เสรี พงศ์พิศ FB Seri Phongphit “กินดีเป็นศรีแก่ตัว กินมั่วตัวใครตัวมัน” (เมียสอน) เขียนไว้ท้ายรถสิบล้อคันหนึ่งบนถนนมิตรภาพ นับเป็นสิ่งสะท้อนสำนึกเรื่องสุขภาพวันนี้ได้ดีไม่น้อย บทความนี้คงไม่ลดความสุขของการฉลองคริสต์มาสและปีใหม่ ที่ฉลองกันได้โดยไม่ทำร้ายตัวเอง ซึ่งไม่ใช่อะไรที่ยุ่งยาก เพียงแต่ควรใช้ข้อมูลความรู้ช่วยบ้าง เพื่อจะได้กินอย่างมีความสุขทั้งตอนกินและหลังกิน ทั้งวันนี้และวันหน้า เพราะหลายอย่างไม่ได้เห็นผลทันตา สะสมไว้แล้วค่อยๆ ปรากฏตัวขึ้นมาทีละน้อย กว่าจะรู้ก็อาจเหมือนกบอยู่ในหม้อที่ค่อยๆ ร้อนจนหนีออกไปไม่ได้ ที่ร้ายแรงมากและน่าจะหลีกเลี่ยงได้ คือ เบาหวาน ที่ตามตัวเลขทางการอาจจะเพียง 4.8 ล้านคน แต่ถ้ารวมผู้ที่ไม่ทราบว่าเป็นเบาหวาน (น้ำตาลสูงกว่า 125 มก./ดล.) อาจจะมากกว่านี้ถึงเท่าตัว และถ้ารวมคนที่ใกล้จะเป็นเบาหวาน (100-125) คงอีกอย่างน้อย 10 ล้านคน ดูจากตัวเลขที่เพิ่มขึ้นสูงทุกปี การแพทย์กระแสหลักดูจะยังยืนยันว่า เบาหวานเป็นโรคเรื้อรัง เป็นแล้วไม่หาย ต้องกินยาตลอดชีวิต แล้วมีตัวเลขที่น่ากลัวให้อีกว่า เป็นหนักเข้าอาจจะตาบอดและต้องตัดขา มีคนตายวันละ 200 คนเพราะโรคนี้ ขณะที่ “หมอกระบวนทัศน์ใหม่” ที่มองโรคนี้แตกต่างจากกระแสหลักบอกว่า เบาหวานหายได้ถ้าเข้าใจที่มาสาเหตุ และแก้ที่ต้นเหตุนั้น พร้อมกับให้ผลการรักษาด้วยวิธีดังกล่าว คือ ด้วยการกินอาหารและการอดแบบ IF (intermittent fasting) ที่กำลังแพร่หลายไปทั่วโลก แพทย์แนวนี้เห็นว่า สาเหตุของเบาหวานมาจากการดื้ออินซูลิน ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นและร่างกายสะสมไขมันส่วนเกินไว้มาก เพราะไม่ได้ถูกนำออกมาใช้ เนื่องจากคนกินมาก โดยเฉพาะกินบ่อย กินวันละ 3 ครั้งยังไม่พอ มีเบรกอีก 2 แล้วอาจจะข้าวต้มรอบดึก กินจุบกินจิบ ขนม น้ำอัดลม กาแฟเย็น ไม่ขาดปาก การกินทุกครั้งร่างกายจะผลิตอินซุลินขึ้นมาเพื่อนำอาหารที่ถูกแปรเป็นกลูโกสไปให้เซลล์ ซึ่งเมื่อเซลล์เต็มแล้วก็ปิด ไม่รับอีก จึงเรียกว่าดื้ออินซูลิน วิธีที่จะแก้เบาหวาน หรือป้องกันเบาหวาน คือ กินให้น้อยครั้งลง เพื่อให้ร่างกายไม่ต้องผลิตอินซูลินขึ้นมา ด้วยเหตุนี้ สาเหตุของความอ้วนก็ดี เบาหวานก็ดี จึงมุ่งไปที่อินซูลิน และแก้ไขที่นี่ ด้วยการลดจำนวนครั้งของการกินลง และเลือกกินอาหารที่ไม่เพิ่มน้ำตาล ด้วยเหตุนี้ วิธีป้องกันเบาหวาน และการแก้ไขเบาหวาน ไม่ว่าจะลดอาการลงไปจนถึงอาจหายได้ คือการ อดอาหารอย่างถูกวิธีประการหนึ่ง และการหลีกเลี่ยงอาหารอันตรายอย่างน้อย 3 ประเภท คือ 1. น้ำตาล โดยเฉพาะน้ำตาลทราย น้ำตาลอะไรก็ได้ เรียกว่าหย่าขาดกันเลยยิ่งดี ไม่ต้องเติมน้ำตาลในอาหาร ในเครื่องดื่ม เลิกน้ำอัดลม ดื่มกาแฟดำ ไม่ใส่ครีมหรือน้ำตาล เพราะร่างกายไม่ได้ขาดน้ำตาล ซึ่งมีอยู่ในอาหารพวกแป้ง ผัก ผลไม้ ที่ควรเลือกที่ไม่หวานจัด หลีกเลี่ยงขนม ของหวานทุกชนิด โดยเฉพาะที่ผลิตโดยอุตสาหกรรม พวกเบเกอรี ไอศกรีม