แสงไทย เค้าภูไทย

การยุบสภาก่อนวาระแค่ 3 วัน มีนัยว่า จะทำให้การย้ายพรรคทำกันได้ใหม่ ทำให้เชื่อว่าจะมีการช้อปปิ้งว่าที่ส.ส.กันด้วยสนนราคาแพงระยับ ส่วนกฎกติกาในการเลือกตั้งยังเหมือนเดิมโดยเฉพาะการนับคะแนนหลังปิดหีบที่จะทำให้เกิดบัตรเขย่งแบบครั้งที่แล้ว

การที่โพลสำรวจความนิยมในตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีกับคะแนนพรรค ทุกโพลผลออกมาว่า ถ้าเลือกตั้งวันนี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะถูกทิ้งสุดกู่ทั้งคะแนนบุคคลทั้งคะแนนพรรค

ความหวังของบิ๊กตู่ที่จะทำคะแนนให้ได้สูงพอที่จะเป็นพรรคเสียงข้างน้อยแต่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างเลือกตั้ง 2562 จึงอยู่ที่การอาศัยตัวช่วยต่างๆ เช่นกลไกรัฐ การดึงอดีต ส.ส.จากพรรคอื่นๆที่มีแนวโน้มว่าจะกลับเข้าสภาได้อึกมาเสริม

รวมทั้งลูกเล่น ในการนับคะแนนเสียงแบบแยบยลที่ กกต.ที่มีท่าทีเป็นกำลังภายในสร้างกลไกที่เอื้อประโยชน์ให้พลพรรคบิ๊กตู่กำหนดกติกาใหม่

นั่นคือการนับคะแนนเสียงหลังปิดหีบ ที่จะไม่มีการนับคะแนนหน้าหน่วยเลือกตั้ง หากจะนำไปนับกันภายหลังแล้วจึงนำมาประกาศผล

เลือกตั้งกันมาตั้งแต่ยุคปู่ยุคทวดนับคะแนนกันที่หน่วยเลือกตั้ง โชว์บัตรลงคะแนนให้ประชาชนเห็นกันจะๆเพื่อความโปร่งใส มีคนเขียนกาเครื่องหมายบนกระดานดำให้เห็นกันชัดๆ

จบแล้วก็ทิ้งไว้อย่างนั้น คนที่ไม่ได้มาเฝ้าดูอย่างใจจดใจจ่ออย่างพวกหัวคะแนน ก็มาดูกันภายหลังได้

แต่แม้จะนับคะแนนโชว์กันจะๆอย่างนั้น เลือกตั้ง 2562 ก็ยังมีการตุกติกในการนับคะแนน

โดยหลังนับคะแนนหน้าหน่วยเลือกตั้งแล้ว เก็บบัตรคืนลงหีบ ปิดล็อกกุญแจแน่นหนานำไปเก็บในห้องนิรภัย

แต่พอประกาศผลอย่างเป็นทางการ จำนวนตัวเลขบางหน่วยกลับไม่ตรงกันกับที่นับกันหน้าหน่วยลงคะแนน โดยตัวเลขของพรรคพปชร.ที่ชูบิ๊กตู่เป็นนายกฯมีคะแนนเพิ่มขึ้น

เมื่อมีการโวยวายทักท้วงขึ้นมา กกต.ก็อธิบายว่าเป็น “บัตรเขย่ง” อย่างหน้าตาเฉย

เป็นคำศัพท์ใหม่ทางรัฐศาสตร์ที่ยังตีความกันไม่ได้มาจนทุกวันนี้

ขนาดนับคะแนนให้เห็นกันจะๆยังทำกันได้ ถ้าครั้งนี้ปิดหีบหลังหมดเวลาลงคะแนน แล้วขนหีบไปเก็บแล้วไปนับกันทีหลัง

บัตรเขย่งมิกลายเป็นบัตรโขยก คะแนนให้ล้นกระดานหรือ ?

นอกจากใช้กลไกหรือกลโกงนับคะแนนเสียงแล้ว เลือกตั้งครั้งนี้ คาดว่าจะมีเงินสะพัดท่วมสนามเลือกตั้ง

ข่าวการซื้อตัวว่าที่ตัวเต็งส.ส.กันด้วยค่าตัวราคาสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ และคาดว่าจะมีการหว่านเงินซื้อเสียงกันมโหฬาร มีไม่ขาดสาย

น่าจะเป็นการดีที่มีการกระจายรายได้ไปทั่วประเทศ

แต่ไม่ว่าจะซื้อจะหว่านเงินกันขนาดไหน จะมีบัตรเขย่งกันอย่างไร ผลการเลือกตั้งก็จะเป็นเหมือนปี 2562 คือเพื่อไทยยังจะเป็นพรรคที่คะแนนเสียงสูงสุดเช่นเคย

ขึ้นอยู่กับว่าจะได้มากแค่ไหน จะมากพอจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่

สภาพการณ์และบริบททางการเมืองวันนี้ ไม่เหมือนกับปี 62

โดยเฉพาะการกาบัตร 2 ใบกับการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ที่เป็นตัวแปรในการเพิ่ม-ลดจำนวน ส.ส.ในสนามเลือกตั้ง

ขณะที่ในสนามเลือกนายกฯ ตัวช่วยสำคัญคือ ส.ว.ที่เคยเท 250 เสียงให้บิ๊กตู่เต็มๆ

กับพรรคต่ำสิบกว่าสิบพรรคมาผสมกับ 3-4 พรรคขนาดกลางจนเป็นรัฐบาลผสม ที่มีจำนวนพรรคร่วม 19 พรรค ทำสถิติรัฐบาลผสมมีพรรคร่วมมากที่สุดในประวัติศาสตร์

แต่ครั้งนี้ จะมีตกหล่น แยกเป็น 3 ส่วนแล้ว จะหายไปไม่ต่ำกว่า 80 เสียง

ฃณะที่คนที่มีศักยภาพในการรวบรวมเสียงได้ขนาดนั้น ตอนนี้ไม่เอาลุงตู่แล้ว

ไปอยู่ฝั่งตรงกันข้าม เด็ดขาดแล้ว เกมไม่พลิกแน่นอน