แสงไทย เค้าภูไทย

ดัชนีคอร์รัปชัน โลกปีนี้แนวโน้มลดลง โดยเฉพาะไทย อันดับลดลงแล้วก็จะลดลงอีก จากกรณีอื้อฉาวโดยปี 2021 ลดลง 3 อันดับคะแนนลดลง 3 คะแนน -2.63% เปรียบเทียบ +2.94% ในยุคยิ่งลักษณ์

ทุกปี องค์กรความโปร่งใสระหว่างประเทศ ( Transparency International) จะประกาศผลการจัดอันดับดัชนีคอร์รัปชันโลก (Corruption Perception Index-CPI )ใน 180 ประเทศ ซึ่งจะเผยแพร่ตัวเลขคะแนนชี้วัดค่าคอร์รัปชันในปีที่ผ่านมาของแต่ละประเทศแล้วนำมาจัดอันดับ เป็นดัชนี เผยแพร่ราวๆวันที่ 24-25 มกราคม ของทุกปี

ปีที่แล้วเผยแพร่เมื่อ 24 มกราคม ผลสำหรับประเทศไทย ได้ค่าคอร์รัปชัน 35 คะแนนจากคะแนนเต็ม 100 อันดับ

ความโปร่งใสลดลง 6 อันดับจากกลุ่มคะแนนอันดับที่ 104 ตกลงมาอยู่กลุ่มคะแนนอันดับที่ 110

ประเทศที่ได้คะแนนความโปร่งใสสูงสุด หรือคอร์รัปชันต่ำสุด ลำดับที่ 1 ได้ 88 คะแนน เท่ากัน 3 ประเทศคือเด็นมาร์ก ฟินแลนด์และนิวซีแลนด์ อันดับ 4  นอร์เวย์กับสิงคโปร์ คะแนน 85 เท่ากัน

ดัชนีคอร์รัปชัน  CPI ที่กำลังจะออกมาปีนี้ หากดูตามกระแสข่าวการคอร์รัปชันในวงราชการของไทยในระยะนี้แล้ว ดูท่าไม่ดีเลย

ไม่ว่าจะเป็นข่าวส่วยในกรมอุทยานแห่งชาติ ข่าวสินบนตู้ห่าว ข่าวค่าเปลี่ยนชื่อป้ายสถานีกลางบางซื่อ ฯลฯ ล้วนแต่เป็นตัวบ่งชี้สถานการณ์คอร์รัปชันในประเทศไทย ที่เลวร้ายยิ่งขึ้นทุกที

พฤติกรรมคอร์รัปชันเหล่านี้ น่าจะบั่นทอนคะแนนชี้วัดค่าคอร์รัปชันไม่น้อย

 ปีนี้น่าจะได้ คะแนนในกลุ่ม 33-34 คะแนน(มีคะแนนเท่ากันหลายประเทศ)  อันดับน่าจะตกลงไป อีก 2-3 อันดับ อยู่ในราวอันดับที่ 113-114

มีการเปรียบเทียบคะแนน ตำแหน่งในดัชนี CPI ของ 4 นายกรัฐมนตรีไทย พบว่า  2นายรัฐมนตรี เป็นทหารมีคะแนนติดลบ มากที่สุด

ตัวเลขเปรียบเทียบคะแนนโปร่งใสในช่วงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทั้งสี่ ตามช่วงเวลาที่ดำรงตำแหน่ง มีดังนี้

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ช่วงดำรงตำแหน่ง 22/5/ 2014 (22/5/2557) – ปัจจุบัน (2557-2566 ) เริ่มต้น คะแนน 38 อันดับ ล่าสุด 35 ส่วนต่าง -2.63%

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 5/8 /2011- 7/5/2014 (2554-2557) เริ่ม 34 คะแนน สิ้นสุด 37 ส่วนต่าง +2.94%

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ15/12/ 2208- 2/8/2214 เริ่ม 34 คะแนน สิ้นสุด 34  คะแนน ส่วนต่าง 0.00 %

พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ 1/10/ 2006-29/1/2008 เริ่มต้น 36 คะแนน สิ้นสุด 33 คะแนน ส่วนต่าง -8.33 %

ทำไมทหารเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วมีการคอร์รัปชันมากขึ้น ?

เหตุผลก็คือ ทหารที่เป็นนายกรัฐมนตรีได้นั้นก็ได้มาจากกการทำรัฐประหาร มีอำนาจเบ็ดเสร็จ เผด็จการ

การทำรัฐประหารหรือยึดอำนาจการปกครองนั้น ต้องใช้กองกำลังทุกเหล่าทัพ เพื่อป้องกันการขัดขืนต่อต้านจากฝ่ายรัฐบาล ซึ่งในอดีตเคยมีเหตุการณ์รัฐประหารล้มเหลว หัวหน้าคณะยึดอำนาจกลายเป็นกบฏโดนประหารชีวิตก็มี

ดังนั้น เมื่อกองกำลังทุกฝ่ายร่วมกันยึดอำนาจได้สำเร็จ ผู้นำยึดอำนาจก็จำต้องตอบแทนน้ำใจอย่างที่คสช.ปูนบำเหน็จไป

ไม่ว่าจะตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯสารพัดตำแหน่ง ที่ปรึกษา หรือกรรมการในรัฐวิสาหกิจกว่าร้อยตำแหน่ง ส.ว.ฯลฯ

กลายเป็นการอวยประโยชน์แบบไม่โปร่งใส และยังมีการคอร์รัปชันแฝงที่ข้าราชการประจำอาศัยใบบุญของ “คนของนายกฯ” ทำมาหากินในทางมิชอบซ้อนขึ้นมาอีก

ด้วยความไม่โปร่งใสและข่าวคอร์รัปชันอื้อฉาวสะพัดรายวันเช่นนี้ จึงมีแนวโน้มว่าส่วนต่างของคะแนนชี้วัดค่าคอร์รัปชันของพลเอกประยุทธ์ ปีนี้ น่าจะติดลบถ่างออกไปอีก

วันนี้พรุ่งนี้ มาลุ้นกันว่าตัวเลขจะลบเท่าใด ?