ยังคงไร้ความชัดเจนใด ๆสำหรับเงื่อนปมที่ยังเป็น ปัญหาคาใจ เมื่อการประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ 2 ก.ค.66 ที่ผ่านมา ไม่มีหารือวาระร้อนๆ เรื่องเก้าอี้ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าที่สุดแล้ว พรรคก้าวไกลกับ พรรคเพื่อไทย 2พรรคใหญ่ในรัฐบาลเสียงข้างมาก ได้คำตอบออกมาว่าเช่นใด
 

สิ่งที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรี ให้คำตอบแก่สื่อมวลชนที่ไปรอฟังการแถลงข่าว จึงกลายเป็นเรื่อง ไม่มีอะไรในกอไผ่ เมื่อ พิธา บอกเพียงว่าเรื่องนี้ต้องให้เกียรติพรรคเพื่อไทย ให้ไปหารือกันในพรรค


 เท่ากับว่า เวลานี้หากจะ นับถอยหลัง ที่จะไปถึงวันเลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯอีก 2 คนในวันที่ 4 ก.ค.นี้ พรรคก้าวไกล ที่ประกาศส่ง ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก ของพรรคลงชิงตำแหน่งประธานสภาฯ มิต้องมาลุ้นกันต่อไปหรือไม่ว่า พรรคเพื่อไทย จะไม่ส่ง ใคร ลงมาแข่งในลู่เดียวกัน


 ขณะที่หารือระหว่าง พรรคก้าวไกล-พรรคเพื่อไทย อยู่ในอาการคาบลูกคาบดอก  ไม่ต่างจากการ วัดใจ ว่า ข่าวลือ  จะเป็นจริงหรือไม่ว่าความสัมพันธ์ 8 พรรคร่วมรัฐบาล นั้นกำลังรอวัน ฉีกเอ็มโอยู เท่านั้น แต่สำหรับ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ก.ค. เจ้าตัวเพิ่งนำทัพตัดปฐมนิเทศ ส.ส.ใหม่ของพรรค ท่ามกลางบรรยากาศอันคึกคัก 


 การเคลื่อนไหวของพล.อ.ประวิตร ถูกจับตามองมาโดยตลอด ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง เพราะดูเหมือนว่า ไม่ว่า พรรคพลังประชารัฐ จะมีตัวเลขส.ส.เข้าสภาฯได้กี่ที่นั่งก็ตาม กลับยังไม่มีน้ำหนักมากเท่ากับประเด็นที่ว่า  บิ๊กป้อม คือหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ ที่ยิ่งนานวัน คล้ายกับจะมีความเป็นไปได้มากขึ้น 


 ยิ่งเมื่อ โอกาสที่พิธา จะได้รับเสียงโหวตให้นั่งนายกฯจาก ส.ว. น้อยเต็มที และถึงแม้จะมีแคนดิเดตนายกฯ จาก พรรคเพื่อไทย ก้าวขึ้นมาแทน ในลำดับต่อไป ก็ใช่ว่าคนของพรรคเพื่อไทย จะทำลาย ค่ายกล ทางการเมือง จากมาตรา 272  ให้ส.ว. โหวตนายกฯ เพื่อให้ได้เสียงในสภา ฯ 376เสียง 


 ท่าทีจากพล.อ.ประวิตร ที่ไม่สนองตอบต่อ ข่าวลือ ที่สะพัดทั้งในฐานะที่เข้าไปเกี่ยวข้อง เปิด ดีลลับ กับ ทักษิณ ชินวัตร  อดีตนายกฯ หรือการเป็นว่าที่นายกฯ แบบส้มหล่น หากคนของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยฝ่าด่านส.ว.ไม่สำเร็จ 
 แต่ย่อมไม่ได้หมายความว่า พรรคพลังประชารัฐ จะ หมดลุ้น เพราะว่ากันว่าหนทางไปสู่ นายกฯคนที่ 30 นั้นยังอีกยาวไกล  !