เสรี พงศ์พิศ FB Seri Phongphit โลกไม่เคยหยุดหมุน สังคมไม่เคยหยุดเปลี่ยนแปลง “ไม่มีใครลงไปในแม่น้ำสายเดียวสองครั้งได้” นักปราชญ์กรีกบอกเมื่อสองพันปีก่อน สังคมไทยก็เปลี่ยน ไม่ว่าบางช่วงจะเหมือนไหลกลับ แต่เพราะเป็นธรรมชาติของแม่น้ำที่ไม่ไหลตรง แต่คดเคี้ยวไปมา เช่นเดียวกับประวัติศาสตร์ที่เป็นวิภาษวิธี ปี 2564 ได้เห็นการเติบโตของคนรุ่นใหม่อายุยังไม่ถึง 30 ปีหรือ 30 เศษมากมายหลายคน ไม่แต่คนที่ทำสตาร์ตอัพที่กลายเป็นยูนิคอร์น ธุรกิจเกินสามหมื่นล้านบาท แต่รวมไปถึงเด็กหนุ่มไฟแรงอย่างเคน นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ ผู้ก่อตั้ง The Secret Sauce พอตแกสท์ที่ประสบความสำเร็จสูง มีคนชมรวมนับล้าน และกล้าหาญจัดงานใหญ่ในฐานะบรรณาธิการบริหาร The Standard เรื่องการปฏิรูปประเทศไทย เชิญนักคิด นักปฏิบัติ ผู้นำนับร้อยในทุกภาคส่วนมาร่วมเสวนา นับเป็นเวทีที่สื่อสารความคิด ประสบการณ์ วิชาการกับประชาชนได้กว้างขวางที่สุด และดีที่สุดของหลายปีที่ผ่านมา งานที่ไม่อาจคาดหวังให้มหาวิทยาลัย หรือองค์กรอย่างทีดีอาร์ไอจัด เพราะข้อจำกัดหลายอย่าง โดยเฉพาะวิธีคิด ไม่ใช่ขาดงบประมาณ แต่ความกล้าหาญที่จะหาคำตอบต่อคำท้าทาย โจทย์ใหม่ของสังคม คนรุ่นใหม่ คิดใหม่ อาจจะเหยียบไหล่ยักษ์ขึ้นไปบ้าง แต่ก็ทำให้เกิดนวัตกรรมที่คนรุ่นเก่าส่วนใหญ่คาดไม่ถึง แต่ก็มีธนาคารไทยพาณิชย์ สถาบันการเงินที่เก่าแก่ที่สุดในไทยที่ปรับเปลี่ยนตัวเอง ไม่ใช่ “ไมเนอร์” แต่ “เมเจอร์” คือทั้งแนวคิด รูปแบบ และกระบวนการเลยทีเดียว กลายเป็นองค์กรเทคโนโลยีการเงิน ที่น่าสนใจ คือ การที่ SCBx ร่างแม่ใหม่ของไทยพาณิชย์เข้าไปเทกโอเวอร์บิทคับ สตาร์ตอัพที่ทำธุรกิจแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซี ทำให้หนุ่มวัย 30 ปีอย่างท็อบ จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา กลายเป็นเศรษฐีหมื่นล้านเพียงข้ามคืน และภาพของคริปโตเคอร์เรนซีดูดีขึ้น สวนกระแสเตือนภัยของมหาอำนาจการเงินโลก หรือสาวไทยที่ชื่อ ญาดา ปิยะจอมขวัญ ผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มลงทุน Aijab ที่อินโดนีเซีย ที่กลายเป็นสตาร์ตอัพยุนิคอร์น ธุรกิจ 30,000 ล้าน ที่เร็วที่สุดในอาเซียน เธออายุเพียง 28 ปี หรือคมสันต์ ลี หนุ่มน้อยชาวไทยเชื้อสายจีนวัย 30 ปีจากเชียงราย ที่ผันตัวเองก่อตั้งแฟลช เอ็กซ์เพรส บริษัทโลจิสติกส์ที่กลายเป็นยุนิคอร์นก่อนใครในปี 2564 ระดมทุนได้เกิน 30,000 ล้าน ส่งพัสดุได้ปีละ 2 ล้านชิ้น ได้ใจผู้บริโภคเพราะไปรับของถึงหน้าบ้าน เหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่าง ยังมีคนหนุ่มสาวอีกมากมาย อายุ 20-40 ปีที่กำลังเปลี่ยนสังคมไทย โดยไม่ได้รอการเปลี่ยนแปลงจากรัฐบาล พวกเขาไม่ได้ตามรัฐ แต่รัฐต้องตามพวกเขา และนี่คือสิ่งที่จะเกิดมากขึ้นเรื่อยๆ ที่เริ่มต้นอย่างน่าประหลาดใจในปี 2564 ท่ามกลางโควิดระบาด แต่การพัฒนาไม่ได้ชะงัก การเปลี่ยนแปลงไม่ได้หยุด เพราะไม่มีอะไรที่ขวางกั้นกระแสน้ำได้ ต่อไปอาจไหลเชี่ยว อาจไม่ใช่ยุคของดิจิทัล แต่เข้าสู่ยุควอนตัม ที่การเปลี่ยนแปลงจะเร็วขึ้นอีกเป็นทวีคูณ คนหนุ่มสาวเหล่านี้เป็นต้นแบบที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ เหมือนกับที่เกิดขึ้นในอเมริกา ในยุโรป