ยกเว้นทำเองและไม่ใส่น้ำตาล ซึ่งมีมากมายหลายวิธี หาข้อมูลได้ง่าย 2. อาหารพวกแป้ง โดยเฉพาะผู้ที่เป็นเบาหวานและใกล้จะเป็นควรหลีกเลี่ยงให้หนัก คือพวกแป้งขัดขาว ข้าวขาว ก๋วยเตี๋ยว อาหารพวกเส้นทั้งหลาย ขนมที่เป็นแป้งและหวาน ผักผลไม้ที่มีแป้งสูง อย่างที่เป็นหัวจากใต้ดิน มันฝรั่ง มันเทศ เผือก แครอต ซึ่งก็ทานได้ ยังดีกว่าพวกแป้งขัดขาว เลือกทานข้าวกล้อง ข้าวกล้องงอก ขนมปังโฮสวีท ซึ่งทำได้เองยิ่งดี เพราะจะได้โฮสวีทของแท้ 3. อาหารผ่านกระบวนการแปรรูป (processed food) โดยเฉพาะกระบวนการอุตสาหกรรม ที่ใช้สารเคมี อาหารพวกเนื้อ ผัก ผลไม้ต่างๆ เลือกอาหารสดดีที่สุด สดจากธรรมชาติ เนื้อสัตว์ ปลา นำมาปรุงอาหารเลย ไม่กลัวไขมันในเนื้อสัตว์ที่เราถูกทำให้กลัวกันมาหลายสิบปี แพทย์ยุคใหม่แนะนำให้ทานไขมันจากธรรมชาติเป็นดีที่สุด ไขมันสัตว์ อย่างน้ำมันหมู น้ำมันมะพร้าวสะกัดเย็น น้ำมันมะกอกสะกัดเย็น หลีกเลี่ยงน้ำมันพืชต่างๆ ที่ผ่านกระบวนการและทำให้เกิดโอเมก้า 6 ซี่งมากเกินไปก็จะให้โทษ อาหารแปรรูป พวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เครื่องดื่ม น้ำผลไม้ ซึ่งอาจจะเหลือแต่เพียงน้ำตาล สี และน้ำเท่านั้น ไม่ให้ประโยชน์อะไร แต่เพราะมีน้ำตาลที่ไปกระตุ้นให้รู้สึกสดชื่นระยะสั้น แต่ไปเพิ่มอินซูลิน อาหารหมักดองบางอย่างก็มีประโยชน์ มีโปรไบโอติก จุลินทรีย์ดีต่อสุขภาพมากอย่างกะหล่ำเปรี้ยวเยอรมัน กิมจิของเกาหลี มิโซะของญี่ปุ่น ถั่วเน่า ข้าวหมากของไทย ก็ควรหาข้อมูลบ้างก็จะดี ว่าอาหารแปรรูปแบบไหนดีและไม่ดีอย่างไร อะไรที่เราทำกินเองที่บ้าน การถนอมอาหารแบบโบราณยังดีกว่าการแปรรูปยุคใหม่ที่เร่งด้วยสารเคมีเพื่อให้ทันขายและขายได้นาน ใช้สารกันบูด ไขมันทรานซ์ ที่มาจากการอัดไฮโดรเจน แม้จะมีกฎหมายกำหนด แต่เมื่อเขียนว่าไขมันทรานซ์ 0% อาจจะแปลว่าต่ำว่า 0.5% ที่ถ้าหากกินมากก็เกินอยู่ดี สรุปว่า ถ้าจะฉลองคริสต์มาสปีใหม่ ถ้าทำได้ก็ทำอาหารทานเองที่บ้านกับครอบครัว ถ้าต้องออกไปฉลองข้างนอก ในร้านอาหารก็เลือกที่ดีมีประโยชน์ ถ้าจะฉลองโต้ลมหนาว ปิ้งย่างก็เพียงไม่ให้เกิดควันดำ ลดอาหารพวกแป้งลง ทานผักให้มาก เพราะผักช่วยย่อยโปรตีนเนื้อสัตว์ได้ดี ลดน้ำตาล เครื่องดื่มก็มีน้ำสมุนไพรมากมายหลายชนิดที่ทำเองได้ง่าย ถ้าจะดื่มแอลกอฮอล์ก็ให้พอประมาณ ไม่เมาจนเข้าบ้านผิด ปีหนึ่งฉลองครั้งหนึ่งก็ไม่ว่ากัน ถ้ากินอย่างมีสติ ใช้ข้อมูลความรู้ โรคภัยไข้เจ็บไม่ถามหาแน่นอน โดยเฉพาะเบาหวานที่สามารถหลีกเลี่ยงได้จริง เพราะเป็นแล้วจะไม่ได้มีแต่โรคไตวาย ตาดบอดหรือตัดขา แต่อาจจะไปถึงเส้นเลือดตีบตัน อัมพฤกษ์อัมพาต นอนติดเตียง เป็นแผลก็ไม่หาย เป็นโรคหัวใจ และอาจเป็นมะเร็ง และโรคร้ายแรงอื่นๆ ไม่ควรรอให้เป็นแล้วค่อยหาทางแก้ไข ป้องกันไว้ตอนนี้ดีกว่า เพราะกินดี สุขภาพดี มีความสุขไม่ใช่อะไรที่ยาก หากแต่เราถูกสังคมครอบงำจนพึ่งพาตนเองไม่ได้ ที่สุดก็ป่วยและต้องพึ่งหมอพึ่งยาไปตลอดชีวิต