมสรนิสติจุฬาฯ2516 (พระเทพฯ เป็นน้องใหม่จุฬาฯ ) เกิด 20 สิงหาคม พ.ศ. 2495 ประธานกรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ ประธานกรรมการในคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้างในรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชาคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ ตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2557 คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษาในรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการเตรียมการยุทธศาสตร์ชาติ ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 8/2560 [4] อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย อดีตประธานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิต และ ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการในคณะอนุกรรมการร่วมไทย-เมียนมาร์ ฝ่ายไทยสาขาการเงิน อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกสิกรไทย เขาทำงานเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ในช่วงวิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2548–2553 และวิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2556–2557 ซึ่งมีความขัดแย้งทางการเมืองอย่างรุนแรง จนนาย กิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.คลังใน รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กล่าวว่า อยากปลดเขาทุกวัน แต่ติดขัดข้อกฎหมาย พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย ฉบับแก้ไข พ.ศ. 2551 และเกรงว่านายประสารจะใช้สิทธิฟ้องกลับนาย กิตติรัตน์ ณ ระนอง ทางศาลปกครอง โดย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวตำหนิเขาอย่างรุนแรงจากกรณีที่เขาไม่ยอมลดดอกเบี้ย.