ที่คนรุ่นใหม่ผงาดขึ้นมานำการเปลี่ยนแปลงไม่แต่ทางเทคโนโลยี แต่ทางการเมือง ซึ่งดูจะซับซ้อนกว่า และยากลำบากกว่า แต่ก็มีพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่อายุน้อยมากขึ้นเรื่อยๆ ซานนา มาริน เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงของฟินแลนด์อายุ 34 ปี เซบาสเตียน คูร์ซ เป็นนายกรัฐมนตรีออสเตรีอายุเพียง 30 เมื่อปี 2017 หลุยจี ดิ มัตเตโอ เป็นรองนายกรัฐมนตรีอิตาลีเมื่อายุ 31 ปี ปัจจุบันอายุ 33 ปี เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ Syed Saddiq รัฐมนตรีเยาวชนและกีฬาของมาเลเซียระหว่างปี 2518-2520 เมื่ออายุเพียง 25 ปี มีผู้นำประเทศอีกจำนวนมากที่อายุต่ำกว่า 40 ปี เช่น อันดอร์รา, คอสตาริกา, ไฮติ, นิวซีแลนด์, เอลซัลวาดอร์, เกาหลีเหนือ, ยูเครน, กษัตริย์ของภูฏานและผู้นำของกาตาร์ เป็นต้น ล่าสุด รัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมน อันนาเลนา แบร์บ็อก เป็นผู้นำหญิงจากพรรคสีเขียวอายุ 40 ปีที่ตอนแรกเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงและเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีต่อจากอังเกลา แมร์เคิล แต่ก็ไม่ได้รับเลือก เมื่อพรรคของเธอได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล จึงได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กาเบรียล บอริช ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนล่าสุดของชิลี นักการเมืองฝ่ายซ้ายในวัยเพียง 35 ปี ผู้นำชิลีที่หนุ่มที่สุดในประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ปี 2020 ต่อเนื่องมาถึง 2021 การเมืองไทยมีการประท้วงของคนรุ่นใหม่ มีทั้งนักเรียน นักศึกษา ที่แสดงออกต่อเนื่องด้วยสัญลักษณ์ต่างๆ โดยเฉพาะ “สามนิ้ว” พวกเขา “หิวกระหายการเปลี่ยนแปลง” เรียกร้องให้สังคมเปลี่ยนจากสภาพปัจจุบันที่เป็น เผด็จการทางการเมือง ผูกขาดทางเศรษฐกิจ อำนาจนิยมทางวัฒนธรรม และเต็มไปด้วยระบบอุปถัมภ์ ที่สร้างความเหลื่อมล้ำและความไม่เป็นธรรม สังคมไทยวันนี้ยังอยู่ในมือของผู้ใหญ่ ซึ่งไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ต่อไปคนหนุ่มสาวเหล่านี้ก็จะขึ้นมาแทน มีคนเก่งที่จะเป็นผู้นำสังคมได้ไม่แพ้ประเทศใดในโลก ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง ยังเด็กนักเรียนอายุยังไม่ถึง 18 ที่เป็นอนาคตของประเทศไทย อีก 10 กว่าปี พวกเขาก็ยังอายุไม่ถึง 30 โลกเปลี่ยนไปแล้ว สังคมไทยโดยการนำของผู้ใหญ่ กำลังหลงยุคและถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เพราะยังคิดเหมือนเดิม ทำเหมือนเดิม ไม่ฟังเสียงของคนรุ่นใหม่ ซึ่งมักถูกมองว่าไม่รักดีไม่รักชาติ เพราะคิดต่างและต้องการการเปลี่ยนแปลง ยังมีคนอย่างเคน นครินทร์ อีกจำนวนมาก ที่จะปรากฏตัวขึ้นมาในปี 2565 ที่จะประสานพลังคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่าที่มีแนวคิดที่เปิดกว้าง ยอมรับการเปลี่ยนแปลง และพร้อมที่จะรับฟังคนรุ่นใหม่ สื่อโซเชียลจะปรับตัวไปสู่คุณภาพมากขึ้น คนจะแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้กันมากขึ้น และจะค่อยๆ ปรับตัวเป็นสังคมความรู้ บ่อเกิดพลังทางปัญญาที่จะนำสังคมก้าวไปข้างหน้า ไม่ว่าใครจะต่อต้าน จะชอบหรือไม่ก็ตาม